พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8259/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกจากทรัพย์สินที่ถูกขายโดยผู้จัดการมรดก ศาลมีอำนาจแบ่งเงินที่ได้จากการขายให้ทายาท
โจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกว่าจำเลยที่ 1 นำที่ดินแปลง น.ส.3 ก. ทรัพย์มรดกของนาย ย. และตกได้แก่โจทก์ทั้งสองคนละ 1 ใน 6 ส่วนไปขายโดยมิชอบ แม้คำขอท้ายฟ้องจะขอให้เพิกถอนที่ดินแปลงดังกล่าวเอาที่ดินส่วนของโจทก์ทั้งสองคืนมา ก็ถือได้ว่าเป็นการฟ้องเรียกมรดกจากผู้จัดการมรดก เมื่อไม่อาจเพิกถอนการขายที่ดินแปลงดังกล่าว เงินที่ได้จากการขายที่ดินนั้นต้องถือว่าเป็นทรัพย์มรดกที่จะต้องแบ่งให้แก่โจทก์ทั้งสอง ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจแบ่งให้โจทก์ทั้งสองได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8188/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ส่งผลถึงลูกหนี้ร่วมกัน และค่าธรรมเนียมศาลกับการวางเงินค่าธรรมเนียมเป็นคนละส่วนกัน
การยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลรวมทั้งเงินวางศาลในการยื่นฟ้องอุทธรณ์แก่จำเลยที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา157นั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของจำเลยแต่ละคนแม้ศาลจะอนุญาตให้จำเลยที่1ดำเนินคดีชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาก็ไม่มีผลถึงจำเลยที่2ด้วยแต่อย่างใด ค่าขึ้นศาลเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่งซึ่งกฎหมายบังคับให้คู่ความที่ยื่นคำฟ้องฟ้องอุทธรณ์หรือฎีกาจะต้องเสียในขณะยื่นคำฟ้องกับการวางเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งในการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกานั้นเป็นเงินคนละส่วนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8097/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับในสัญญา: ศาลมีอำนาจลดจำนวนลงได้หากสูงเกินส่วน
เงินค่าปรับที่คู่กรณีกำหนดกันไว้ในสัญญา ถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับอย่างหนึ่งซึ่งต้องปรับด้วย ป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคแรก แม้มีข้อตกลงกันไว้แต่ก็มิได้กำหนดบังคับไว้เด็ดขาดว่าจะต้องให้เป็นไปตามนั้น ถ้าสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8097/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญาซื้อขาย: ศาลลดหย่อนได้หากสูงเกินส่วน คำนวณจากความเสียหายที่แท้จริง
เงินค่าปรับที่คู่กรณีกำหนดกันไว้ในสัญญาถือได้ว่าเป็นเบี้ยปรับอย่างหนึ่งซึ่งต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา383วรรคแรกแม้มีข้อตกลงกันไว้แต่ก็มิได้กำหนดบังคับไว้เด็ดขาดว่าจะต้องให้เป็นไปตามนั้นถ้าสูงเกินส่วนศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7986/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องครอบครองปรปักษ์: จำเลยต้องโต้แย้งสิทธิครอบครองโจทก์จึงจะพิพากษาได้
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทและครอบครองตลอดมาโจทก์ขอรังวัดออกโฉนดทั้งแปลง เจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่ารังวัดล้ำที่ดินจำเลยไม่ออกโฉนดให้โจทก์ จำเลยทอดทิ้งไม่เคยทำประโยชน์พิพาท โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองที่ดินของจำเลย แม้ฟ้องโจทก์จะอ้างว่าได้ครอบครองที่ดินของจำเลยจนได้สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 และ 1375 แล้วก็ตามแต่ฟ้องโจทก์ไม่ได้ความว่าจำเลยได้โต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิครอบครองของโจทก์ดังกล่าวอย่างใด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7937/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานนอกบัญชีรายชื่อพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ความตอนท้ายของ ป.วิ.พ.มาตรา 87 (2)บัญญัติยกเว้นไว้ว่าถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี โดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของอนุมาตรานี้ ก็ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ คดีอาญาเรื่องนี้ โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 88 แล้ว เพียงแต่ขาดสำเนาเพื่อส่งแก่จำเลยจำเลยมีโอกาสไปขอตรวจดูบัญชีระบุพยานที่ยื่นไว้ต่อศาลได้อยู่แล้ว ทั้งในการสืบพยานโจทก์ทุกปาก จำเลยได้ถามค้านพยานจำเลยไม่เสียเปรียบและไม่ได้รับความเสียหายโจทก์ไม่ได้ประสงค์จะเอาปรียบในทางคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงรับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7937/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานแม้ขาดสำเนาบัญชีระบุพยาน: ศาลมีดุลยพินิจเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ความตอนท้ายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา87(2)บัญญัติยกเว้นไว้ว่าถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของอนุมาตรานี้ก็ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้คดีอาญาเรื่องนี้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา88แล้วเพียงแต่ขาดสำเนาเพื่อส่งแก่จำเลยจำเลยมีโอกาสไปขอตรวจดูบัญชีระบุพยานที่ยื่นไว้ต่อศาลได้อยู่แล้วทั้งในการสืบพยานโจทก์ทุกปากจำเลยได้ถามค้านพยานจำเลยไม่เสียเปรียบและไม่ได้รับความเสียหายโจทก์ไม่ได้ประสงค์จะเอาเปรียบในทางคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงรับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7844/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนการพิจารณาคดีเนื่องจากป่วย และหน้าที่ศาลในการตรวจสอบอาการป่วยก่อนมีคำสั่ง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้นดังที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนการพิจารณาและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาศาลแล้วยกคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยโดยให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่ต่อไปการที่ศาลอุทธรณ์ไปวินิจฉัยว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณาโดยไม่ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยว่ามีเหตุสมควรที่จะให้จำเลยเลื่อนการพิจารณาและศาลชั้นต้นควรจะไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยต่อไปหรือไม่เป็นการไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์ย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142ประกอบด้วยมาตรา246 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา41ถ้ามีการเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าผู้ใดไม่สามารถมาศาลได้เพราะเจ็บป่วยหากศาลไม่เชื่อว่าเป็นความจริงก็จะต้องมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานไปตรวจและรายงานให้ศาลทราบเสียก่อนจึงจะสั่งให้อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาการที่ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องขอเลื่อนการไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยแล้วมีคำสั่งว่าไม่น่าเชื่อว่าจำเลยป่วยไม่สามารถมาศาลได้เป็นการข้ามขั้นตอนจึงไม่ชอบด้วยมาตรา41
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7812/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายแจ้งคำสั่งศาลไปยังทนายโจทก์ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะไม่ได้ส่งถึงตัวโจทก์โดยตรง ไม่ถือว่าทิ้งฟ้อง
คำว่า"โจทก์"ในคดีแพ่งแม้ไม่มีบทวิเคราะห์ศัพท์ไว้โดยตรงก็ตามย่อมหมายความว่าผู้ยื่นคำร้องต่อศาลหรือนัยหนึ่งหมายความถึงผู้เป็นคู่ความตามบทวิเคราะห์ศัพท์ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา1(11)ซึ่งรวมถึงบุคคลผู้มีสิทธิกระทำการแทนบุคคลนั้นๆตามกฎหมายหรือในฐานะทนายความด้วยฉะนั้นการส่งหมายหรือแจ้งคำสั่งของศาลไปยังตัวโจทก์หรือทนายโจทก์ก็ย่อมมีผลตามกฎหมายเช่นเดียวกันและไม่มีกฎหมายใดบังคับไว้ว่าต้องส่งหมายหรือแจ้งคำสั่งของศาลไปให้ตัวโจทก์เมื่อพนักงานเดินหมายได้นำหมายแจ้งคำสั่งดังกล่าวที่แจ้งถึงการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้และให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน7วันนับแต่วันทราบไปส่งให้แก่ทนายโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลที่โจทก์ได้แต่งตั้งและให้มีอำนาจดำเนินคดีแทนตามใบแต่งทนายและเป็นคู่ความตามมาตรา1(11)จึงถือว่าเป็นการส่งหมายให้โจทก์ทราบโดยชอบเมื่อโจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจึงถือว่าทิ้งอุทธรณ์ตามมาตรา174(2)ประกอบมาตรา246
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7775/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพเฉพาะข้อหาเบา ศาลต้องลงโทษตามที่รับสารภาพ แม้ข้อหาหนักกว่าจะมีอยู่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 188, 335,357 จำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา357 วรรคหนึ่ง ซึ่งมีโทษเบากว่า ป.อ. มาตรา 188 ข้อเท็จจริงจึงต้องฟังว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคหนึ่งเท่านั้น ศาลจะลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 188 ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ให้การรับสารภาพตามข้อหาดังกล่าว ปัญหานี้แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสองประกอบมาตรา 225