พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ทรัพย์ขายฝากก่อนกำหนด: การตีความมาตรา 494 และ 492 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 494,492 บัญญัติเป็นใจความว่า ท่านห้ามไม่ให้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์ที่ขายฝาก ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อพ้นกำหนด 10 ปี หรือเมื่อพ้นกำหนดที่กำหนดไว้ในสัญญา ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ทำสัญญาขายฝากที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างไว้กับจำเลยมีกำหนด 2 ปี ตามนัยของกฎหมายดังกล่าวเป็นที่เห็นได้ว่ากฎหมายไม่ได้ห้ามโจทก์ใช้สิทธิไถ่ก่อน 2 ปี ดังนี้ ภายในกำหนด 2 ปี โจทก์จะใช้สิทธิไถ่เมื่อใดก็ได้ เมื่อจำเลยไม่ยอมให้ไถ่ก็ต้องถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ขอไถ่ที่ดินคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ภาษีเกินกำหนด: สิทธิโต้แย้งหมดไป แม้การประเมินจะผิดพลาด
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30 ได้กำหนดเวลาไว้ให้ผู้ต้องเสียภาษีอุทธรณ์การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับแจ้งการประเมิน เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้วินิจฉัยสั่งยกอุทธรณ์โดยอ้างเหตุว่า มิได้ยื่นอุทธรณ์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ผู้ต้องเสียภาษีไม่อุทธรณ์คำวินิจฉัยในข้อนี้ต่อศาล ก็ไม่มีทางที่ศาลจะพิจารณาชี้ขาดว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ฯ ที่ให้ยกอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดเวลานั้นไม่ชอบ เพราะผู้ต้องเสียภาษีหมดสิทธิโต้แย้งเสียแล้ว และแม้คณะกรรมฯ ได้วินิจฉัยว่าไว้ด้วยว่า การประเมินของเจ้าพนักงานชอบด้วยกฎหมายและระเบียบการแล้ว ผู้ต้องเสียภาษีก็หมดสิทธิที่จะรื้อฟื้นการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินขึ้นโต้แย้งต่อไปได้(อ้างนัยฎีกาที่ 810/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งวันขายทอดตลาด: จำเลยมีสิทธิคัดค้านหากไม่ได้รับการแจ้งโดยชอบ และยังไม่พ้นกำหนด 8 วัน
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่แจ้งวันขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่ยึดมาตามคำพิพากษาให้จำเลยทราบก่อนวันขายทอดตลาดนั้น จำเลยย่อมยื่นคำร้องคัดค้านได้เมื่อยังไม่พ้นกำหนด 8 วัน นับแต่วันที่จำเลยได้ทราบ
เมื่อยังไม่ได้ความแน่ชัดว่า จำเลยได้รับแจ้งวันขายทอดตลาดโดยชอบหรือไม่ ก็ชอบที่ศาลจะทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป
เมื่อยังไม่ได้ความแน่ชัดว่า จำเลยได้รับแจ้งวันขายทอดตลาดโดยชอบหรือไม่ ก็ชอบที่ศาลจะทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1549/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเมื่อทายาทขอเข้าดำเนินคดีแทนโจทก์หลังพ้นกำหนดเวลาตามกฎหมาย
คดีที่อยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล โจทก์ได้มรณะเสียก่อนศาลพิพากษาคดี ทายาทของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าดำเนินคดีแทนเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์มรณะเช่นนี้ ศาลก็ต้องมีคำสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 วรรคสอง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 วรรคสองนั้นเป็นที่เห็นได้ชัดว่ากฎหมายประสงค์ให้ศาลจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความเท่านั้น มิได้ให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจที่จะสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตอย่างใด (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2508)
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 วรรคสองนั้นเป็นที่เห็นได้ชัดว่ากฎหมายประสงค์ให้ศาลจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความเท่านั้น มิได้ให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจที่จะสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตอย่างใด (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2508)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝากภายในกำหนด: กรรมสิทธิ์กลับคืนสู่ผู้ขายฝาก โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
