คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กฎหมายเฉพาะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 107 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความและหน้าที่ทำบัญชี: ศาลยกฟ้องฐานสมรู้ร่วมคิดหากไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายเฉพาะ
จำเลยผู้ทำการโรงสีไม่ได้ทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 201 อันมีโทษตาม มาตรา 208แต่ขณะพิจารณาคดีได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 บังคับแล้ว พระราชบัญญัตินี้ได้ยกเลิกและบัญญัติเรื่องการทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกใหม่ตาม มาตรา 40 โดยแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร มาตรา 87ทวิขึ้นใหม่และมีบทลงโทษตาม มาตรา 93 ซึ่งมีโทษเบากว่า การกระทำของจำเลยจึงต้องนำ มาตรา 87ทวิและ มาตรา 93 มาใช้บังคับและต้องนำอายุความสำหรับบทลงโทษ ตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะพิจารณาคดีซึ่งมีโทษเบากว่ามาใช้บังคับแก่คดีด้วย
หน้าที่ทำบัญชีตาม พระราชบัญญัติบัญชีนั้นเป็นหน้าที่เฉพาะบุคคลตามที่ระบุไว้ใน พระราชบัญญัติการบัญชี มาตรา 7บุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่ทำบัญชีจะเรียกว่าเป็นผู้ละเว้นกระทำไม่ได้ และจะช่วยสมรู้หรือสมคบในการไม่กระทำตามหน้าที่ของคนอื่นก็ไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1 ผู้เดียว โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้กระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 มิได้อุทธรณ์ฎีกาถ้าเป็นเหตุในลักษณะคดีแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขคำพิพากษาให้เป็นผลดีแก่จำเลยที่ 1 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์ฎีกาในคดีส่งตัวเด็กไปสถานฝึกอบรมตามกฎหมายเฉพาะ
การอนุญาตให้ฎีกาหรือรับรองฎีกาตาม ป.วิ.อาญามาตรา 221 นั้นจะต้องเป็นคดีที่มีปัญหาข้อเท็จจริงดั่งที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 218, 219 และ 220
ฉะนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรม ซึ่งต้อง ห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาในเรื่องเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมนี้ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้ง ศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 27 - 29 จำเลยย่อมฎีกาในปัญหาดังกล่าวไม่ได้ และแม้อธิบดีศาลคดี
เด็กและเยาวชนกลางจะอนุญาตให้ฎีกาได้ ก็ไม่เป็นฎีกาที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษคดีฝิ่น: กฎหมายเฉพาะเหนือกว่ากฎหมายทั่วไป
ตามบทบัญญัติในมาตรา 11 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา ศาลจะยกมาตรา 23 แห่งกฎหมายนี้มาใช้ได้เฉพาะในกรณีที่กฎหมายนั้นๆ มิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น แต่ในกรณีเรื่องการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นนั้น มาตรา 68(1) แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 บัญญัติถึงวิธีเพิ่มโทษผู้กระทำผิดต่อพระราชบัญญัติฝิ่นโดยเฉพาะเป็นพิเศษบังคับให้ศาลลงโทษทั้งปรับทั้งจำ จึงจะนำกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 มาใช้ในกรณีเช่นนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายสุราก่อนมีกฎหมายเฉพาะ การกระทำไม่ผิด แม้ภายหลังมีกฎหมายใหม่
การขนย้ายน้ำสุรา อันไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติภาษีชั้นในพ.ศ.2457 นั้นแม้ในระหว่างพิจารณา ได้มี พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ออกมาก็ดี ก็ต้องถือว่าขณะจำเลยทำการขนย้ายสุรายังไม่มีกฎหมายบัญญัติถึงวิธีการขนย้ายน้ำสุราดังเช่น จำเลยกระทำว่าเป็นผิด ฉะนั้นการขนย้ายสุราดังกล่าวแล้วจึงไม่เป็นผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจริบของกลางในคดีชั่งตวงวัด: เจตนารมณ์ของกฎหมายเฉพาะ
