พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,083 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 429-438/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยคนต่างด้าว: สิทธิครอบครองและอายุความฟ้องร้อง
การได้มาซึ่งที่ดินตามพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวและตามประมวลกฎหมายที่ดินนั้นหาได้หมายความแต่เฉพาะการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างเดียวไม่แต่ยังหมายถึงการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในฐานะเจ้าของด้วย
การที่คนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินโดยฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวเป็นความผิดอันเกิดขึ้นครั้งหนึ่งคราวเดียว หาใช่เป็นความผิดต่อเนื่องกันไม่ฉะนั้นอายุความฟ้องร้องคดีจึงต้องเริ่มนับหนึ่งแต่วันที่จำเลยกระทำการได้มาซึ่งที่ดินโดยฝ่าฝืนกฎหมายเป็นต้นไป
การที่คนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินโดยฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวเป็นความผิดอันเกิดขึ้นครั้งหนึ่งคราวเดียว หาใช่เป็นความผิดต่อเนื่องกันไม่ฉะนั้นอายุความฟ้องร้องคดีจึงต้องเริ่มนับหนึ่งแต่วันที่จำเลยกระทำการได้มาซึ่งที่ดินโดยฝ่าฝืนกฎหมายเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองทรัพย์สินที่ถูกยึด - การขัดทรัพย์ - ไม่เป็นฟ้องซ้ำ - อายุความมรดก
เมื่อเจ้าหนี้มายึดนาที่อยู่ในการครอบครองของผู้ร้อง ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิในการที่ผู้ร้องจะครอบครองที่นาพิพาทต่อไปแล้ว การร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ถูกยึด ประเด็นมีอยู่ว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นหรือไม่ ถ้ามิใช่ศาลก็ต้องสั่งปล่อย เหตุนี้ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้ปล่อยพิพาทได้
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากกว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกัน การร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากกว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกัน การร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์ยึด: สิทธิครอบครอง vs. เจ้าของทรัพย์, ฟ้องซ้ำ, อายุความมรดก
เมื่อเจ้าหนี้นำยึดนาที่อยู่ในการครอบครองของผู้ร้องถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิในการที่ผู้ร้องจะครอบครองที่นาพิพาทต่อไปแล้ว การร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ถูกยึด ประเด็นมีอยู่ว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นหรือไม่ ถ้ามิใช่ ศาลก็ต้องสั่งปล่อย เหตุนี้ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้ปล่อยนาพิพาทได้
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกันการร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกันการร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินหลังสัญญาซื้อขาย & ค่าเสียหายจากการขัดขวางการใช้สิทธิ
การที่โจทก์ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยที่สัญญาซื้อขายให้ตกลงกันว่าให้โจทก์มีสิทธิครอบครองได้ทันที และได้ส่งมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นเรียบร้อยแล้ว แม้โจทก์จะยังไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นในทันทีก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้นในทันทีก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินตามข้อสัญญาดังกล่าวได้
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้อง พฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้นโจทก์พึงได้รับเฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้อง พฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้นโจทก์พึงได้รับเฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินหลังสัญญาซื้อขาย การละเมิดสิทธิโดยการขัดขวางการใช้ประโยชน์ และการคำนวณค่าเสียหายที่เหมาะสม
