คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กักขัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 122 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์โทษกักขัง: ข้อจำกัดและข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวง
ศาลแขวงลงโทษกักขังจำเลย 2 เดือนจำเลยจะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
โทษกักขังไม่ใช่โทษจำคุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่า ข่มขืน และกักขัง: ศาลฎีกายืนโทษฐานข่มขืน
จำเลยฉุดคร่าพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร แล้วข่มขืนกระทำชำเรา และหน่วงเหนี่ยวกักขังหญิงนั้นไว้ เป็นความผิด 3 กระทงตาม มาตรา 276,284,310 และศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยกระทงที่หนักที่สุดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่า ข่มขืน และกักขัง: ศาลฎีกายืนโทษฐานข่มขืน กระทงหนักจำคุก
จำเลยฉุดคร่าพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร แล้วข่มขืนกระทำชำเรา และหน่วงเหนี่ยวกักขังหญิงนั้นไว้ เป็นความผิด 3 กระทงตาม มาตรา 276,284,310 และศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยกระทงที่หนักที่สุดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษค่าปรับเป็นกักขังตามกฎหมายใหม่ แม้คดีถึงที่สุดแล้ว ศาลยังปรับโทษได้หากเป็นคุณแก่จำเลย
ศาลพิพากษาปรับ และให้บังคับตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 18 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะพิพากษาต่อมาประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 ใช้บังคับ ศาลย่อมกักขังแทนค่าปรับตามกฎหมายใหม่ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลย แม้คำพิพากษาที่ใช้กฎหมายเก่าจะถึงที่สุดไปแล้วก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน, กักขัง และขู่กรรโชกทรัพย์
จำเลย 5 คน เป็นราษฎรแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีปืนและมีดไปจับราษฎรมา โดยแกล้งกล่าวหาว่าเล่นเบี้ยโบกมาตามทางได้ใช้ปืนและมีดขู่เขาให้ ๆ เงิน ผู้ถูกจับกลัวจึงให้เงินไป 800 บาท จำเลยจึงปล่อยเขาไป เช่นนี้ นอกจากจำเลยจะผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแล้ว ยังมีผิดฐานทำการปล้นเขาด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าปรับ: เปลี่ยนจากจำคุกแทนค่าปรับตามกฎหมายลักษณะอาญาเป็นกักขังแทนค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา
ในกรณีที่การจำคุกแทนค่าปรับตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.18 ในหมายจำคุกยังไม่ถึงเวลาคุมขัง เพราะโทษจำคุกยังมีอยู่จนกระทั่งถึงวันใช้ประมวลกฎหมายอาญาเช่นนี้ ต้องนำประมวลกฎหมายอาญา ม.30 มาใช้บังคับตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 ม. 6 คือต้องออกหมายกักขังแทนค่าปรับใหม่เป็นอัตราวันละ 5 บาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีค่าปรับ: เปลี่ยนวิธีจากจำคุกแทนค่าปรับตามกฎหมายลักษณะอาญา เป็นกักขังแทนค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา
ในกรณีที่การจำคุกแทนค่าปรับตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 18 ในหมายจำคุกยังไม่ถึงเวลาคุมขัง เพราะโทษจำคุกยังมีอยู่จนกระทั่งถึงวันใช้ประมวลกฎหมายอาญา เช่นนี้ ต้องนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 มาใช้บังคับตาม พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 6 คือต้องออกหมายกักขังแทนค่าปรับใหม่เป็นอัตราวันละ 5 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่: ฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้ไม่มีพยานเห็นการกักขัง
ความผิดฐานสมคบหน่วงเหนี่ยวกักขังคนเพื่อสินไถ่นั้นโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้ง 5 สมคบกันกระทำผิดเริ่มแต่วันที่ 13 ธ.ค. ถึง 17 ธ.ค.95 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนอันเป็นเวลาระหว่างที่จำเลยลักพาเด็กไปหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เพื่อสินไถ่ ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดทำอะไร ความละเอียดนอกจากนี้เป็นข้อที่นำสืบ จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีและไม่หลงข้อต่อสู้ จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
แม้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าจำเลยคนไหนเป็นผู้กักขังหน่วงเหนี่ยวและไม่มีพยานโจทก์เห็นผู้เสียหายถูกกักขังอยู่ในลัง เมื่อเหตุอื่น ๆ ฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันหน่วงเหนี่ยวกักขังจริง จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉุดคร่าอนาจาร-หน่วงเหนี่ยวกักขัง: การกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ศาลรวมโทษได้
จำเลยฉุดคร่าผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและเมื่อพาไปถึงบ้านผู้อื่นแล้ว จำเลยยังได้บังอาจหน่วงเหนึ่ยวกักขังผู้เสียหายไว้อีกดังนี้ เป็นการกระทำผิด 2 ตอน ต่างกรรมต่างวาระกัน จำเลยย่อมมีผิดฐานฉุดคร่าห์อนาจารและฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 276,270 เป็นสองกะทง และศาลมีอำนาจให้รวมกะลงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นฎีกาต้องยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้น การจับกุมและการกักขังโดยไม่มีอำนาจ
ข้อกฎหมายที่ยกขึ้นฎีกาต่อศาลฎีกาได้นั้น จะต้องเป็นข้อที่ได้ตั้งประเด็นว่ากันมาแล้วตั้งแต่ในศาลชั้นต้น
of 13