คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,083 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินก่อนจัดตั้งนิคมฯ และการแจ้งการครอบครองตามกฎหมาย มิใช่ที่ป่า
จำเลยครอบครองที่พิพาทและทำเป็นสวนยางมาก่อนทางราชการตั้งนิคมสร้างตนเอง ฯ ทั้งได้แจ้งการครอบครองเมื่อ พ.ศ.2498 ตามกฎหมายแล้ว ที่พิพาทจึงหาใช่เป็นที่ป่าไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท: การที่โจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิครอบครองทำให้คดีต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
แม้ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาทจำเลยที่ 1 เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาทแต่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าโจทก์ได้สละการครอบครองให้บุตรีโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองแล้วก็ถือได้ว่าทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่าโจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์เมื่อคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาทคดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินโดยทายาท: การเปลี่ยนสถานะจากครอบครองแทนเป็นครอบครองเพื่อตนเองหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต
จำเลยซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกผู้ตายได้อาศัยสิทธิของเจ้ามรดกผู้ตายครอบครองที่พิพาทมา เมื่อเจ้ามรดกตาย การครอบครองที่พิพาทของจำเลยโดยอาศัยสิทธิของผู้ตายต้องยุติลงนับแต่วันที่เจ้ามรดกตาย และถือได้ว่าจำเลยได้ครอบครองเพื่อตนนับแต่เวลานั้นตลอดมา เพราะสิทธิครอบครองของผู้ตายเป็นมรดกตกทอดแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599
ที่พิพาทส่วนหนึ่งเป็นมรดกของผู้ตายตกได้แก่ทายาทและยังไม่ได้แบ่งปันกัน จำเลยเป็นทายาทคนหนึ่งได้ครอบครองที่พิพาทนับแต่วันเจ้ามรดกตายตลอดมา จำเลยย่อมมีส่วนเป็นเจ้าของที่พิพาทส่วนหนึ่งด้วยโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ และเมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยได้ครอบครองเกินส่วนของตนไปเท่าใด โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองเฉพาะที่ฝังศพ: ขอบเขตจำกัดเฉพาะที่ฝังศพเท่านั้น
ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทเฉพาะที่ฝังศพ โดยไปเซ่นไหว้ศพทุกปีนั้น ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองเฉพาะที่ฝังศพนั้นเท่านั้น หามีสิทธิในที่ดินซึ่งเป็นทางเดินจากถนนเข้าสู่ที่ฝังศพด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแย่งการครอบครองเกิน 1 ปี ทำให้สิทธิครอบครองตกเป็นของผู้แย่ง แม้มีเอกสารสิทธิก่อน
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเข้าแย่งการครอบครองที่พิพาทเกินกว่า 1 ปี จึงไม่ว่าโจทก์จะได้ ส.ค.1 น.ส.3ไปด้วยเหตุประการใด โจทก์ก็มิใช่ผู้ยึดถือที่พิพาทระหว่างที่จำเลยเข้าแย่งการครอบครอง จึงไม่มีสิทธิครอบครองดีไปกว่าจำเลย
จำเลยครอบครองที่พิพาทเกินกว่า 1 ปี โดยโจทก์ไม่ได้ฟ้องขับไล่ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ถูกแย่งการครอบครอง จำเลยย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครอง เมื่อจำเลยได้สิทธิครอบครอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่แม้จำเลยจะไม่ได้ยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ขึ้นต่อสู้ ศาลก็ต้องยกฟ้องโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองนาและการแบ่งผลประโยชน์ ไม่ถือเป็นการเช่าธรรมดา เจ้าของนาเดิมมีแต่สิทธิเก็บกิน
เจ้าของนายกนาพิพาทให้ผู้รับ ต่อมาผู้รับยอมให้เจ้าของนาเดิมครอบครองนาโดยผู้รับยอมเช่านา แบ่งผลประโยชน์ให้เจ้าของนาเดิมหนึ่งในสี่ จนตลอดชั่วชีวิตของเจ้าของนาเดิม เช่นนี้ ถือว่า ผู้รับยังมิได้สละสิทธิครอบครอง ผู้รับยังเป็นเจ้าของนาพิพาทอยู่กรณีจึงมิใช่เป็นการเช่าธรรมดา เจ้าของนาเดิมมีแต่เพียงสิทธิเก็บกินเท่านั้น ฉะนั้นเจ้าของนาเดิมจะเรียกร้องเอานาพิพาทไปเป็นของตนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินครอบครองก่อนจัดตั้งนิคมฯ ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายนิคมฯ สิทธิครอบครองเดิมย่อมได้รับการคุ้มครอง