การที่โจทก์ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยที่สัญญาซื้อขายมีข้อตกลงกันว่าให้โจทก์มีสิทธิครอบครองได้ทันที และได้รับส่งมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นเรียบร้อยแล้ว แม้โจทก์จะยังไม่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นในทันทีก็ตาม โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยผู้ละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินตามข้อสัญญาดังกล่าวได้
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้องพฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้น โจทก์พึงได้รับแต่เฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น
ค่าเสียหายในการละเมิดขัดขวางมิให้โจทก์เข้าใช้สิทธิในที่ดินนั้น หากโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าตนจะได้เงินกินเปล่าเป็นจำนวนเท่าใด ทั้งมิได้นำสืบว่าที่ดินข้างเคียงกับที่ดินของโจทก์ได้เคยมีการให้เช่า และเสียเงินกินเปล่ากันอย่างไร และเงินกินเปล่าตามที่ฟ้องพฤติการณ์เป็นเรื่องที่โจทก์คาดคะเนเอาเองเมื่อฟ้องคดีนั้น โจทก์พึงได้รับแต่เฉพาะแค่ค่าเช่าที่โจทก์ควรจะได้จากวันที่โจทก์ได้รับสิทธิครอบครองตามสัญญาซื้อขายจนถึงวันฟ้องในฐานะเป็นค่าเสียหายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิครอบครองที่ดินแทนสินสอด และสิทธิเรียกร้องสินสอดเมื่อไม่จดทะเบียนสมรส
บิดามารดาของฝ่ายชายยกที่นามือเปล่าให้แก่มารดาของฝ่ายหญิงแทนเงินค่าสินสอด โดยทำหนังสือสัญญากันเองและได้ชี้เขตแบ่งแยกออกจากที่นาผืนใหญ่ของตน ทั้งมารดาของฝ่ายหญิงก็เข้าครอบครองที่นานั้นแล้ว ดังนี้ ถือได้ว่าสิทธิครอบครองที่นาส่วนนั้นตกได้แก่มารดาของฝ่ายหญิงแล้ว โดยไม่จำต้องไปจดทะเบียน
สิทธิของชายที่จะเรียกคืนสินสอดในกรณีที่การสมรสไม่สมบูรณ์เพราะขาดการจดทะเบียนนั้น จะต้องปรากฏว่าหญิงเป็นฝ่ายผิด ไม่ยอมจดทะเบียนสมรส
สิทธิของชายที่จะเรียกคืนสินสอดในกรณีที่การสมรสไม่สมบูรณ์เพราะขาดการจดทะเบียนนั้น จะต้องปรากฏว่าหญิงเป็นฝ่ายผิด ไม่ยอมจดทะเบียนสมรส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองยังไม่จดทะเบียน ไม่สามารถอ้างสิทธิเหนือผู้รับโอนที่สุจริตและจดทะเบียนสิทธิแล้วได้
สิทธิครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น กฎหมายยังมิได้รับรองอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะได้จดทะเบียนสิทธินั้นแล้ว
สิทธิครอบครองอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น อาจจะยกขึ้นต่อสู้เจ้าของที่ดินเดิม (ผู้โอน) ได้ แต่จะยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอก (ผู้รับโอน) ซึ่งได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทน และโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรค 2 แล้วไม่ ได้ เพราะสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 ซึ่งเป็นบทยกเว้นหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่า "ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน"
สิทธิครอบครองอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น อาจจะยกขึ้นต่อสู้เจ้าของที่ดินเดิม (ผู้โอน) ได้ แต่จะยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอก (ผู้รับโอน) ซึ่งได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทน และโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรค 2 แล้วไม่ ได้ เพราะสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 ซึ่งเป็นบทยกเว้นหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่า "ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน"
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองยังไม่จดทะเบียนสู้สิทธิผู้รับโอนโดยสุจริตไม่ได้ตามมาตรา 1299
สิทธิครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382 นั้น กฎหมายยังมิได้รับรองอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะได้จดทะเบียนสิทธินั้นแล้ว
สิทธิครอบครองอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น อาจจะยกขึ้นต่อสู้เจ้าของที่ดินเดิม (ผู้โอน) ได้ แต่จะยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอก (ผู้รับโอน) ซึ่งได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง แล้วไม่ได้ เพราะสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ซึ่งเป็นบทยกเว้นหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่า "ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน"
สิทธิครอบครองอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น อาจจะยกขึ้นต่อสู้เจ้าของที่ดินเดิม (ผู้โอน) ได้ แต่จะยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอก (ผู้รับโอน) ซึ่งได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง แล้วไม่ได้ เพราะสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ซึ่งเป็นบทยกเว้นหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่า "ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน"
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินชายตลิ่งสาธารณสมบัติ: สิทธิครอบครองเป็นโมฆะ แต่มีสิทธิเรียกร้องให้รื้อถอนหากกีดขวางการใช้ประโยชน์ที่ดินของตน
ที่ดินชายตลิ่งซึ่งมีน้ำท่วมถึงอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้น ผู้ใดจะอ้างสิทธิครอบครองหาได้ไม่ แม้จำเลยจะได้ทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวนั้นจากโจทก์มา โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องบังคับขับไล่จำเลยตามสัญญาเช่านั้นได้
ที่ดินชายตลิ่งตรงที่จำเลยปลูกโรงเรือนอยู่ทางด้านกว้างของที่ดินโจทก์ตอนริมคลองบอด เป็นที่กีดขวางระหว่างที่ดินของโจทก์กับคลองบอด ทำให้ที่ดินโจทก์ทางด้านนั้นถูกริดรอนความสะดวกไปบ้างโจทก์ผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนเพราะถูกบังหน้าที่ดินทางด้านริมคลองเช่นนี้ ย่อมมีสิทธิที่จะให้จำเลยปฏิบัติเพื่อขจัดการนั้นให้สินไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1337 ถึงหากว่าโรงเรือนของจำเลยจะไม่ปิดบังหน้าที่ของโจทก์ทางด้านถนนหลวงก็ดี
ที่ดินชายตลิ่งตรงที่จำเลยปลูกโรงเรือนอยู่ทางด้านกว้างของที่ดินโจทก์ตอนริมคลองบอด เป็นที่กีดขวางระหว่างที่ดินของโจทก์กับคลองบอด ทำให้ที่ดินโจทก์ทางด้านนั้นถูกริดรอนความสะดวกไปบ้างโจทก์ผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนเพราะถูกบังหน้าที่ดินทางด้านริมคลองเช่นนี้ ย่อมมีสิทธิที่จะให้จำเลยปฏิบัติเพื่อขจัดการนั้นให้สินไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1337 ถึงหากว่าโรงเรือนของจำเลยจะไม่ปิดบังหน้าที่ของโจทก์ทางด้านถนนหลวงก็ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022-1024/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินหลังเวนคืน: การขอรับรองการทำประโยชน์และการใช้เงินค่าทดแทน
โจทก์จับจองที่พิพาทและได้ขอคำรับรองการทำประโยชน์จากนายอำเภอภายในกำหนด 180 วันตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 แล้ว แต่นายอำเภองดเสียเองเพราะเหตุนอกเหนือประมวลกฎหมายที่ดินนั้น จะถือว่าที่พิพาทปลอดจากการจับจองเพราะโจทก์มิได้ขอคำรับรองว่าทำประโยชน์แล้วตามมาตรา 7 มิได้
แม้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทที่ต้องเวนตืนจะมาเป็นของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันใช้บังคับพระราชบัญญัติเวนคืนแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่จะมีสิทธิเข้าครอบครองที่พิพาทนั้นได้ก็ต่อเมื่อได้ใช้หรือวางเงินค่าทดแทนแล้ว หากยังไม่ได้ใช้หรือวางเงิน ก็จะอ้างว่าครอบครองได้สิทธิแล้วหาได้ไม่.
แม้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทที่ต้องเวนตืนจะมาเป็นของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันใช้บังคับพระราชบัญญัติเวนคืนแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่จะมีสิทธิเข้าครอบครองที่พิพาทนั้นได้ก็ต่อเมื่อได้ใช้หรือวางเงินค่าทดแทนแล้ว หากยังไม่ได้ใช้หรือวางเงิน ก็จะอ้างว่าครอบครองได้สิทธิแล้วหาได้ไม่.