พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,035 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขอแสดงความเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายหลังคู่สมรสเสียชีวิต และขอเพิกถอนทะเบียนสมรสที่จดทะเบียนกับผู้อื่น เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
เมื่อคดีได้ความว่าการสมรสของนายทองไทยได้สิ้นสุดลงแล้วโดยการตายของนายทองไทย และโจทก์บรรยายฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายทองไทยจำเลยมิใช่ภริยา การจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายทองไทยเป็นโมฆะขอให้สั่งเพิกถอนเสียนั้น คำขอเช่นนี้ไม่บังเกิดผลอะไรแก่สิทธิในครอบครัวของโจทก์กับนายทองไทยส่วนสิทธิในการรับมรดกของนายทองไทยนั้น โจทก์มิได้ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้แต่อย่างใด ทำนองจะเลี่ยงค่าธรรมเนียมในการรับมรดก จึงเป็นฟ้องที่ไม่ควรรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่ทำโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ แม้ผู้ซื้อสุจริต ก็มีสิทธิ์เรียกร้องคืนได้
มีผู้อื่นเอาที่ดินไปขายฝากโดยปลอมลายมือชื่อของเจ้าของที่ดินลงในใบมอบอำนาจว่าเจ้าของที่ดินมอบอำนาจให้เอาที่ดินไปขายฝากได้ แม้ผู้รับซื้อฝากจะซื้อไว้โดยสุจริต เจ้าของที่ดินก็ย่อมมีสิทธิ์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากได้ เพราะเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ขาย นิติกรรมการขายฝากระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ซื้อจึงไม่มีต่อกัน (อ้างฎีกาที่ 2049/92,1866/94) และกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 821,223,1329,1332 ทั้งไม่ใช่เรื่องบอกล้างโมฆียะกรรมตาม ม. 143 ด้วย
อายุความฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่มีผู้เอาไปโอนโดยไม่มีอำนาจ จะใช้อายุความตามป.วิ.อาญา มาตรา 51 ไม่ได้
อายุความฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่มีผู้เอาไปโอนโดยไม่มีอำนาจ จะใช้อายุความตามป.วิ.อาญา มาตรา 51 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่เกิดจากการปลอมแปลงเอกสารและไม่มีอำนาจ การฟ้องติดตามทรัพย์คืนไม่ขาดอายุความ
มีผู้อื่นเอาที่ดินไปขายฝากโดยปลอมลายมือชื่อของเจ้าของที่ดินลงในใบมอบอำนาจว่าเจ้าของที่ดินมอบอำนาจให้เอาที่ดินไปขายฝากได้แม้ผู้รับซื้อฝากจะซื้อไว้โดยสุจริตเจ้าของที่ดินก็ย่อมมีสิทธิ์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากได้ เพราะเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ขายนิติกรรมการขายฝากระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ซื้อจึงไม่มีต่อกัน(อ้างฎีกาที่2049/92,1866/94) และกรณีเช่นนี้ไม่ต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821,223,1329,1332 ทั้งไม่ใช่เรื่องบอกล้างโมฆียะกรรมตาม มาตรา143 ด้วย
อายุความฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่มีผู้เอาไปโอนโดยไม่มีอำนาจ จะใช้อายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา51 ไม่ได้
อายุความฟ้องร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่มีผู้เอาไปโอนโดยไม่มีอำนาจ จะใช้อายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา51 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมในคดีเพิกถอนพินัยกรรม: การแสดงข้อหาหลายนัยขัดแย้งกัน
การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนพินัยกรรมโดยกล่าวในฟ้องอ้างว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม และว่าถึงแม้จำเลยจะพิสูจน์ได้ว่าลายพิมพ์นิ้วมือดังกล่าวเป็นลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม ก็เป็นลายพิมพ์นิ้วมือที่พิมพ์ลงในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมถูกกลฉ้อฉล, ข่มขู่, ในขณะเสพสุราจนเมามายไม่สามารถครองสติได้ หรือขณะที่จริตวิกล กล่าวคือสติวิปลาศ ไม่รู้สึกผิดชอบ ความจำฟั่นเฟือนและหลงไหล หรือได้ถูกพิมพ์ลงขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมได้ถึงแก่กรรมแล้ว เช่นนี้ เป็นฟ้องที่แสดงข้อหาเป็นหลายนัย ขัดแย้งกันในตัว เป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลต้องยกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 51/2487 และ 493/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์กรรมสิทธิ์และเจตนาทุจริตของผู้รับซื้อ
