คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โมฆะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินกฎหมายทำให้เช็คเป็นโมฆะ ผู้สั่งจ่ายไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ร่วมได้เรียกร้องเอาดอกเบี้ยจากเงินที่โจทก์ร่วมนำมาให้จำเลยยืมไปลงทุนค้าพลอยโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย อันเป็นความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราพ.ศ.2475 และจำเลยได้ออกเช็คให้โจทก์ร่วมเพื่อชำระเงินดอกเบี้ยดังกล่าว โจทก์ร่วมย่อมไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับให้ใช้เงินจำนวนตามเช็คนั้นซึ่งมีมูลหนี้โดยผิดกฎหมายได้จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 แม้ขณะที่ออกเช็คนั้น จำเลยจะไม่มีเงินอยู่ในบัญชีพอที่จะจ่ายเงินจำนวนตามเช็คนั้น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1291/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความหลังศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เป็นโมฆะ เจ้าหนี้รู้อยู่แล้วว่าลูกหนี้ล้มละลาย
เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ชั่วคราวแล้ว อำนาจในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือดำเนินคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ก็เป็นของเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 22 ประกอบด้วยมาตรา 6 วรรค 8 หนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งลูกหนี้ทำไว้หลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวยอมใช้หนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ จึงไม่สมบูรณ์ เพราะเกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามมาตรา 94(1) ทั้งเชื่อว่าเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นด้วยการสมยอม จึงรับฟังเป็นหลักฐานแห่งหนี้โดยชอบประกอบคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 91 วรรค 2 ไม่ได้
ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 24 เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้วลูกหนี้ยังอาจกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของตนถ้าได้กระทำการตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาลได้แต่เฉพาะกรณีที่ บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลายเท่านั้นเมื่อพระราชบัญญัติล้มละลายมิได้มีบทบัญญัติให้ศาลมีคำสั่งให้ความ เห็นชอบหรืออนุญาตให้ลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้เองแต่อย่างใด การที่ศาลทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้จะถือว่าศาลให้ความเห็นชอบหรืออนุญาตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินที่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อกฎหมายเป็นโมฆะ
ทำสัญญาจะขายที่ดินรับเงินมัดจำไว้ 30,000 บาท ความจริงเป็นค่าวิ่งเต้นที่ผู้ขายสัญญาจะให้แก่ผู้ซื้อเพื่อจัดการให้พนักงานสอบสวนระงับคดีที่ผู้ขายต้องหาว่าปลอมเอกสาร เป็นการที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นโมฆะตาม มาตรา 113 ผู้ซื้อมาฟ้องให้โอนที่ดินหรือใช้ค่าเสียหายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งที่ดินหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้โมฆะ โจทก์เรียกคืนได้
ข้อตกลงแบ่งที่ดินให้จำเลยลงชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดแทนโจทก์เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหนี้ของภริยาโจทก์ยึดบังคับชำระหนี้นั้น เป็นโมฆะ คู่กรณีกลับสู่ฐานะเดิม โจทก์เรียกเอาส่วนของโจทก์คืนได้ จำเลยอ้างการครอบครองยันโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2496/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่านาที่เรียกเก็บค่าเช่าเกินอัตราตามกฎหมายตกเป็นโมฆะตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 นอกจากจะมีบทบัญญัติห้ามมิให้ผู้ให้เช่าเรียกเก็บค่าเช่านาเกินกว่าอัตราไว้ในมาตรา 5 และมีบทกำหนดโทษฝ่าฝืนในมาตรา 16 แล้ว ยังมีบทมาตราอื่น ๆ ที่แสดงให้เป็นได้ชัดว่ามุ่งประสงค์ที่จะคุ้มครองผู้เช่านาอีกหลายกรณี
การที่จำเลยเต็มใจให้ค่าเช่านาเกินกว่าอัตราที่พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 กำหนดไว้ และโจทก์ผู้ให้เช่าก็ตกลงยอมรับนั้น ถือได้ว่าเป็นการให้จำเลยผู้เช่ามีหน้าที่หรือรับภาระซึ่งตามกฎหมายจำเลยไม่ต้องมีหน้าที่หรือต้องรับภาระ จึงไม่เป็นการผูกพันจำเลยตามนัย มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 ที่จะต้องชำระค่าเช่านาให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2496/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่านาที่เป็นโมฆะเนื่องจากค่าเช่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และการรับภาระเกินหน้าที่ตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 นอกจากจะมีบทบัญญัติห้ามมิให้ผู้ให้เช่าเรียกเก็บค่าเช่านาเกินกว่าอัตราไว้ในมาตรา 5 และมีบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนในมาตรา 16 แล้ว ยังมีบทมาตราอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นได้ชัดว่ามุ่งประสงค์ที่จะคุ้มครองผู้เช่านาอีกหลายกรณี
