คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สุจริต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,168 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการจดทะเบียนหลังซื้อจากการบังคับคดี: สุจริตของผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด
เมื่อโจทก์นำยึดทรัพย์ซึ่งเป็นที่ดินสองแปลง มิได้มีผู้ร้องขัดทรัพย์หรือโต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใด จนเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศและขายทอดตลาดไปตามคำสั่งศาล โจทก์เป็นผู้ให้ราคาสูงสุด และศาลสั่งขายให้โจทก์แล้ว เช่นนี้ ถือได้ว่าโจทก์ซื้อทรัพย์รายนี้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลโดยสุจริต โจทก์ย่อมอยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิเป็นของตนได้แม้หลักฐานทางทะเบียนจะปรากฏว่ามิใช่เป็นของจำเลยก็ตาม โจทก์ก็ไม่จำเป็นต้องฟ้องร้อง หรือดำเนินคดีเรียกบุคคลภายนอกที่มีชื่อทางทะเบียนมาเป็นคู่ความก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองที่ดินโดยไม่สุจริต & ข้อจำกัดการนำสืบพยานภายหลัง
เจ้าของที่ดินลงชื่อในใบมอบอำนาจโดยมิได้กรอกข้อความเพื่อให้ผู้รับมอบอำนาจไปทำกิจการอย่างอื่น แต่ผู้รับมอบกลับนำไปกรอกข้อความเป็นให้จำนอง ถ้าผู้รับจำนองได้ทำการรับจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และจดทะเบียนสิทธิจำนองโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เจ้าของที่ดินจะอ้างเอาความประมาทเลินเล่อของตนมาเป็นเหตุให้พ้นความรับผิดไม่ได้
ทนายความเขียนข้อความลงในด้านหลังนามบัตร แจ้งให้ผู้จำนองนำต้นเงินและดอกเบี้ยมาชำระภายในกำหนด 10 วันถือได้ว่าเป็นจดหมายบอกกล่าวบังคับจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 721 แล้ว
คำให้การของจำเลยในตอนแรกว่า ใบมอบอำนาจปลอม จำเลยไม่ได้เซ็นใบมอบอำนาจนั้น ส่วนข้อความตอนหลังเป็นการเล่าเรื่องว่าจำเลยเคยเซ็นในใบมอบอำนาจฉบับหนึ่ง ซึ่งจำเลยจำไม่ได้ว่าเป็นฉบับเดียวกันกับที่โจทก์นำมาฟ้องหรือไม่ คำให้การของจำเลยเช่นนี้ มีประเด็นนำสืบได้
ศาลสืบพยานโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนเสร็จแล้ว จำเลยจะขออ้างพยานบุคคล ซึ่งควรจะอ้างเสียก่อนแล้วไม่อ้างย่อมทำให้โจทก์เสียเปรียบ ศาลไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อป้องกันความเสียหายในคดีอาญา ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท
การที่จำเลยมีหนังสือถึงผู้บังคับบัญชาสูงสุดของโจทก์โดยมุ่งประสงค์ชี้แจงให้ทราบว่าจำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาต่อศาลแล้ว ขอให้หาทางป้องกันมิให้โจทก์ทำหลักฐานว่าในวันกล่าวหาโจทก์ปฏิบัติราชการอยู่ และหาทางป้องกันมิให้การกระทำผิดตามที่ได้ฟ้องไว้เกิดขึ้นอีกเช่นนี้เป็นการกระทำโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม เพื่อป้องกันส่วนได้เสียของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1) แล้ว จำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันส่วนได้เสียของตนเองในฐานะกรรมการ ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท
จำเลยพูดว่า "ทนายความเมืองร้อยเอ็ดคบไม่ได้เป็นนกสองหัว เหยียบเรือสองแคม เป็นมวยล้ม......" โดยจำเลยพูดในที่ประชุมใหญ่สมาชิกร้านสหกรณ์ประจำปีในฐานะเป็นกรรมการร้านสหกรณ์ ซึ่งจำเลยต้องแสดงถึงเหตุผลที่ไปจ้างทนายความจากกรุงเทพฯมาว่าความของร้านสหกรณ์ และพูดเพื่อป้องกันตนให้พ้นข้อหา การกระทำของจำเลยเป็นการกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นกรรมการร้านสหกรณ์นั้นตามคลองธรรม กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าซื้อโดยสุจริต: คุ้มครองจากการคืนทรัพย์สินหากชำระราคาครบถ้วน
ผู้เช่าซื้อทรัพย์สินจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้นโดยสุจริต และได้ชำระเงินครบถ้วนตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว ทรัพย์สินนั้นย่อมตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่าในทำนองเดียวกันกับผู้ให้เช่าได้ขายทรัพย์นั้นให้แก่ผู้เช่า จึงถือได้ว่าผู้เช่าซื้อเป็นผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น และไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของแท้จริงเว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นติชมเจ้าหน้าที่รัฐโดยสุจริตและเป็นธรรม ถือเป็นการกระทำที่กฎหมายคุ้มครอง
