พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันลักทรัพย์ การกระทำความผิดเพิ่มเติมและการพิสูจน์ความร่วมมือ
สมคบกันมาลักทรัพย์ คนหนึ่งล้วงกระเป๋าลักทรัพย์ได้แล้วส่งให้อีกคนหนึ่งพาหนีไปคนแรกควักมีดออกแทงเจ้าทรัพย์เป็นเวลาภายหลังที่คนแรกพาทรัพย์หนีไปแล้ว ยังไม่พอฟังว่าคนหลังสมคบด้วย ในการที่คนแรกใช้มีดแทงคนหลังมีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์ ไม่ผิดฐานชิงทรัพย์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกาย จำเป็นต้องพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเคหสถานก่อน หากพิสูจน์ไม่ได้ ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเคหสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่ใช่ของผู้เสียหายศาลก็ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าวคำลามกต่อหน้าธารกำนัล จำเป็นต้องพิสูจน์ว่ามีผู้ได้ยินหรือไม่
จำเลยกล่าวคำว่า "เจ้าหน้าที่หัวควยอะไร" เป็นคำลามกอนาจาร จะกล่าวในที่ใดไม่สำคัญข้อสำคัญอยู่ที่ว่าได้ยินต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่
ฟ้องว่าจำเลยกล่าวคำลามกอนาจารต่อหน้าธารกำนัล จำเลยรับว่าได้กล่าวคำดังฟ้องจริงโจทก์จำเลยไม่สืบพยานศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะยังไม่ได้ความว่ากล่าวต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่
ฟ้องว่าจำเลยกล่าวคำลามกอนาจารต่อหน้าธารกำนัล จำเลยรับว่าได้กล่าวคำดังฟ้องจริงโจทก์จำเลยไม่สืบพยานศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะยังไม่ได้ความว่ากล่าวต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1879/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดลามกต่อหน้าธารกำนัล - การพิสูจน์การได้ยินเป็นสำคัญ
จำเลยกล่าวคำว่า "เจ้าหน้าที่หัวควยอะไร" เป็นคำลามกอนาจาร จะกล่าวในที่ใดไม่สำคัญ ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าได้ยินต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่
ฟ้องว่าจำเลยกล่าวคำลามกอนาจารต่อหน้าธารกำนัล. จำเลยรับว่าได้กล่าวคำดังฟ้องจริง โจทก์จำเลยไม่สืบพยานศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะยังไม่ได้ความว่ากล่าวต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่
ฟ้องว่าจำเลยกล่าวคำลามกอนาจารต่อหน้าธารกำนัล. จำเลยรับว่าได้กล่าวคำดังฟ้องจริง โจทก์จำเลยไม่สืบพยานศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะยังไม่ได้ความว่ากล่าวต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์เจตนาจำหน่ายธนบัตรปลอม: พฤติการณ์ประกอบสำคัญกว่าการมีเพียงการครอบครอง
ในคดีอาญาโจทก์มีหน้าที่ที่จะนำสืบพิศูจน์ความผิดของจำเลย แต่ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 203(3) นั้น แยกเป็นสองฐาน คือฐานจำหน่ายธนบัตรปลอมโดยรู้และฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย ความผิดฐานแรกโจทก์ต้องนำสืบถึงการจำหน่ายด้วย ความผิดฐานหลังนำสืบแต่เพียงว่ามีไว้เพื่อจะจำหน่ายก็เป็นความผิดได้แล้ว
การจะวินิจฉัยว่ามีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจะจำหน่ายหรือเพื่ออย่างใดนั้นต้องประมวลพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฎในสำนวนประกอบแล้ววินิจฉัยเป็นเรื่อง ๆ ไป พฤติการณ์ที่จำเลยแสดงตนเป็นพระภิกษุแต่ใบสุทธิเป็นที่สงสัย ทำตนเป็นคนหากินทางขายเครื่องรางในวัด เจ้าอาวาสในวัดห้ามไม่ฟัง มีธนบัตรปลอมชนิดฉบับละ 100 บาท 7 ฉบับในตัว ห่อไว้ต่างหากแยกจากห่อธนบัตรดี ดังนี้เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่าย
