คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ดุลพินิจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 923 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจลงโทษจำคุกตาม พ.ร.บ.การพนัน ศาลมีอำนาจลงโทษจำคุกสถานเดียวได้
พระราชบัญญัติการพนันไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติ ไม่ให้ศาลใช้ดุลพินิจที่จะวางโทษจำคุกสถานเดียวศาลก็ย่อมอาศัยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 ประกอบด้วยมาตรา 11 ใช้ในการดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียวได้ (อ้างฎีกา831/2479)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1379/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพะยานล่าช้าและเหตุผลความเผลอเรอ ศาลใช้ดุลพินิจชอบในการไม่อนุญาตสืบพยาน
คดีแพ่ง จำเลยยื่นบัญชีระบุพะยานในวันสืบพะยานโจทก์ และยื่นคำร้องว่าเป็นเพราะความเผลอเรอ ศาลย่อมไม่อนุญาต เพราะไม่มีเหตุจำเป็น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษทางอาญาเนื่องจากรับสารภาพ: ศาลฎีกาพิพากษายืนตามดุลพินิจศาลชั้นต้น
ศาลล่างพิพากษาประหารชีวิตจำเลย แต่ไม่เพิ่มโทษตามมาตรา 72เพราะโทษสูงสุดแล้ว คงลดฐานสารภาพ 1 ใน 3 จำคุกจำเลยตลอดชีวิตโจทก์ฎีกาว่าไม่ควรลดฐานรับสารภาพเพราะจำเลยจำนนต่อพยาน ดังนี้ ไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาวินิจฉัยถึงเรื่องเพิ่มโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความผิดเจ้าพนักงานละเว้นการจับกุม และดุลพินิจยกโทษทางอาญาในคดีการพนัน
ฎีกาว่าศาลฟังข้อเท็จจริงไม่ตรงตามสำนวนนั้นเป็นข้อกฎหมาย
พลตำรวจไม่จับกุมผู้ลักเล่นการพนันนั้นไม่เป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 146 เพราะการไม่จับกุมไม่ถือว่าเป็นการป้องกันและขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย
การใช้ดุลพินิจยกโทษจำคุกตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40แก่จำเลยในคดีการพนันย่อมใช้ได้ ไม่เป็นการขัดต่อพ.ร.บ.การพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์โทษกักกันเป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฎีกาจึงต้องห้าม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี 4 เดือนแล้วให้กักกันมีกำหนด 3 ปีนั้นฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
การขอให้ยกหรือลดโทษกักกันอันเป็นดุลพินิจนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลในการส่งตัวผู้ต้องโทษไปกักกัน พิจารณาจากระยะห่างของโทษและความร้ายแรงของโทษปัจจุบัน
ในคดีที่โจทก์ขอให้ส่งตัวจำเลยไปกักกัน ตาม พ.ร.บ.กักกัน ฯลฯ มาตรา 8-9 นั้น เมื่อปรากฏต้องโทษครั้งที่หนึ่งจำเลยต้องจำคุก 3 เดือน พ้นโทษ พ.ศ.2466 โทษครั้งที่ 2 ต้องจำคุก 8 ปี พ้นโทษ พ.ศ.2475 โทษครั้งที่ 3 ต้องจำคุก 8 เดือน พ้นโทษ พ.ศ.2479 ดังนี้เป็นการต้องโทษระยะห่าง ๆ กัน และเมื่อต้องโทษครั้งที่ฟ้องนี้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ศาลย่อมใช้ดุลยพินิจไม่ส่งตัวจำเลยไปกักกันได้
ศาลชั้นต้นให้จำคุก 6 เดือน+ไปกักกัน 3 ปี ศาลอุทธรณ์ให้+โทษกักกัน โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพเมื่อใช้สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฎหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์สินของเจ้าของกรรมสิทธิ์ไว้ชั่วคราวกล่าวคือบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ต้องอยู่ภายในบังคับแห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ นั้น
เมื่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลพินิจให้ผู้มีสิทธิในทรัพย์สินได้ใช้สิทธิของตนตามหลักกฎหมายทั่วไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฎหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็ต้องยุติเป็นเด็ดขาดเพียงนั้น ศาลย่อมจะต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฎหมายทั่วไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนนัดพิจารณาคดี: ดุลพินิจศาลเมื่อมีการเจรจาประนีประนอม แม้ไม่ระบุพยาน
นัดพิจารณาครั้งแรก โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่ากำลังเจรจาหาทางปราณีประนอมยอมความกับจำเลย ศาลเลื่อนการพิจารณาไป ครั้นถึงวันนัด โจทก์แถลงว่าได้ทำความตกลงกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว คงเหลือแต่บางข้อ ยังไม่ได้เตรียมพยานมา ขอเลื่อนคดีไป ดังนี้ แม้โจทก์มิได้ระบุพยานเป็นการบกพร่องตาม ม.88 ป.ม.วิ.แพ่ง ก็ตาม แต่รูปคดีมีเหตุอันควรอนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 40.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบกระบือของกลางตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ ศาลต้องบังคับตามกฎหมาย ไม่ใช้ดุลพินิจ
มีกระบือไว้ใม่แจ้งปริมาณอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ นั้น ศาลต้องริบกระบือของกลางด้วย จะใช้ดุลย์พินิจไม่ริบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 61/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบสุราในความผิดฐานขนสุราเถื่อน ศาลต้องริบตามกฎหมาย มิได้อยู่ในดุลพินิจ
สุราที่ผู้กระทำผิดฐานขนสุราไปต่างตำบลมิได้รับอนุญาตนั้นต้องริบตามกฎหมายมิใช่อยู่ในดุลพินิจของศาล อ้างฎีกาที่178/2486
of 93