ฟ้องคดีอาญานั้น กฎหมายบังคับให้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น หาได้บัญญัติให้อ้างบทมาตราที่บัญญัติให้ริบของกลางด้วยไม่ฉะนั้นแม้จะไม่ได้อ้างมา ศาลก็มีอำนาจริบได้ในเมื่อโจทก์มีคำขอไว้แล้ว
พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของพระราชบัญญัตินี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งกฎหมายลักษณะอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใดๆ ตาม พระราชบัญญัตินี้อีกในเมื่อการกระทำนั้นๆ ไม่เป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชยกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งนั้นชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้วยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงาน ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด2466 มาตรา 24 ดำริว่าควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการขอเงินสินบลนำจับในคดีป้องกันการค้ากำไรเกินควร: พ.ร.บ.เฉพาะ vs. พ.ร.บ.ทั่วไป
เงินสินบลนำจับนี้ พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 มาตรา 5 บัญญัติให้ใช้แก่ความผิดซึ่งเกิดขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันการค้าเกินกำไรเกินควรด้วย และมาตรา 9 ให้พนักงานอัยยการร้องขอต่อศาลให้จ่ายเงินสินบลหรือเงินรางวัล คำว่าสินบลหรือรางวัลตาม พระราชบัญญัตินี้หมายความว่า สินบลหรือรางวัลตามที่ระบุไว้ในมาตรา 8 ซึ่งให้จ่ายจากเงินราคาของกลางหรือค่าปรับ แต่ พ.ร.บ.ป้องกันการค้าเกินกำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 30 บัญญัติว่านอกจากโทษตามคำพิพากษาแล้ว ผู้กระทำผิดยังต้องเสียสินบลนำจับอีกนั้น พระราชบัญญัติ.ฉะบับหลังจึงบัญญัติเรื่องสินบลนำจับไว้เป็นพิเศษ แตกต่างไปจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิดฯ พนักงานอัยยการจะขอแทนได้ฉะเพาะกรณีที่ขอตามมาตรา 8 จะอ้างมาตรา 9 มาใช้แก่เรื่องนี้ไม่ได้ อัยยการจึงไม่มีทางจะขอแทนได้ (อ้างฎีกาที่ 1043/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบแร่ของกลางในคดีเหมืองแร่ ต้องพิจารณาตามกฎหมายเหมืองแร่โดยเฉพาะ ไม่สามารถใช้ ก.ม.ลักษณะอาญาได้
การที่จะริบแร่ของกลางในคดีผิดต่อ พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ได้หรือไม่ ต้องวินิจฉัยตาม ก.ม.เรื่องการทำเหมืองแร่ จะนำ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 27 มาใช้ หาได้ไม่
แร่ของกลางที่จำเลยได้มาจากการร่อนหาแร่โดยกำลังตนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น กฎหมายในเรื่องการทำเหมืองแร่ มิได้บัญญัติให้ริบ.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2492

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาตามยอมเด็ดขาดแล้ว ไม่อาจอ้างกฎหมายเฉพาะมาเปลี่ยนแปลงผลได้
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษานั้นว่าบังคับตามยอมและต่อมาออกหมายบังคับคดีต่อจำเลยอีก ดังนี้แสดงว่า มีคำบังคับแล้ว
เมื่อจำเลยทำยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่เช่า และศาลพิพากษาตามยอม ดังนี้เป็นคำพิพากษาที่เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว จะอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่ามาเปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกทรัพย์ระหว่างสามีภรรยา: สิทธิฟ้องต้องมีฐานตามกฎหมายเฉพาะ
โดยปรกติเมื่อชายหญิงยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ จะฟ้องร้องกันด้วยเรื่องทรัพย์ที่บริคณฑ์กันอยู่ไม่ได้ เว้นแต่จะมี ก.ม.บัญญัติให้อำนาจไว้ เช่น ป.พ.พ.มาตรา 1467, 1472, 1478 ในกรณีเช่นที่โจทก์ฟ้องนี้ ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย
(อ้างฎีกา 622/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจควบคุมข้าว: กฎหมายเฉพาะไม่ตัดสิทธิการใช้กฎหมายในภาวะฉุกเฉิน
พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักข้าว 2489 และพ.ร.บ.การค้าข้าว 2489 หาได้ใช้แทนหรือขัดกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคและของอื่นๆในภาวะคับขัน 2488 ไม่
(อ้างฎีกา197,198/2491ป
of 11