การที่จำเลยเต็มใจให้ค่าเช่านาเกินกว่าอัตราที่พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 กำหนดไว้ และโจทก์ผู้ให้เช่าก็ตกลงยอมรับนั้น ถือได้ว่าเป็นการให้จำเลยผู้เช่ามีหน้าที่หรือรับภาระซึ่งตามกฎหมายจำเลยไม่ต้องมีหน้าที่หรือต้องรับภาระ จึงไม่เป็นการผูกพันจำเลยตามนัย มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493ที่จะต้องชำระค่าเช่านาให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสาระสำคัญ นิติกรรมค้ำประกันและจำนองเป็นโมฆะ
ธ.หลอกให้ว.พิมพ์ลายนิ้วมือลงในใบมอบอำนาจให้จำนองและในสัญญาค้ำประกันแก่ ก. โดยอ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายที่ดินแก่ ธ.เป็นการสำคัญผิดในสารสำคัญแห่งนิติกรรม การค้ำประกันและจำนองเป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้อง, การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้ทำตามกฎหมาย, และสิทธิของเจ้าหนี้ในการบังคับคดี
คดีไม่มีการชี้สองสถาน คู่ความมีสิทธิขอแก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันนัดสืบพยาน
คำขอท้ายฟ้องในส่วนแพ่งมี 2 ข้อ จำเลยฎีกาว่า คำขอท้ายฟ้องในส่วนแพ่ง โจทก์ไม่มีสิทธิขอมาในคดีนี้ และไม่เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา โดยจำเลยมิได้กล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาว่าเป็นคำขอข้อใด ฎีกาดังนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลย่อมไม่วินิจฉัยให้
จำเลยที่ 1 ขายห้องแถวให้จำเลยที่ 3 โดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการซื้อขายจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 ห้องแถวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิร้องขอให้บังคับคดีเอากับห้องแถวนั้นได้ ศาลจึงไม่ต้องวินิจฉัยว่า การซื้อขายนั้นเป็นการฉ้อฉลหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2422/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลบังคับใช้สัญญาขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในอนาคต: สัญญาเป็นโมฆะหากเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น
จำเลยทำสัญญากู้ 3,000 บาท กับว่าจะจ่ายเงินสดอีก 2,000 บาท ในวันที่ศาลพิพากษาคดีที่บุตรจำเลยถูกฟ้องฐานขับรถโดยประมาททำให้บุตรโจทก์ตาย โจทก์ยื่นคำแถลงขอให้ศาลปราณีแก่จำเลยในคดีอาญา ศาลพิพากษาจำคุกบุตรจำเลย จำเลยไม่จ่ายเงิน ดังนี้ เป็นสัญญาที่มีผลบังคับได้ แต่ต้องเป็นเรื่องบุตรจำเลยไม่ถูกจำคุกด้วย จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายเงิน 5,000 บาทตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2036/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โมฆะตั้งแต่แรก: การติดตามทรัพย์สินจากนิติกรรมโมฆียะและการโอนสิทธิที่มิชอบ
ส.ภริยาโจทก์ได้ขายที่พิพาทให้แก่ก.กับพวกไปโดยโจทก์มิได้ให้ความยินยอม โจทก์ฟ้อง ส.และก.กับพวกเป็นคดีแรกขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเสีย ปรากฏว่า ก. กับพวกขายที่พิพาทแก่จำเลยที่ 1 ไปแล้วโจทก์จึงขอให้ศาลเรียกจำเลยที่ 1 เข้าเป็นจำเลยร่วมในคดีนั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นว่า นิติกรรมซื้อขายที่ดินระหว่าง ส. กับ ก. และพวก เป็นโมฆะ ให้เพิกถอนเสีย และเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่าง ก. กับพวก กับจำเลยที่ 1 เสียด้วย ศาลฎีกาพิพากษายืน ขณะที่คดีแรกอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยที่ 1 ได้ขายฝากที่พิพาทแก่จำเลยที่ 2 และที่พิพาทหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 แล้ว โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ให้ทำลายนิติกรรมการขายฝากระหว่างจำเลยทั้งสองเสียดังนี้ การที่โจทก์ฟ้อง ส. กับพวก ขอให้เพิกถอนนิติกรรมอันเป็นโมฆียะในคดีแรกนั้น ถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างนิติกรรมแล้ว เมื่อในที่สุดศาลพิพากษาว่านิติกรรมดังกล่าวเป็นโมฆะ นิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138 วรรคแรกการที่ ก.กับพวก โอนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 1 ก็ดี หรือจำเลยที่ 1ขายฝากที่พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ก็ดี เป็นอันใช้ยันโจทก์ไม่ได้ เพราะการขายต่อ ๆ มา จำเลยที่ 1 ไม่มีอำนาจที่จะโอนขายได้ เข้าหลักที่ว่าผู้รับโอนไม่มีอำนาจดีกว่าผู้โอน เพราะนิติกรรมอันเดิมเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรกเสียแล้ว โจทก์ย่อมใช้สิทธิตามเอาทรัพย์สินตามมาตรา 1336 ได้ กรณีเช่นนี้ จะนำมาตรา 1299 และ 1300 มาปรับแก่คดีหาได้ไม่ ส่วนมาตรา 1329 นั้น ต้องได้ความว่า ได้ทรัพย์สินมาในระหว่างที่ยังไม่มีการบอกล้างโมฆียะกรรม ถ้าได้มาภายหลังล้างโมฆียะกรรมแล้ว ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครอง
of 132