คดีอาญาที่ฎีกาได้ แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายส่วนข้อเท็จจริงศาลฎีกาต้องถือตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้น ถ้าข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลอุทธรณ์ฟังมายังไม่พอศาลฎีกาหยิบยกข้อเท็จจริงอย่างอื่นขึ้นพิจารณาประกอบด้วยได้
ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพพ.ศ.2485 มาตรา 4 แสดงว่า ที่ดินซึ่งรัฐบาลจะจัดตั้งนิคมสร้างตนเองได้นั้น พึงเป็นที่ดินรกร้างว่างเล่ายังไม่มีผู้ใดเข้ายึดถือครอบครองทำกินอยู่ก่อน ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดิน 25 ไร่นี้ จำเลย(ซึ่งเป็นสมาชิกของนิคมฯ) ได้ครอบครองทำประโยชน์มาก่อนทางราชการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรี และที่ดินรายนี้ไม่ใช่ที่ดินรกร้างว่างเปล่าเสียแล้วในขณะพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรี พ.ศ.2485 ออกตามอำนาจในพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2485 ใช้บังคับ(ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 934/2505) เช่นนี้ จะนำกฎหมายหรือข้อบังคับว่าด้วยการเข้าอยู่ในที่ดินจัดสรรของนิคมฯ มาใช้บังคับไม่ได้ คำสั่งที่ผู้ปกครองนิคมฯ ออกประกาศถอนสิทธิให้จำเลยออกไปจากที่ดินจัดสรรของนิคมฯมาใช้บังคับไม่ได้ คำสั่งที่ผุ้ปกครองนิคมฯ ออกประกาศถอนสิทธิให้จำเลยออกไปจากที่ดิไม่มีผลแก่จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งนั้น ก็จะเอาผิดแก่จำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินที่ถูกจัดสรรนิคมต้องเป็นที่รกร้าง หากมีผู้ครอบครองทำประโยชน์ก่อน สิทธิครอบครองเดิมย่อมคุ้มครอง
คดีอาญาที่ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนข้อเท็จจริงศาลฎีกาต้องถือตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมานั้น ถ้าข้อเท็จจริงเท่าที่ศาลอุทธรณ์ฟังมายังไม่พอ ศาลฎีกาหยิบยกข้อเท็จจริงอย่างอื่นขึ้นพิจารณาประกอบด้วยได้
ตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2485 มาตรา4 แสดงว่า ที่ดินซึ่งรัฐบาลจะจัดตั้งนิคมสร้างตนเองได้นั้น พึงเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่ายังไม่มีผู้ใดเข้ายึดถือครอบครองทำกินอยู่ก่อน ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดิน 25 ไร่นี้ จำเลย(ซึ่งเป็นสมาชิกของนิคม) ได้ครอบครองทำประโยชน์มาก่อน ทางราชการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรี และที่ดินรายนี้ไม่ใช่ที่ดินรกร้างว่างเปล่าเสียแล้วในขณะพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรี พ.ศ.2485 ออกตามอำนาจในพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพพ.ศ.2485 ใช้บังคับ (ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 974/2505)เช่นนี้จะนำกฎหมายหรือข้อบังคับว่าด้วยการเข้าอยู่ในที่ดินจัดสรรของนิคมฯมาใช้บังคับไม่ได้ คำสั่งที่ผู้ปกครองนิคมฯออกประกาศถอนสิทธิให้จำเลยออกไปจากที่ดินไม่มีผลแก่จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยจะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งนั้น ก็จะเอาผิดแก่จำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนพืชผลในที่พิพาท: สิทธิครอบครอง, คำสั่งเจ้าพนักงาน, และข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริง
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง การที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำสืบไม่ได้ว่าตนเองมีสิทธิพิเศษอย่างใด อันจะถือได้ว่า ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นไม่ผิด และไม่มีเจ้าพนักงานคนใดสั่งให้จำเลยทำลายทรัพย์สินของโจทก์ เช่นนี้ ฎีกาโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 429-438/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าว: สิทธิครอบครอง vs. กรรมสิทธิ์ และประเด็นอายุความ
การได้มาซึ่งที่ดินตามพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวและตามประมวลกฎหมายที่ดินนั้น หาได้หมายความแต่เฉพาะการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างเดียวไม่ แต่ยังหมายถึงการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในฐานะเจ้าของด้วย
การที่คนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินโดยฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว เป็นความผิดอันเกิดขึ้นครั้งหนึ่งคราวเดียว หาใช่เป็นความผิดต่อเนื่องกันไม่ ฉะนั้น อายุความฟ้องร้องคดีจึงต้องเริ่มนับหนึ่งแต่วันที่จำเลยกระทำการได้มาซึ่งที่ดินโดยฝ่าฝืนกฎหมายเป็นต้นไป
of 109