คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3827/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องความผิดฐานบรรทุกน้ำหนักเกินเกณฑ์ ไม่ต้องระบุถึงความเสียหายต่อทางหลวง หากโจทก์มิได้ฟ้องในประเด็นดังกล่าว
ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ข้อ 56 นั้น ผู้อำนวยการทางหลวงมีอำนาจประกาศห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดประการหนึ่ง และห้ามใช้ยานพาหนะที่อาจทำให้ทางหลวงเสียหายอีกประการหนึ่ง ดังนั้นเมื่อฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยขับรถยนต์ประเภทประกอบการขนส่งส่วนบุคคล มี 3 เพลา 6 ล้อ ชนิดเพลาที่ 2 ที่ 3 เป็นเพลาคู่ใช้ยางคู่ ซึ่งตามประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดินกำหนดว่าต้องมีน้ำหนักลงเพลาไม่เกินเพลาละ 8,200 กิโลกรัม หรือน้ำหนักยานพาหนะรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 21,000 กิโลกรัม บรรทุกหินเกล็ดไปตามถนนอันเป็นทางหลวงแผ่นดินโดยมีน้ำหนักยานพาหนะน้ำหนักบรรทุกรวม 35,210กิโลกรัม ซึ่งเกินกว่ากำหนดตามประกาศดังกล่าวไป 14,210 กิโลกรัมอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จึงเป็นการบรรยายถึงองค์ประกอบแห่งความผิดตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษครบถ้วนแล้ว หาจำต้องบรรยายมาด้วยว่าอาจทำให้ทางหลวงเสียหายด้วยไม่ เพราะโจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้ยานพาหนะที่อาจทำให้ทางหลวงเสียหาย คำฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3554/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน โจทก์อาจเสียสิทธิในที่ดิน จึงเป็นผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสามร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่าที่พิพาทเป็นของบิดาจำเลยที่ 1 ซึ่งตายไปแล้ว และเจ้าพนักงานผู้รับแจ้งได้จดข้อความที่แจ้งลงในเอกสารราชการซึ่งต่อมาจำเลยที่ 1 ก็ได้ไปขอรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมและขอออก น.ส.3 สำหรับที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการที่จำเลยทั้งสามแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 แล้ว เพราะโจทก์อาจต้องเสียที่พิพาทไปเพราะการกระทำของจำเลยทั้งสาม โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3514/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งหลายทอด: ผู้ขนส่งร่วมรับผิดชอบความเสียหายจากการสูญหายของสินค้า
การที่จำเลยที่ 1 รับจ้างขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังเมืองซานโจอันประเทศปัวโตริโก้ โดยจำเลยที่ 1 จัดหารถบรรทุกไปขนสินค้าจากโรงงานของผู้ว่าจ้างไปยังสนามบินกรุงเทพ แล้วว่าจ้างจำเลยที่ 2 ขนส่งสินค้านั้นทางอากาศต่อไปอีกทอดหนึ่งเพื่อส่งมอบแก่บริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด เมืองนิวยอร์ก และบริษัทควนแอนด์นาเกล จำกัด รับสินค้าและดำเนินการให้บริษัทอเมริกันแอร์ไลน์ จำกัด ขนส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ดังนี้ถือเป็นการขนส่งหลายคนหลายทอด เมื่อสินค้าสูญหายไปในการขนส่งช่วงสุดท้าย จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3458/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งคุณสมบัติเท็จในการสมัครงานเป็นเหตุให้เลิกจ้างได้ แม้ไม่มีความเสียหายร้ายแรง
การที่ลูกจ้างยื่นใบสมัครงานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่าได้ลาออกจากบริษัทเดิม แต่ความจริงถูกเลิกจ้างเพราะขาดงานเกินสามวันโดยไม่มีเหตุอันควรนั้น เป็นการแสดงคุณสมบัติอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้นายจ้างหลงเชื่อในคุณสมบัติของลูกจ้างและยอมรับให้เป็นลูกจ้าง ดังนี้ อาจทำให้กิจการของนายจ้างได้รับความเสียหายนายจ้างย่อมมีสิทธิเลิกจ้างตามข้อกำหนดในใบสมัครงานนั้นได้โดยไม่จำต้องเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อนายจ้างเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3312/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้รับประกันภัยค้ำจุนเมื่อผู้เอาประกันภัยยังไม่รับผิดต่อความเสียหาย
