คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในเช็ค: จำเลยไม่ได้ปฏิเสธการออกเช็คชัดเจน จึงถือว่ารับผิดต่อผู้ทรง
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คฉบับเดียว จำเลยให้การว่าเคยออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่น. ต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่าเช็ค 2 ฉบับ มีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้ชัดแจ้งจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องจริง
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ได้ปฏิเสธการออกเช็คชัดแจ้ง ถือว่ารับสภาพหนี้ตามเช็ค และข้อต่อสู้เรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่นใช้ไม่ได้ผล
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คฉบับเดียว จำเลยให้การว่า เคยออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่ น. ต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่า เช็ค 2 ฉบับ มีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้ชัดแจ้งจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องจริง จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า การโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น.ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยฎีกาขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไป ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี เสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท มิใช่คิดตามทุนทรัพย์พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ได้ปฏิเสธการออกเช็คชัดเจน จึงต้องรับผิดในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คต่อผู้ทรง
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คฉบับเดียว จำเลยให้การว่าเคยออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่น. ต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่าเช็ค 2 ฉบับ มีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้ชัดแจ้งจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องจริง
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความโดยการเปลี่ยนเช็ค: สิทธิในการฟ้องคดีอาญาตามเช็คเดิมระงับ
การที่โจทก์ร่วมตกลงคืนเช็คพิพาทที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินให้จำเลย เพื่อแลกกับเช็คอีกสองฉบับซึ่งมีจำนวนเงินในเช็ครวมเท่าเช็คพิพาทและโจทก์ร่วมนำเช็คสองฉบับหลังไปเรียกเก็บเงินแล้วแม้โจทก์ร่วมจะยังไม่ได้คืนเช็คพิพาทให้จำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าโจทก์ร่วมตกลงเข้าถือเอาสิทธิตามเช็คสองฉบับดังกล่าว และสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ในเช็คพิพาทอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลย จึงเป็นการยอมความแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความจากข้อตกลงแลกเปลี่ยนเช็ค ทำให้สละสิทธิในเช็คเดิม
การที่โจทก์ร่วมตกลงคืนเช็คพิพาทที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินให้จำเลย เพื่อแลกกับเช็คอีกสองฉบับซึ่งมีจำนวนเงินในเช็ครวมเท่าเช็คพิพาท และโจทก์ร่วมนำเช็คสองฉบับหลังไปเรียกเก็บเงินแล้ว แม้โจทก์ร่วมจะยังไม่ได้คืนเช็คพิพาทให้จำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าโจทก์ร่วมตกลงเข้าถือเอาสิทธิตามเช็คสองฉบับดังกล่าว และสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ในเช็คพิพาทอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลย จึงเป็นการยอมความแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจลงนามในเช็คไม่ถือเป็นตัวการร่วม หากไม่มีส่วนร่วมในการออกเช็ค
บริษัทจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะกรรมการทำหนังสือมอบอำนาจทั่วไปให้จำเลยที่ 5 ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่าง รวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 5 ออกเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มีส่วนร่วมออกเช็คด้วย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจลงนามในเช็ค ไม่ถือเป็นตัวการร่วมในความผิดฐานออกเช็คเด้ง หากไม่มีส่วนร่วมในการออกเช็คโดยตรง
บริษัทจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะกรรมการทำหนังสือมอบอำนาจทั่วไปให้จำเลยที่ 5 ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่างรวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 5ออกเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มีส่วนร่วมออกเช็คด้วย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดกรรมการร่วมออกเช็ค – มอบอำนาจทั่วไป
บริษัทจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะกรรมการทำหนังสือมอบอำนาจทั่วไปให้จำเลยที่ 5 ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่างรวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 5 ออกเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3ที่ 4 ไม่มีส่วนร่วมออกเช็คด้วย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2ที่ 3 ที่ 4 ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำเช็คเข้าบัญชีในวันสั่งจ่ายและการพิสูจน์ความผิดฐานออกเช็คโดยไม่มีเงินเพียงพอ
โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินหลังวันสั่งจ่ายทั้งสองฉบับ ความจริงโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีของโจทก์ในวันสั่งจ่ายที่ปรากฏในเช็คแต่ละฉบับ และว่าโจทก์ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า ในขณะออกเช็คถึงวันสั่งจ่าย ผู้สั่งจ่ายมีเงินในบัญชีไม่พอจะใช้เงินตามเช็คนั้น เพราะยังไม่ถึงวันสั่งจ่าย แม้จำเลยจะมีเงินในธนาคาร โจทก์ก็เบิกเงินตามเช็คไม่ได้ ดังนี้อุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวพอแปลได้ว่า โจทก์ไม่เห็นด้วยในการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล จึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 193 แล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6118/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คชำระดอกเบี้ยเกินอัตราทางกฎหมาย ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกู้เงินโจทก์และได้ออกเช็คพิพาทชำระค่าดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกร้องเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3 โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องบังคับให้จำเลยชำระเงินตามเช็คไม่ได้ การที่จำเลยออกเช็คพิพาทจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3
of 187