คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1793/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความ และผลของการส่งมอบเอกสารไม่ครบถ้วน
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสองคดีนี้มีใจความเพียงว่าจำเลยทั้งสองยอมโอนใบอนุญาตโรงเรียนและเอกสารเกี่ยวกับกิจการโรงเรียนให้แก่โจทก์กับยอมออกจากทรัพย์มรดกภายใน15วันหากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามยอมให้บังคับคดีได้ทันทีและหายไม่ยอมโอนใบอนุญาตและเอกสารต่างๆเกี่ยวกับกิจการโรงเรียนให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสองหรือให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงหาได้มีข้อความว่าถ้าจำเลยทั้งสองส่งมอบเอกสารให้โจทก์ไม่ครบถ้วนจำเลยทั้งสองต้องชำระเงินจำนวน3,000,000บาทแก่โจทก์เป็นการชดใช้ค่าเสียหายด้วยเลยเช่นนี้หากโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองส่งมอบเอกสารให้แก่โจทก์ไม่ครบถ้วนอันเป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วโจทก์ก็ชอบที่จะขอให้บังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองเพื่อให้จำเลยทั้งสองส่งมอบเอกสารให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้นหามีสิทธิขอให้บังคับจำเลยทั้งสองนำเงินจำนวน3,000,000บาทมาวางศาลเพื่อชดใช้เงินค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วยไม่เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา271เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะขอให้บังคับคดีนอกเหนือจากที่ปรากฏในคำพิพากษาหรือคำสั่งหาได้ไม่ เอกสารเกี่ยวกับกิจการโรงเรียนที่จำเลยทั้งสองจะต้องส่งมอบให้แก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความสูญหายไปการส่งมอบเอกสารพิพาทจึงกลายเป็นพ้นวิสัยศาลย่อมไม่อาจบังคับให้จำเลยทั้งสองปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้ส่งเอกสารพิพาทนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์จากขายทอดตลาดเมื่อเจ้าหนี้บังคับคดีทรัพย์สินลูกหนี้ร่วมและทรัพย์สินอื่นไม่พอชำระหนี้
ผู้ร้องอ้างในคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาสืบทราบว่าโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยและได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่สมบูรณ์แล้วไม่เคลือบคลุมส่วนผู้ร้องจะสามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยได้หรือไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณาหาจำต้องบรรยายไว้ด้วยไม่ แม้ผู้ร้องจะนำยึดที่ดินของลูกหนี้ตามคำพิพากษารายหนึ่งไว้แล้วแต่ราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินไว้ไม่พอชำระหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้องเมื่อจำเลยซึ่งเป็น ลูกหนี้ตามคำพิพากษาอีกรายหนึ่งไม่มีทรัพย์สินอื่นๆที่ผู้ร้องสามารถบังคับคดีได้โดยสิ้นเชิงแล้วผู้ร้องจึงมีสิทธิขอเฉลี่ยเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยในคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม: ศาลฎีกาชี้ว่าการตีความสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นอำนาจศาลชั้นบังคับคดี ไม่ใช่อุทธรณ์
การตีความตามคำพิพากษาตามยอมถือว่าเป็นกระบวนพิจารณาชั้นบังคับคดีมิใช่อุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมดังนี้เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่มีคำสั่งให้จำเลยดำเนินการรังวัดให้ได้เนื้อที่จำนวน60ไร่ให้แก่บุตรโจทก์ตามข้อสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยโดยยังมิได้วินิจฉัยว่าคำสั่งศาลชั้นต้นเป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่จำเลยจึงฎีกาได้ ตามสัญญาประนีประนอมยอมความกำหนดวิธีแบ่งแยกที่ดินเพื่อให้ได้เนื้อที่60ไร่เป็นของบุตรโจทก์ซึ่งสามารถปฏิบัติได้จำเลยจะยกเหตุอื่นเพื่อแก้ไขมิได้เพราะนอกข้อตกลงคำพิพากษาตามยอมจึงไม่มีข้อผิดพลาดไม่มีเหตุที่ศาลจะแก้ไขหรือกำหนดแนวทางให้คู่ความปฏิบัติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลมีสิทธิบังคับคดีตามจำนวนที่ฟ้อง
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมมีใจความว่า จำเลยยอมชำระเงิน 75,000 บาท ให้แก่โจทก์ โดยแบ่งชำระเป็นงวด งวดแรกชำระเป็นเงิน 40,000 บาท ภายใน 5 เดือน นับแต่วันทำสัญญา งวดหลังชำระอีก 35,000 บาท ภายใน 4 เดือน โดยนับต่อจากงวดแรกหากจำเลยทั้งสองผิดนัดงวดใดให้โจทก์บังคับคดีได้ตามฟ้องทันที ข้อความตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวย่อมมีความหมายว่า จำเลยจะต้องชำระเงิน75,000 บาท ให้โจทก์โดยแบ่งชำระเป็นสองงวด แต่ละงวดจะต้องชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ หากจำเลยผิดนัดชำระเงินไม่ว่าในงวดใด จำเลยจะต้องถูกบังคับให้ชำระเงินตามที่โจทก์ฟ้อง จำนวน 150,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย เมื่อจำเลยผิดนัดชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความแก่โจทก์ตั้งแต่งวดแรก โจทก์จึงมีสิทธิร้องขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้จำนวน 150,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย แม้ต่อมาจำเลยได้นำเงินไปวางชำระหนี้ให้โจทก์จำนวน 78,202 บาทแต่เป็นการวางชำระหนี้ยังไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลดำเนินการบังคับคดียึดบ้านของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผิดนัดชำระหนี้ ศาลบังคับคดีได้ตามฟ้องเดิม
