คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การบังคับคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 101 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ซ้ำและการซื้อขายที่ตกเป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นการยึดซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดบังคับคดีไว้แล้ว เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นได้แต่จะขอเข้าเฉลี่ยในทรัพย์นั้นหรือเงินที่ขายหรือจำหน่ายได้เท่านั้นจะยึดทรัพย์นั้นซ้ำอีกไม่ได้ ฉะนั้นหากมีการยึดทรัพย์ซ้ำกับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษารายแรก และปรากฏว่าผู้ร้องเป็นผู้ประมูลซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดซ้ำรายหลังนี้การซื้อขายอันเป็นผลมาจากการยึดที่ต้องห้ามตามกฎหมายนี้ย่อมไม่ชอบด้วยเช่นกัน และกรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 296 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ผู้ร้องจึงจะร้องให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดไว้ก่อนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์: การโอนหลังการยึดไม่ผูกพันโจทก์
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ร้องโดยสุจริตก่อนโจทก์นำยึดที่พิพาทนี้ หลังจากโจทก์นำยึดที่พิพาทแล้วจำเลยจึงไปทำนิติกรรมโอนที่พิพาทให้ผู้ร้อง ดังนี้ ย่อมถือว่ากรรมสิทธิ์ในที่พิพาทยังไม่โอนไปยังผู้ร้องในขณะที่ถูกยึด ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินจากลูกหนี้ของลูกหนี้จำเลย: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เกินกรอบคำฟ้องอุทธรณ์
โจทก์ยื่นคำขอให้ศาลออกหมายอายัดเงินหรือสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่จะได้รับชำระจากลูกหนี้ของจำเลยในคดีอื่นตามกฎหมาย การที่ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการอายัดเงินของลูกหนี้จำเลย โดยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 310,311 จะมีผลเป็นคำสั่งอายัดที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น เมื่อลูกหนี้ของจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านข้อนี้ทั้งในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ประการใด จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นโทษแก่โจทก์ผู้ยื่นคำขอให้ศาลออกหมายอายัด เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นแห่งคำฟ้องอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งห้ามชั่วคราวเป็นอันยกเลิกเมื่อคดีถึงที่สุด แม้โจทก์ชนะคดี หากมิได้ขอห้ามการกระทำนั้นต่อเนื่อง
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลยโดยมิได้ฟ้องขอให้ห้ามจำเลยกระทำซ้ำหรือกระทำต่อ ซึ่งการละเมิด แต่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกระทำละเมิดต่อไปชั่วคราวก่อนพิพากษา และศาลมีคำสั่งห้ามตามคำขอของโจทก์ไว้แล้ว ดังนี้เมื่อศาลตัดสินคดีแล้ว ถึงแม้โจทก์จะเป็นฝ่ายชนะได้รับชดใช้ค่าเสียหาย คำสั่งห้ามนั้นก็เป็นอันยกเลิกไปในตัว เพราะโจทก์ไม่อาจขอให้บังคับคดีห้ามมิให้จำเลยกระทำการอันโจทก์ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการฉ้อฉล: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องฉ้อฉลในชั้นขัดทรัพย์ได้ แม้ไม่ใช่ประเด็นหลัก
ผู้ร้องขัดทรัพย์ว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องโจทก์ต่อสู้ว่าทรัพย์นั้นเป็นของจำเลยทั้งนั้นไม่ใช่ของผู้ร้อง ที่ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ก็เพื่ออุบายฉ้อโกงไม่ชำระหนี้แก่โจทก์เท่านั้น ดังนี้ ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวแล้วว่าอย่างน้อยก็เป็นการสมยอมกัน เป็นการฉ้อฉล การที่ศาลยกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ขึ้นวินิจฉัยจึงไม่ใช่นอกฟ้องนอกประเด็น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2505)
เรื่องการฉ้อฉลนี้ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยในชั้นร้องขัดทรัพย์ดังกล่าวแล้วได้และเมื่อฟังว่าการโอนทรัพย์ระหว่างจำเลย (สามี) กับผู้ร้อง (ภรรยา) เป็นการฉ้อฉลตามมาตรา 237 ก็มีอำนาจที่จะพิพากษาว่าโจทก์นำยึดทรัพย์รายนี้ได้ ผู้ร้องไม่ชอบที่จะมาร้องขัดทรัพย์และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้ร้องจะโต้แย้งว่าเป็นเรื่องของโจทก์ที่จะขอแบ่งแยกสินบริคณห์แล้วนำยึดเฉพาะส่วนของจำเลยดังนี้ ย่อมฟังไม่ขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326-1327/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินงอก, สัญญาจำนอง, สิ่งปลูกสร้าง, การบังคับคดี, การครอบครอง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308 ถือได้ว่ากฎหมายให้เจ้าของที่ดินริมตลิ่งได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่งอกออกไป โดยลักษณะเป็นส่วนควบของที่ดินริมตลิ่ง และถือว่าเป็นที่ดินอยู่ในโฉนดของที่ดินริมตลิ่งด้วย