เมื่อโจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายระหว่างจำเลยที่ 1 - 2 โจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความชัดว่า ที่ดินและห้องพิพาทเป็นของโจทก์ครอบครองมาจนได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 รับซื้อไว้โดยไม่สุจริต เมื่อ โจทก์มิได้จดทะเบียนสิทธิของโจทก์ไว้ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา 1299 โจทก์ก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกคือ จำเลยที่ 2 ผู้รับโอนที่ดินพิพาทไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิไว้แล้วนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประพฤติเนรคุณต่อมารดาเป็นเหตุให้เพิกถอนการให้ทรัพย์สินได้
จำเลยได้ด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรง เป็นการหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง ถือได้ว่าจำเลยได้ประพฤติเนรคุณโจทก์ผู้เป็นมารดา โจทก์ถอนคืนการให้เสียได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 531(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนที่ดินโดยไม่สุจริต: สิทธิของผู้รับโอนที่ดินและผลกระทบต่อผู้โอน
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเดิมเป็นของบิดามารดาโจทก์โจทก์ได้รับมรดกมารดามาส่วนหนึ่ง บิดาสละให้โจทก์อีกส่วนหนึ่ง แล้วบิดากลับเอาไปโอนขายให้จำเลย จำเลยรับโอนไว้โดยไม่สุจริต ขอเพิกถอนการโอน และแสดงว่าเป็นที่ของโจทก์ จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นของบิดาโจทก์โอนขายให้จำเลยโดยสุจริต โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยประเด็นข้อเดียวว่า จำเลยรับโอนที่ดินจากบิดาโจทก์โดยสุจริตหรือไม่ ดังนี้ เมื่อคดีได้ความว่า จำเลยรับโอนโดยไม่สุจริต โจทก์ย่อมชนะคดีและแม้โจทก์จะไม่ได้ฟ้องบิดาด้วย ศาลก็ย่อมชี้ขาดทั้งในข้อที่ว่า ที่ดินเป็นสิทธิของโจทก์ และให้เพิกถอนนิติกรรมที่บิดาโจทก์โอนขายให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิไม่สุจริตในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ไม่ตัดสิทธิฟ้องเพิกถอน แม้มิได้คัดค้านตามมาตรา 20
มาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 บัญญัติเกี่ยวกับวิธีการที่จะยื่นตัดค้านต่อเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสิทธิฟ้องร้อง ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่คัดค้านต่อเจ้าพนักงาน ภายใน 3 เดือน ตามมาตรา 20 นี้ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลย ให้เพิกถอนการจดทะเบียน เพราะใช้สิทธิไม่สุจริตแต่อย่างใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เพิกถอนโฉนดที่ดินหลังทำสัญญาซื้อขายแล้ว กรณีจำเลยจดทะเบียนโอนสิทธิให้ผู้อื่นเป็นทางเสียเปรียบ
จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้ว แต่ยังไม่ได้ไปทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะการผัดผ่อนของจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 สมคบกันยินยอมใส่ชื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4,5,6,7 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่พิพาทแม้การยอมให้จำเลยที่ 2,4,5,6,7 ลงชื่อในโฉนดที่พิพาทนั้น เพราะจำเลยที่ 1 ได้ยกที่พิพาทให้ก็ดี แต่การที่จำเลยได้จดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่พิพาทเป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อนแล้ว โจทก์อาจเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนนั้นได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1300
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เพิกถอนโฉนดที่ดินจากการจดทะเบียนเสียเปรียบแก่ผู้มีสิทธิทำสัญญาซื้อขายก่อน
จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายที่ดินพิพาทให้โจทก์แล้วแต่ยังไม่ได้ไปทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะการผัดผ่อนของจำเลยที่1 ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 สมคบกันยินยอมใส่ชื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4,5,6,7 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่พิพาท
แม้การยอมให้จำเลยที่ 2,4,5,6,7 ลงชื่อในโฉนดที่พิพาทนั้นเพราะ จำเลยที่ 1 ได้ยกที่พิพาทให้ก็ดี แต่การที่จำเลยได้จดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่พิพาทเป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อนแล้ว โจทก์อาจเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนนั้นได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300
แม้การยอมให้จำเลยที่ 2,4,5,6,7 ลงชื่อในโฉนดที่พิพาทนั้นเพราะ จำเลยที่ 1 ได้ยกที่พิพาทให้ก็ดี แต่การที่จำเลยได้จดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่พิพาทเป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อนแล้ว โจทก์อาจเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนนั้นได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300