พบผลลัพธ์ทั้งหมด 990 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากคู่ความถึงแก่กรรมและไม่มีผู้มาแทนที่ภายในกำหนด
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาส่งสำเนาให้จำเลย ทนายจำเลยแถลงว่าตัวความตายไปแล้ว ทนายจำเลยจึงหมดสิทธิเป็นทนายและตัวแทน จึงส่งคืนหมายของศาลและสำเนาฎีกาของโจทก์ ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้โจทก์ทราบ โจทก์ได้ทราบแล้ว เวลาผ่านมา 2 ปี ไม่มีผู้ใดเข้ามาเป็นคู้ความแทนจำเลย และโจทก์ไม่ได้มีคำขอเพื่อให้ศาลเรียกทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้มรณะเข้ามาเป็นคู่ความแทนดังนี้ ถือได้ว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาแทนทีคู่ความฝ่ายมรณะภายในกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 42 ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(3).
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1).
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากคู่ความถึงแก่กรรมและไม่มีผู้สืบสิทธิเข้ามาดำเนินคดีแทนภายในกำหนด
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาส่งสำเนาให้จำเลยทนายจำเลยแถลงว่าตัวความตายไปแล้ว ทนายจำเลยจึงหมดสิทธิเป็นทนายและตัวแทน จึงส่งคืนหมายของศาลและสำเนาฎีกาของโจทก์ ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้โจทก์ทราบ โจทก์ได้ทราบแล้ว เวลาผ่านมา 2 ปี ไม่มีผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลย และโจทก์ไม่ได้มีคำขอเพื่อให้ศาลเรียกทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้มรณะเข้ามาเป็นคู่ความแทน ดังนี้ ถือได้ว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาแทนที่คู่ความฝ่ายมรณะภายในกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 42 ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132(3)
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1)
หมายเหตุ ตามข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกผลนิตินัยจากทรัพย์ยึดและการขอเฉลี่ยหนี้ เจ้าหนี้ต้องยื่นคำร้องตามกำหนดเวลา
การยึดที่ดินสวนยางซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ย่อมครอบไปถึงดอกผลนิตินัยด้วยตามมาตรา 304 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เงินค่าประมูลกรีดยางซึ่งคู่กรณีพิพาทกันในชั้นบังคับคดีนำมาวางศาล ถือเป็นดอกผลนิตินัยของสวนยางที่ถูกนำยึด เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิร้องขอเข้าเฉลี่ยในเงินค่ากรีดยางนี้ได้ แต่ทั้งนี้ต้องยื่นคำขอเข้าเฉลี่ยก่อนสิ้นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 290 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องนำเงินค่าประมูลกรีดยางมาวางศาลเป็นรายเดือน ๆ ละ 600 บาท นับแต่เดือนพฤศจิกายน 2502 เป็นต้นมา และในที่สุดโจทก์ได้รับเงินค่ากรีดยางนี้ไปเสร็จแล้วเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2504 เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพิ่งมายื่นคำร้องขอเข้าเฉลี่ยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2504 จึงไม่มีสิทธิเข้าเฉลี่ยในเงินค่ากรีดยางรายนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290
เงินค่าประมูลกรีดยางซึ่งคู่กรณีพิพาทกันในชั้นบังคับคดีนำมาวางศาล ถือเป็นดอกผลนิตินัยของสวนยางที่ถูกนำยึด เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิร้องขอเข้าเฉลี่ยในเงินค่ากรีดยางนี้ได้ แต่ทั้งนี้ต้องยื่นคำขอเข้าเฉลี่ยก่อนสิ้นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 290 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องนำเงินค่าประมูลกรีดยางมาวางศาลเป็นรายเดือน ๆ ละ 600 บาท นับแต่เดือนพฤศจิกายน 2502 เป็นต้นมา และในที่สุดโจทก์ได้รับเงินค่ากรีดยางนี้ไปเสร็จแล้วเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2504 เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพิ่งมายื่นคำร้องขอเข้าเฉลี่ยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2504 จึงไม่มีสิทธิเข้าเฉลี่ยในเงินค่ากรีดยางรายนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 268/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำให้การเกินกำหนด: ความรับผิดชอบของจำเลยและผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 1 วัน โดยอ้างเหตุหลงลืมนั้น ถือว่าเป็นการขาดนัดยื่นคำให้การโดยจงใจ เพราะเมื่อจำเลยถูกฟ้อง จำเลยก็มีหน้าที่จดจำและปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด หากยอมให้จำเลยอ้างเป็นข้อแก้ตัวได้ก็ย่อมทำให้กฎหมายที่กำหนดระยะเวลาให้จำเลยต้องปฏิบัติตามเป็นอันไร้ผล และการที่จำเลยยื่นคำให้การเมื่อพ้นกำหนดแล้ว แสดงว่าจำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การก็ไม่ได้อีก เพราะถ้าถือเช่นนั้น ก็จะบังเกิดผลว่าจำเลยยื่นคำให้การเมื่อพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาไม่ถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากไม่วางค่าธรรมเนียมภายในกำหนด ทำให้ศาลไม่รับฎีกา