ข้อสัญญาจำนองซึ่งกล่าวว่า "สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินแปลงนี้ไม่มีสิ่งใดยกเว้นจำนองด้วยทั้งสิ้น" นี้ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 719 แปลความได้ว่าหมายถึงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่มีอยู่บนที่ดินจำนอง ในขณะทำสัญญาจำนองเท่านั้น ดังนั้น ถ้าบ้านที่พิพาทนั้นน้ำท่วมถึง ก็ยังไม่มีสภาพเป็นที่งอกในขณะทำสัญญาจำนอง บ้านนั้นก็มิใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างตามข้อสัญญาจำนอง
อนึ่ง ถ้าขณะทำสัญญาจำนองที่พิพาทได้งอกไปถึงบ้านหลังที่ 1 อันเป็นเหตุให้บ้านนั้นตกอยู่ในบังคับของสัญญาจำนองและสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าบ้านทั้ง 3 หลังนั้นปลูกติดต่อเป็นส่วนควบซึ่งกันและกัน หรืออาจแยกจากกันเป็นส่วนๆ ได้รูปบริบูรณ์ลำพังแต่ละหลังโดยไม่เป็นการทำลาย ทำให้บุบสลาย หรือเปลี่ยนแปลงรูปทรง อาจเป็นเหตุให้สัญญาจำนองและสัญญาประนีประนอมยอมความมีผลบังคับต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2141/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงิน ช.พ.ค. และผลของการไม่ขอหมายบังคับคดีภายในระยะเวลาที่กำหนด
โจทก์ฟ้องว่าสามีจำเลยกู้เงินโจทก์ บัดนี้สามีจำเลยตายแล้วจึงขอให้จำเลยใช้ และยื่นคำร้องขออายัดเงินสงเคราะห์ ช.พ.ค. (ช่วยเพื่อนครู) จำเลยขอให้ถอนการยึดอ้างว่าเงิน ช.พ.ค. ไม่เป็นมรดกไม่อยู่ในบังคับแห่งการยึดและอายัดขอให้เพิกถอนการอายัด
ที่สุดโจทก์จำเลยตกลงกันว่าคงให้อายัดเงินงวดที่จำเลยยังไม่ได้เบิก
ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี และมีคำบังคับแล้ว โจทก์เพิกเฉยไม่ขอหมายบังคับคดีภายใน 15 วันนับแต่วันสิ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำบังคับ คำสั่งศาลซึ่งโจทก์ขออายัดเงิน ช.พ.ค. จึงถูกยกเลิกไปตาม ป.วิ.แพ่ง ม.260 (2) ต้องห้ามอุทธรณ์ ฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตกเป็นบริวารจากการกระทำต่อเนื่อง แม้มีการจดทะเบียนหย่า ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการบังคับคดีได้
เดิมโจทก์ฟ้องขับไล่นางเจิมในคดีแดงที่ 722/2493 ศาลพิพากษาให้ขับไล่นางเจิม โจทก์อ้างว่าจำเลยในคดีนี้ซึ่งเป็นสามีภรรยาเป็นบริวารของนางเจิมขอให้ขับไล่ด้วยจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ใช่บริวารของนางเจิม นางอุไร ภรรยาเป็นผู้เช่าจากนางเจิมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
โจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่สามีที่สุดโจทก์กับสามีตกลงประนีประนอมยอมความกันที่ศาล คือโจทก์ยอมให้สาลีเช่าอยู่ต่อไปอีก 2 ปี ครบกำหนดโจทก์ขอให้ศาลบังคับสามีและภรรยา สามียอมออกแต่ภรรยาไม่ยอมออก อ้างว่าตนเป็นผู้เช่าได้รับความคุ้มครอง คำพิพากษาย่อมไม่ผูกพันตนเพราะตนเป็นผู้เช่าสามีไม่มีอำนาจไปทำยอม และได้หย่าขาดจากสามีภรรยาก่อนศาลพิพากษาตามยอมแล้ว
ดังนี้แม้จะได้ความว่าภรรยามีชื่อเป็นผู้เช่า แต่ขณะนั้นสามีภรรยายังอยู่กินในห้องพิพาท เวลาทำสัญญาสามีก็มาด้วยและลงชื่อเป็นพยานในสัญญาเช่า เมื่อคราวศาลเรียกสามีภรรยามาสอบในคดีก่อนคือคดีแดงที่ 722/2493 ภรรยาทราบแต่ไม่มา สามีมาแถลงต่อศาลว่าตนกับภรรยาอยู่ในห้องโดยตนเป็นผู้เช่าจากนางเจิม เมื่อสามีทำยอมกับโจทก์ที่ศาลภรรยาก็ทราบระหว่างนั้นภรรยายังนำค่าเช่ามาชำระให้โจทก์ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นชัดว่าภรรยายอมถือว่าสามีเป็นผู้เช่าห้องพิพาทภรรยาย่อมตกเป็นบริวาร ที่ภรรยาอ้างว่าหย่าขาดนั้นเป็นเพียงโล่ห์บังหน้าเพื่อเลี่ยงการบังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636-1639/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับการเช่าที่ดิน เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยจากที่ของโจทก์ ชั้นพิจารณาคู่ความตกลงกันว่าโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไป 2 ปี แม้ในสัญญาประนีประนอมจะมิได้ระบุว่าเมื่อครบ 2 ปีแล้วจำเลยจะต้องยอมออกไปก็ตาม ก็ต้องตีความตามสัญญานั้นว่าเมื่อครบ 2 ปีแล้วจำเลยก็ต้องออกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินเพื่อหยุดยึดทรัพย์และการคิดดอกเบี้ย: เงินวางต้องทำก่อนมีคำพิพากษา
การนำเงินมาวางศาล ซึ่งจะทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่วางไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 135 นั้นย่อมต้องหมายความว่านำมาวางก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจะนำมาวางในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ไม่ได้
การวางเงินต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้หยุดการบังคับคดีไว้ตามนัยแห่งมาตรา 295 หาใช่เป็นนำเงินมาวางศาลตามมาตรา 135 ไม่
of 11