โจทก์ฟ้องาขอให้ขับไล่จำเลยออกจากเรือนซึ่งโจทก์รับซื้อฝากจากจำเลยและพ้นกำหนดไถ่ถอนแล้ว จำเลยต่อสู้ว่าได้ติดต่อขอไถ่คืนภายในกำหนดแล้ว แต่โจทก์เบี่ยงบ่ายจนพ้นกำหนดอายุขายฝากทั้งเมื่อพ้นกำหนดแล้วจำเลยขอไถ่ โจทก์ก็ยินยอมและรับเงินสินไถ่บางส่วนไปแล้ว ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังข้อต่อสู้ของจำเลย กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทก็จะต้องกลับคืนไปเป็นของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 492 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ คดีจึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามข้อต่อสู้ของจำเลยต่อไป จะงดสืบพยานเสียมิชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝากภายในกำหนด: กรรมสิทธิ์กลับคืนผู้ขายฝาก, ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
โจทก์ฟ้องขอขับไล่จำเลยออกจากเรือนซึ่งโจทก์รับซื้อฝากจากจำเลยและพ้นกำหนดไถ่ถอนแล้ว จำเลยต่อสู้ว่าได้ติดต่อขอไถ่คืนภายในกำหนดแล้ว แต่โจทก์เบี่ยงบ่ายจนพ้นกำหนดอายุขายฝาก ทั้งเมื่อพ้นกำหนดแล้วจำเลยขอไถ่โจทก์ก็ยินยอมและรับเงินสินไถ่บางส่วนไปแล้ว ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังข้อต่อสู้ของจำเลย กรรมสิทธิ์ในเรือนพิพาทก็จะต้องกลับคืนไปเป็นของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 492 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ คดีจึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามข้อต่อสู้ของจำเลยต่อไป จะงดสืบพยานเสียมิชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนด แต่มีเหตุผลอันสมควร ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
วันสุดท้ายที่โจทก์มีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานเป็นวันพืชมงคลอันเป็นวันหยุดราชการ วันถัดมาเป็นวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการเช่นเดียวกัน โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันจันทร์ ศาลชั้นต้นสั่งรวมโจทก์นำพยานที่ระบุไว้มาสืบในวันอังคาร ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าโจทก์มีเจตนาฝ่าฝืน และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์ดังกล่าวประกอบกับมาตรา 87(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีสมควรจะรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนด: ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
วันสุดท้ายที่โจทก์มีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานเป็นวันพืชมงคลอันเป็นวันหยุดราชการ วันถัดมาเป็นวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการเช่นเดียวกัน โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันจันทร์ ศาลชั้นต้นสั่งรวม โจทก์นำพยานที่ระบุไว้มาสืบในวันอังคาร ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าโจทก์มีเจตนาฝ่าฝืน และเมื่อพิจารณาพฤติการณ์ดังกล่าวประกอบกับมาตรา 87(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีสมควรจะรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธหนี้ในคดีล้มละลาย: ต้องยื่นคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนด หากเลยกำหนดต้องรับผิดชอบหนี้
มาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 เป็นบทบัญญัติให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใช้สิทธิเรียกร้องแก่บุคคลที่เป็นลูกหนี้ของผู้ล้มละลายโดยเฉพาะ ผู้ที่ได้รับหนังสือทวงหนี้จะโต้แย้งหรือคัดค้านประการใด ก็ต้องร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนด 14 วัน และถ้าตนได้รับความเสียหายจากคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลในกำหนด 14 วันได้ แต่เมื่อผู้ร้องไม่โต้แย้ง จนศาลได้ออกคำบังคับผู้ร้องให้ชำระหนี้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ผู้ร้องจึงมีหน้าที่ต้องชำระและจะมาขออนุญาตปฏิเสธหนี้ต่อศาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธหนี้ในคดีล้มละลาย: ต้องปฏิเสธภายใน 14 วัน มิฉะนั้นถือว่ายอมรับหนี้
มาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 เป็นบทบัญญัติให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใช้สิทธิเรียกร้องแก่บุคคลที่เป็นลูกหนี้ของผู้ล้มละลายโดยเฉพาะ ผู้ที่ได้รับหนังสือทวงหนี้จะโต้แย้งหรือคัดค้านประการใด ก็ต้องร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนด 14 วัน และถ้าตนได้รับความเสียหายจากคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลในกำหนด 14 วันได้ แต่เมื่อผู้ร้องไม่โต้แย้ง จนศาลได้ออกคำบังคับผู้ร้องให้ชำระหนี้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ผู้ร้องจึงมีหน้าที่ต้องชำระและจะมาขออนุญาตปฏิเสธหนี้ต่อศาลไม่ได้