จำเลยได้กล่าวว่า "ไม่ยุติธรรม" และนำความไปบอกเล่าบุคคลที่ 3 ว่า "พวกผมได้รับผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ ทั้งนั้น ส่วนผ้าดี ๆ ใหม่ ๆ ปลัดกับกำนันเอาไปหมด ฯลฯ" นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าหน้าที่แจกผ้าให้แก่ราษฎรผู้ประสบวาตภัยไม่รัดกุมขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นพฤติการณ์ทีมีช่องทางให้ราษฎรทั่ว ๆไปคิดเห็นไปได้โดยสุจริตใจว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ในการแจกเสื้อผ้านั้นไม่ได้ทำไปโดยเที่ยงธรรม การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นของตนโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมซึ่งบุคคลอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 324(3) จำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นติชมเจ้าหน้าที่รัฐโดยสุจริต และการแจกจ่ายความช่วยเหลือที่ไม่เป็นธรรม เข้าข้อยกเว้นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329
จำเลยได้กล่าวว่า "ไม่ยุติธรรม" และนำความไปบอกเล่าบุคคลที่ 3 ว่า "พวกผมได้รับผ้าเก่าๆ ขาดๆ ทั้งนั้น ส่วนผ้าดีๆ ใหม่ๆ ปลัดกับกำนันเอาไปหมด ฯลฯ" นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเจ้าหน้าที่แจกผ้าให้แก่ราษฎรผู้ประสบวาตภัยไม่รัดกุมขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นพฤติการณ์ที่มีช่องทางให้ราษฎรทั่วๆ ไปคิดเห็นไปได้โดยสุจริตใจว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ในการแจกเสื้อผ้านั้นไม่ได้ทำไปโดยเที่ยงธรรม การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นของตนโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมซึ่งบุคคลอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(3) จำเลยไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเช็คโดยรู้นิติสัมพันธ์ระงับสิ้นแล้วถือเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตและอาจเข้าข่ายฉ้อฉล
จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินแก่ผู้มีชื่อคนหนึ่ง ต่อมาจำเลยได้ชำระหนี้แก่ผู้มีชื่อคนนั้น โดยทำสัญญาประนีประนอมผ่อนใช้เงินตามเช็คซึ่งโจทก์ก็ได้ลงชื่อเป็นพยานด้วยนั้น แสดงว่าโจทก์รู้ดีแล้วว่าจำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์จะต้องใช้เงินตามเช็คแล้ว ฉะนั้น การที่โจทก์กลับรับเช็คจากผู้มีชื่อดังกล่าวแล้วนำไปขึ้นเงินต่อธนาคาร จึงเท่ากับโจทก์กระทำโดยไม่สุจริต ถือได้ว่าเป็นการคบคิดกันฉ้อฉล โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำเช็คฉบับนั้นมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกจ่ายเงินเกินระเบียบและสุจริต: จำเลยสั่งจ่ายเงินให้ตนเองเกินกว่าที่กำหนด จึงไม่อาจอ้างสุจริตได้
จำเลยให้การว่า ระเบียบและคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยขัดต่อพระราชกฤษฎีกาและปลัดกระทรวงก็ไม่มีอำนาจลงนามในระเบียบและคำสั่ง โดยหาได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นกล่าวอ้างขัดต่อพระราชกฤษฎีกาบทใดข้อใดและเหตุใดปลัดกระทรวงจึงไม่มีอำนาจลงนามนั้น ถือว่าไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยให้
จำเลยจะอ้างว่าไม่ต้องคืนลาภมิควรได้ได้ก็ต่อเมื่อจำเลยเป็นผู้รับเงินไว้โดยสุจริตหากจำเลยเป็นผู้สั่งให้จ่ายเงินฝ่าฝืนระเบียบให้แก่ตนเองแล้ว ก็จะอ้างว่ารับเงินไว้โดยสุจริตมิได้ จำเลยจึงต้องคืนเงินที่รับเกินไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกจ่ายเงินเกินระเบียบของเทศบาล: จำเลยต้องคืนเงินที่เบิกเกินไป แม้จะอ้างสุจริตไม่ได้
จำเลยให้การว่า ระเบียบและคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยขัดต่อพระราชกฤษฎีกาและปลัดกระทรวงก็ไม่มีอำนาจลงนามในระเบียบและคำสั่ง โดยหาได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นกล่าวอ้างว่าขัดต่อพระราชกฤษฎีกาบทใดข้อใดและเหตุใดปลัดกระทรวงจึงไม่มีอำนาจลงนามนั้นถือว่าไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยให้
จำเลยจะอ้างว่าไม่ต้องคืนลาภมิควรได้ก็ต่อเมื่อจำเลยเป็นผู้รับเงินไว้โดยสุจริตหากจำเลยเป็นผู้สั่งให้จ่ายเงินฝ่าฝืนระเบียบให้แก่ตนเองแล้ว ก็จะอ้างว่ารับเงินไว้โดยสุจริตมิได้ จำเลยจึงต้องคืนเงินที่รับเกินไป
of 117