การจะวินิจฉัยว่ามีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจะจำหน่ายหรือเพื่ออย่างใดนั้นต้องประมวลพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฎในสำนวนประกอบแล้ววินิจฉัยเป็นเรื่อง ๆ ไป พฤติการณ์ที่จำเลยแสดงตนเป็นพระภิกษุแต่ใบสุทธิเป็นที่สงสัย ทำตนเป็นคนหากินทางขายเครื่องรางในวัด เจ้าอาวาสในวัดห้ามไม่ฟัง มีธนบัตรปลอมชนิดฉบับละ 100 บาท 7 ฉบับในตัว ห่อไว้ต่างหากแยกจากห่อธนบัตรดี ดังนี้เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำตายของผู้ถูกกระทำร้ายต้องพิสูจน์ขณะหมดหวัง จึงใช้เป็นหลักฐานได้
คำของผู้ถูกกระทำร้ายกล่าวก่อนตายนั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจศาลว่า ผู้ตายได้กล่าวขึ้นขณะที่รู้ตัวว่าหมดหวังที่จะรอดชีวิตแล้ว จึงจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จกรณีถูกปล้น: พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความเท็จได้
โจทก์กล่าวฟ้องจำเลยในข้อหา 2 ข้อ คือเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบและเอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าถูกปล้น ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเพทุบายว่าถูกปล้น เพื่อไม่ต้องใช้เงินแก่ลูกค้านั้น จะอาศัยพะยานโจทก์ที่ให้ความเห็นและข้อสันนิษฐานว่าจำเลยไม่ถูกปล้นมาวินิจฉัยฟังเอาว่าความที่จำเลยนำมาแจ้งนั้นเป็นความเท็จยังไม่ได้ และจะอนุมาณเอาจากการที่ว่าจำเลยไม่ต้องการจ่ายเงินให้ลูกค้าก็ยังไม่ได้ในเมื่อข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยเป็นเจ้ามือนั้นฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการสินสมรสและการพิสูจน์การสมยอมซื้อขาย หากอ้างเป็นโมฆะ ผู้กล่าวอ้างต้องมีหน้าที่พิสูจน์
สามีเป็นผู้จัดการและมีอำนาจจำหน่ายสินบริคนห์ตาม ป.พ.พ.ม.1468,1473 เมื่อภริยาอ้างว่าการซื้อขายสินบริคนห์ระหว่างสามีกับผู้ซื้อเป็นการสมยอมกันเป็นโมฆะ ภริยาผู้อ้างก็มีหน้าที่จะต้องนำสืบให้ได้ความตามนั้น จึงจะชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารมหาชน (ทะเบียนสมรส) มีผลสันนิษฐานความถูกต้อง ผู้ถูกยันต้องพิสูจน์หักล้าง
ทะเบียนสมรสเป็นเอกสารมหาชนเป็นหน้าที่ของคู่ความที่ถูกเอกสารนั้นยันจะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานว่าเอกสารนั้นไม่บริสุทธิหรือไม่ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิสูจน์การเป็นนายหน้า: ต้องแสดงข้อตกลงมอบหมายและบทบาทในการซื้อขายสำเร็จ
โจทย์ฟ้องเรียกค่านายหน้าขายที่ดินจากจำเลย โจทก์จะต้องสืบให้ได้ความ 2 ข้อ คือ 1. จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้า 2. การซื้อขายที่ดินรายนี้ได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ชี้ช่องหรือจัดการเมื่อโจทก์สืบไม่ได้ก็ต้องแพ้จำเลย
เพียงแต่โจทก์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นจัดการเสนอหนังสือของจำเลยในตอนหลัง ภรรยาโจทก์นำจำเลยไปหาผู้ซื้อ และจำเลยเคยนำเงินไปให้ภรรยาโจทก์ แต่ภรรยาโจทก์ไม่รับ เหตุเหล่านี้ยังฟังไม่ได้ว่า ได้มีการตกลงให้เป็นนายหน้ากัน จะฟังได้ก็แต่เพียงเป็นการช่วยเหลืออนุเคราะห์กันโดยอัธยาศัยไมตรีเท่านั้น
เพียงแต่โจทก์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นจัดการเสนอหนังสือของจำเลยในตอนหลัง ภรรยาโจทก์นำจำเลยไปหาผู้ซื้อ และจำเลยเคยนำเงินไปให้ภรรยาโจทก์ แต่ภรรยาโจทก์ไม่รับ เหตุเหล่านี้ยังฟังไม่ได้ว่า ได้มีการตกลงให้เป็นนายหน้ากัน จะฟังได้ก็แต่เพียงเป็นการช่วยเหลืออนุเคราะห์กันโดยอัธยาศัยไมตรีเท่านั้น