พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,033 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยนอกประเด็นฟ้อง ศาลต้องพิจารณาเฉพาะประเด็นที่โจทก์ขอให้วินิจฉัยเท่านั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยละเมิดเข้ามาตัดฟันต้นสาคูและใบจากในที่ดินของโจทก์ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ และเรียกค่าเสียหาย ทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จะมีกรรมสิทธิไม่ได้ดังนั้นศาลจะวินิจฉัยว่าต้นสาคูที่ปลูกอยู่ทางฝั่งใต้ของที่พิพาทเป็นของโจทก์และฝั่งเหนือเป็นของจำเลยแล้วพิพากษาห้ามจำเลยกับบริวารมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องทางฝั่งใต้จึงเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะโจทก์มิได้มีคำขอเช่นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะไถ่โฉนดคืน: จำเลยมีหน้าที่ตามสัญญา แม้โจทก์ไม่มีอำนาจไล่เบี้ย
จำเลยยืมโฉนดที่ดินของโจทก์ไปวางประกันเงินกู้จากธนาคารโดยให้โจทก์ลงชื่อในใบมอบฉันทะให้ไว้สัญญาจะไถ่คืนให้ใน 1 เดือนโจทก์มีอำนาจฟ้องให้จำเลยจัดการไถ่โฉนดคืนให้โจทก์ตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างบทมาตราความผิดพลาดและการลงโทษตามความประสงค์ของโจทก์
คำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นความผิดตามมาตรา 293,294 ขอให้ลงโทษตามมาตรา 293 เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่ามีการสมคบกันกระทำผิดก็ลงโทษตามมาตรา 293 ไม่ได้และจะขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 294 โดยอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ ว่าโจทก์พลั้งเผลออ้างบทมาตราผิดไปก็ไม่ได้เพราะปรากฏว่าโจทก์ได้อ้างบทมาตราความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 293 มาแล้วที่ไม่อ้างมาตรา 294 มานั้นจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 192 วรรคสามแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทั้งอัตราโทษตามมาตรา294 ก็สูงกว่ามาตรา 293
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 642/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฎีกาและการรับมรดกความ: ผู้รับมรดกไม่สามารถฎีกาแทนโจทก์ได้หากเกินอายุความ
เมื่ออ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว โจทก์ตาย ผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับมรดกความแทนโจทก์ แต่เป็นเวลาล่วงพ้นอายุความฎีกาแล้วดังนี้ผู้ร้องฎีกาไม่ได้ ได้แต่เป็นผู้รับมรดกความแทนโจทก์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีตกทอดสู่ทายาท: เมื่อโจทก์ถึงแก่กรรมหลังศาลพิพากษาแล้ว สิทธิบังคับคดีจะตกทอดไปยังทายาทโดยธรรม
โจทก์มรณะภายหลังจากศาลพิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดแล้วสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดีย่อมตกทอดมายังทายาทต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์นอกกรอบประเด็นเดิม ศาลไม่รับฟังเป็นเหตุหักล้างข้อกล่าวอ้างของโจทก์
ผู้ร้อง ร้องขัดทรัพย์ว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องขัดทรัพย์ ได้รับมรดกมาแต่ผู้เดียว
โจทก์ให้การแก้ว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยด้วยครึ่งหนึ่งโดยจำเลยเป็นน้องผู้ร้อง และผู้ร้องกับจำเลยทำสัญญาแบ่งมรดกกันคน ละครึ่ง
ภายหลังวันชี้สองสถานแล้วผู้ร้องขอเพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์ว่า หลังจากทำสัญญาแบ่งทรัพย์กับจำเลยแล้วจำเลยได้มาขอเงินจากผู้ร้องไปจำนวนหนึ่ง แล้วทำสัญญาไม่ขอเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาท อีกต่อไป สัญญาแบ่งทรัพย์จึงไม่ผูกพันต่อไปแต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์ได้ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิจะนำสืบตามที่อ้างขึ้นมาใหม่ เพราะเมื่อข้ออ้างใหม่ศาลไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมจึง ไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาจะถือว่าเป็นการสืบหักล้างข้อกล่าว อ้างของโจทก์ ที่กล่าวอ้างไว้ในคำให้การไม่ได้
โจทก์ให้การแก้ว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยด้วยครึ่งหนึ่งโดยจำเลยเป็นน้องผู้ร้อง และผู้ร้องกับจำเลยทำสัญญาแบ่งมรดกกันคน ละครึ่ง
ภายหลังวันชี้สองสถานแล้วผู้ร้องขอเพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์ว่า หลังจากทำสัญญาแบ่งทรัพย์กับจำเลยแล้วจำเลยได้มาขอเงินจากผู้ร้องไปจำนวนหนึ่ง แล้วทำสัญญาไม่ขอเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาท อีกต่อไป สัญญาแบ่งทรัพย์จึงไม่ผูกพันต่อไปแต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำร้องขัดทรัพย์ได้ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิจะนำสืบตามที่อ้างขึ้นมาใหม่ เพราะเมื่อข้ออ้างใหม่ศาลไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมจึง ไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาจะถือว่าเป็นการสืบหักล้างข้อกล่าว อ้างของโจทก์ ที่กล่าวอ้างไว้ในคำให้การไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาอาศัยอำพรางการเช่าช่วง: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยอาศัยห้องเพื่ออำพรางการที่โจทก์ให้จำเลยเช่าช่วง ดั่งนี้โจทก์จะนำเอาสัญญาอาศัยมาฟ้องขับไล่จำเลยในฐานะผู้อาศัยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องแย้งของบุตรเขย: แม้บุตรสาวฟ้องไม่ได้ บุตรเขยก็มีสิทธิฟ้องโจทก์ได้ตามกฎหมาย
มารดาฟ้องบุตรสาวและบุตรเขยเป็นจำเลยขอให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด จำเลยให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ขอให้ห้ามไม่ให้โจทก์เข้ามาเกี่ยวข้อง และเรียกค่าเสียหายด้วย ดังนี้ แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้ บุตรเชยก็ย่อมฟ้องให้โจทก์รับผิดตามฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1391/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องแย้งของบุตรเขย: แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้ บุตรเขยก็มีสิทธิฟ้องแย้งโจทก์ได้
มารดาฟ้องบุตรสาวและบุตรเขยเป็นจำเลยขอให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด จำเลยให้การต่อสู้และฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย ขอให้ห้ามไม่ให้โจทก์เข้ามาเกี่ยวข้องและเรียกค่าเสียหายด้วย ดังนี้ แม้บุตรสาวจะฟ้องไม่ได้บุตรเขยก็ย่อมฟ้องให้โจทก์รับผิดตามฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบไม่ตรงประเด็นฟ้อง ทำให้โจทก์ไม่ชนะคดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจากจำเลย บัดนี้จำเลยกลับเอาที่พิพาทไปขายคนอื่นจึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายนั้นเสีย แต่นำสืบว่าโจทก์ช่วยออกเงินให้จำเลยซื้อที่ดินมาจากลูกสะใภ้ แล้วจำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ครอบครอง เช่นนี้ เป็นเรื่องนำสืบไม่ตรงกับประเด็นในฟ้อง โจทก์จึงไม่ควรชนะคดี