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมมีใจความว่าจำเลยยอมชำระเงิน35,000บาทให้แก่โจทก์โดยแบ่งชำระเป็นงวดงวดแรกชำระเป็นเงิน40,000บาทภายใน5เดือนนับแต่วันทำสัญญางวดหลังชำระอีก35,000บาทภายใน4เดือนโดยนับต่อจากงวดแรกหากจำเลยทั้งสองผิดนัดงวดใดให้โจทก์บังคับคดีได้ตามฟ้องทันทีข้อความตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวย่อมมีความหมายว่าจำเลยจะต้องชำระเงิน75,000บาทให้โจทก์โดยแบ่งชำระเป็นสองงวดแต่ละงวดจะต้องชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้หากจำเลยผิดนัดชำระเงินไม่ว่าในงวดใดจำเลยจะต้องถูกบังคับให้ชำระเงินตามที่โจทก์ฟ้องจำนวน150,000บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยเมื่อจำเลยผิดนัดชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความแก่โจทก์ตั้งแต่งวดแรกโจทก์จึงมีสิทธิร้องขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้จำนวน150,000บาทพร้อมดอกเบี้ยแม้ต่อมาจำเลยได้นำเงินไปวางชำระหนี้ให้โจทก์จำนวน78,202บาทแต่เป็นการวางชำระหนี้ยังไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลดำเนินการบังคับคดียึดบ้านของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1705/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: ผู้มีส่วนได้เสียเฉพาะทรัพย์สินที่ถูกบังคับคดีเท่านั้นที่ต้องได้รับแจ้งการขายทอดตลาด
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่2มิได้ขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยคนอื่นๆด้วยจำเลยคนอื่นจึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ต้องแจ้งการขายทอดตลาดให้จำเลยเหล่านั้นทราบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา306จำเลยที่2ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยอาศัยเหตุดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการรับคืนโฉนดที่ดินหลังการบังคับคดีสำเร็จ การสอบถามความเห็นคู่ความก่อนศาลมีคำสั่ง
โจทก์บังคับคดียึดที่ดินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดโดยโจทก์เป็นผู้มอบโฉนดที่ดินแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อประกอบการยึดต่อมาจำเลยชำระเงินให้โจทก์พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีครบถ้วนและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ถอนการบังคับคดีแล้วการบังคับคดีย่อมสำเร็จบริบูรณ์หากโจทก์ละเลยเพิกเฉยไม่ไปขอรับโฉนดที่ดินคืนจากเจ้าพนักงานบังคับคดีความเสียหายย่อมตกแก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมอยู่ด้วยฉะนั้นเมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอรับโฉนดคืนศาลชั้นต้นชอบที่จะนัดพร้อมโจทก์จำเลยเพื่อสอบถามว่าโจทก์จะคัดค้านประการใดหรือไม่เพื่อจะได้ทำคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา302ต่อไปการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยโดยไม่นัดพร้อมเพื่อสอบถามคู่ความที่เกี่ยวข้องก่อนจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: ไม่อุทธรณ์วิธีบังคับคดี ย่อมไม่อุทธรณ์ผลการขายทอดตลาด
คำร้องของจำเลยมิได้อ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีดังกล่าวแต่ประการใด กรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง จำเลยจะมาขอยกเลิกการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี หรือรื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำกว่าราคาที่จำเลยจำนองทรัพย์สินดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องพิสูจน์การฝ่าฝืนกฎหมายลักษณะการบังคับคดี การอ้างราคาต่ำกว่าจำนองไม่เพียงพอ
คำร้องของจำเลยมิได้อ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีดังกล่าวแต่ประการใดกรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา296วรรคสองจำเลยจะมาขอยกเลิกการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือรื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำกว่าราคาที่จำเลยจำนองทรัพย์สินดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดีเมื่อยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขาย ฝ่ายแพ้คดีต้องรับผิด
ความรับผิดชั้นที่สุดสำหรับ ค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีซึ่งรวมทั้ง ค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีเมื่อ ยึดทรัพย์สินซึ่งมิใช่ตัวเงินแล้ว ไม่มีการขายหรือจำหน่ายย่อมตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่แพ้คดี
of 270