จำเลยยื่นฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต และให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องวางและชำระต่อศาลมาวางภายใน 15 วัน จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลฎีกาสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยจึงได้นำค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกามาชำระ เมื่อจำเลยไม่วางเงินค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ย่อมถือว่าจำเลยมิได้ยื่นฎีกาให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลา จึงไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาไม่ถูกต้องตามกำหนดเวลา หากไม่วางค่าธรรมเนียมภายใน 15 วันหลังคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลไม่รับพิจารณา
จำเลยยื่นฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต และให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องวางและชำระต่อศาลมาวางภายใน 15 วัน จำเลยฎีกาคำสั่งศาลฎีกาสั่งให้ยกคำร้อง จำเลยจึงได้นำค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกามาชำระ เมื่อจำเลยไม่วางเงินค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ย่อมถือว่าจำเลยมิได้ยื่นฎีกาให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลาจึงไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำมั่นสัญญาต่ออายุสัญญาเช่าต้องแสดงเจตนาภายในกำหนด หากพ้นกำหนดสัญญาเช่าแล้ว สิทธิเรียกร้องตามคำมั่นนั้นเป็นอันสิ้นไป
คำมั่นที่ผู้ให้เช่าตกลงว่า เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดแล้ว ยินยอมจะให้ต่ออายุสัญญาเช่าต่อไปอีกได้นั้น ผู้เช่าต้องแสดงความจำนงขอปฎิบัติตามคำมั่นเสียก่อน ครบกำหนดอายุสัญญาเช่า มิฉะนั้น หามีผลที่จะบังคับกันได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 82-83/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมฎีกาสำหรับผู้ไม่อนาถา ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาสั่งได้ แม้เวลาเดิมสิ้นสุดแล้ว
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องไม่อนุญาตให้โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถา และมีคำสั่งกำหนดเวลาให้ชำระเงินค่าธรรมเนียมนั้นแต่โจทก์ไม่เสียค่าธรรมเนียมตามกำหนด กลับฎีกาคำสั่งไปศาลฎีกาและศาลฎีกาได้มีคำสั่งยกคำร้องโจทก์ยืนตามศาลล่างโดยไม่ได้กำหนดเวลาให้ชำระค่าธรรมเนียมอีก ทั้งกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ชำระค่าธรรมเนียมก็สิ้นไปแล้ว ดังนี้ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้กำหนดเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมใหม่อีกศาลฎีกามีอำนาจกำหนดเวลาให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาเสียในระยะเวลาอันสมควรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาอุทธรณ์ภาษี เริ่มนับจากวันรับแจ้งคำวินิจฉัย ไม่ใช่วันที่เจ้าพนักงานสรรพากรปฏิเสธหลักฐาน
การอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งชี้ขาดเกี่ยวกับการประเมินภาษี นั้นให้อุทธรณ์ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ของโจทก์ และแจ้งให้โจทก์ทราบแล้วแต่โจทก์พยายามนำหลักฐานต่างๆ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่าได้ชำระภาษีแล้วเจ้าพนักงานสรรพากรบันทึกว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงฟังไม่ได้โจทก์จะนับอายุความอุทธรณ์แต่วันทราบคำสั่งเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ของโจทก์ และแจ้งให้โจทก์ทราบแล้วแต่โจทก์พยายามนำหลักฐานต่างๆ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่าได้ชำระภาษีแล้วเจ้าพนักงานสรรพากรบันทึกว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงฟังไม่ได้โจทก์จะนับอายุความอุทธรณ์แต่วันทราบคำสั่งเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเฉลี่ยหนี้จากการยึดทรัพย์: กำหนดเวลา 14 วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจำเลยคนเดียวกันในคดี 2 สำนวน โดยมิได้รวมพิจารณาพิพากษาโจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยในคดีแรกสำนวนเดียวแล้วขายทอดตลาด มีเจ้าหนี้อื่นมาร้องขอเฉลี่ยในกำหนดเวลา โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้เอาหนี้ในคดีหลังอีกสำนวนหนึ่งมารวมกับหนี้ในคดีแรกเพื่อคิดเฉลี่ยให้โจทก์ด้วย ดังนี้ ถือว่าเป็นคำร้องขอเฉลี่ย เมื่อยื่นเกิน 14 วัน ย่อมหมดสิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290วรรคสาม