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 ให้รับผิดในฐานะที่เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์โดยสารอันเป็นรถที่ก่อให้เกิดความเสียหายครั้งนี้ แม้ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของ ย. ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวของ ย. และ ย. กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ศ. เป็นผู้เอาประกันภัยค้ำจุนไว้แก่จำเลยที่ 3 แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันดังกล่าวในฐานะอะไรของ ย.กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ศ. และมีนิติสัมพันธ์กันอย่างไรกับบุคคลทั้งสองนั้น อันจะเป็นเหตุให้ ย. กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ศ. ต้องร่วมรับผิดในการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนจะใช้ค่าสินไหมทดแทนก็ต่อเมื่อ ย. กับห้างหุ้นส่วนจำกัดศ. ต้องรับผิด ในเมื่อตามฟ้องไม่ปรากฏว่า ย. กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ศ. จะต้องรับผิดต่อโจทก์แล้วจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้รับประกันภัยค้ำจุนจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3192/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถและการพิสูจน์ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลระหว่างการกระทำกับความเสียหาย
จำเลยขับรถบรรทุกสิบล้อบรรทุกหินและทรายหนัก 13 ตัน ผ่านทางแยกทางร่วม สองข้างทางเป็นร้านค้าและบ้านคนอยู่อาศัย ทั้งมีเด็ก ๆ กำลังวิ่งเล่นอยู่ ด้วยความเร็วประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มิได้ลดความเร็วลงเลย เป็นการขับรถโดยประมาท แม้เด็กชายส.ผู้ตายวิ่งตัดหน้ารถจำเลยในระยะ 40 เมตร แต่ถ้าจำเลยไม่ขับรถเร็ว เมื่อจำเลยเห็นผู้ตายวิ่งข้ามถนนในระยะ 40 เมตร จำเลยย่อมหยุดรถได้ทัน การที่จำเลยขับรถชนผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นผลโดยตรงจากความประมาทของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3077/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการไม่ออกใบตราส่ง เมื่อสินค้าส่งออกโดยมิได้เสียภาษี เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต
โจทก์ส่งของออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้เสียภาษีอันเป็นการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 มาตรา 27เป็นเหตุให้จำเลยผู้ขนส่งไม่อาจออกใบตราส่งให้โจทก์ได้การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยไม่ออกใบตราส่งให้จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2998/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกแจ้งความโดยตรง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวนว่า ม.กับพวกร่วมกันบุกรุกที่ดินของจำเลยความจริงเป็นที่ดินของโจทก์ทำให้โจทก์ต้องฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีแพ่ง จึงเห็นได้ว่าผู้เสียหายในคดีที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จคือ ม. หาใช่โจทก์ไม่ และความเสียหายที่โจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์อาจแพ้คดีแพ่งตามผลคดีอาญาที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จก็ได้นั้น ก็ไม่ใช่ความเสียหายที่ทำให้โจทก์กลายเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพและการรับรองความเสียหายของผู้ต้องหาเป็นหลักฐานสำคัญในการพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมชั้นสอบสวนและนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพด้วยความสมัครใจ ทั้งยังรับต่อผู้เสียหายว่าได้เอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปจริงซึ่งจำเลยมิได้นำสืบปฏิเสธคำรับในข้อนี้ พยานหลักฐานโจทก์ประกอบกันรับฟังลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2350/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ชื่อทางการค้าที่สอดคล้องกับชื่อเสียงของผู้อื่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย
บริษัทจำเลยที่ 1 ดำเนินธุรกิจโรงแรมเช่นเดียวกับโจทก์แต่ชื่อของบริษัทจำเลยที่ 1 มีคำว่า 'ฮิลตัน' 'โฮเต็ล' และ 'บางกอก' พ้องกับชื่อโรงแรมฮิลตันที่โจทก์ใช้ในการดำเนินกิจการโรงแรมทั่วโลกจนมีชื่อเสียงมานานทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดได้ว่าจำเลยที่ 1 คือโจทก์ และกิจการของจำเลยที่ 1 คือกิจการของโจทก์ จำเลยจึงนำเอาชื่อฮิลตันของโจทก์มาใช้โดยไม่สุจริต ย่อมทำให้โจทก์เสียหายเพราะโจทก์กับจำเลยที่ 1 ดำเนินธุรกิจอยู่ในกรุงเทพมหานครเช่นเดียวกัน การที่มีบริษัทอื่นอีกมากมายนำชื่อฮิลตันของโจทก์ไปตั้งเป็นชื่อกิจการของตน หาได้ทำให้จำเลยที่ 1 มีสิทธิดีขึ้นไม่และหากไม่ห้ามจำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1 อาจเปลี่ยนชื่อโรงแรมของจำเลยมาใช้ชื่อฮิลตันของโจทก์อีกเมื่อใดก็ได้โจทก์จึงมีสิทธิขอให้ห้ามจำเลยใช้ชื่อ ฮิลตัน เป็นชื่อของบริษัทหรือโรงแรมของจำเลย
of 185