คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความขัดแย้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายหลังเกิดความขัดแย้ง แสดงเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน แม้เวลาผ่านไป
ในกรณีที่จำเลยเกิดเรื่องกับผู้เสียหายในเวลาประชุม ซึ่งเป็นเหตุให้จำเลยโกรธแค้น จำเลยออกจากที่ประชุมแล้วการประชุมยังมีต่อไป จนภายหลังเลิกการประชุมและผู้คนมาประชุมกลับไปเกือบหมดแล้ว จำเลยจึงมาทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งการทำขั้นนี้มิได้เกิดจากโทสะพลุ่งขึ้นเฉพาะหน้าแล้วทำร้าย แต่เป็นกรณีเกิดโทสะแล้วไปเกิดความคิดที่จะทำร้ายเขาในภายหลัง และเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยจะต้องคิดไตร่ตรองตัดสินใจอย่างหนักในการตกลงใจกระทำผิด ในกรณีนี้การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการกระทำผิดโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องและการนำสืบพยานนอกเหนือคำให้การเดิม หากเหตุการณ์มีเพียงครั้งเดียวและไม่ขัดแย้งกับคำให้การเดิม
เดิมโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2507 จำเลยที่ 2 ใช้จำเลยที่ 1 ให้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ไปในกิจธุระของจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 ได้ทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้รถยนต์ที่ขับชนรถจักรยานยนต์โจทก์เสียหาย จำเลยต่อสู้ว่า ตามวันที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 มิได้ใช้จำเลยที่ 1 เกี่ยวกับกิจธุระและมิได้ให้ความยินยอมให้จำเลยที่ 1 เอารถไปใช้ ต่อมาโจทก์ขอแก้วันที่เป็นวันที่ 18 พฤษภาคม 2507 แต่จำเลยมิได้ยื่นคำให้การขอแก้วันที่ให้ตรงตามที่โจทก์ขอแก้ฟ้อง ดังนี้ เมื่อเหตุการณ์ที่รถจำเลยชนรถโจทก์มีครั้งเดียวคือ วันที่โจทก์ขอแก้ฟ้องเท่านั้น จำเลยจึงนำสืบตามข้อต่อสู้ถึงวันที่จำเลยที่ 1 เอารถไปชนรถของโจทก์ได้ ไม่ขัดกับคำให้การ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกห้างหุ้นส่วนเนื่องจากความขัดแย้งและการไม่แบ่งผลกำไร
หุ้นส่วนคนหนึ่งไม่ทำบัญชีรับจ่าย ไม่แบ่งผลกำไร และอ้างว่าโจทก์ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนโจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งขอเลิกและชำระบัญชีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายในครอบครัว: ศาลลดโทษจากอุกอาจร้ายแรง พิจารณาความขัดแย้งส่วนตัวและสำนึกผิด
จำเลยฟันน้องเขยด้วยมีดหมูตาย แม้เหตุจะเกิดในตลาด แต่เป็นเรื่องในระหว่างครอบครัว และเกิดในบ้านของคนทั้งสองนั้นเอง หาใช่เรื่องคนอื่นบุกรุกเข้าไปทำร้ายหรือเป็นการลอบทำร้ายไม่ จำเลยมีความเสียใจและน้อยใจอยู่แล้วเป็นทุนเดิมเพราะเหตุที่มารดาขับไล่ออกจากบ้าน เมื่อมาถูกน้องเขยล้อเลียนซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นการเยาะเย้ยอีก จึงฉวยมีดเข้าทำร้ายทันที ดังนี้ เห็นได้ชัดว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ตายมาแต่แรก แต่โมโหร้ายเกินไปจึงฟันไปทีเดียว เพียงเท่านี้จะถือเอาเป็นเรื่องอุกอาจร้ายแรงตามมาตรา 250 ข้อ 4 หาได้ไม่ จำเลยคงผิดตามมาตรา 249 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งเรื่องชู้สาว ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
การที่ใช้มีดถางหญ้าฟันเขาถึง 3 แผล แผลที่คอเป็นแผลฉกรรจ์และถึงแก่ความตายในขณะนั้น อันมีสาเหตุเพราะจำเลยเป็นชู้กับเมียผู้ตายและอยากจะอยู่ด้วยกัน การที่จำเลยขุดดินร่วมครึ่งชั่วโมงลอดตัวเข้าไปฆ่าผู้ตายซึ่งนอนอยู่ในโรงได้สมประสงค์ เช่นนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยกระทำโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายตาม มาตรา 250
การลดโทษประหารชีวิตตาม มาตรา 5937 นั้นต้องควบกัน มาตรา 37 เป็นหลักเกณฑ์การลดโทษว่ามากน้อยเพียงไร มาตรา 59เป็นดุลพินิจในการลดโทษให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายจากความขัดแย้งส่วนตัว ศาลลดโทษฐานบันดาลโทสะ
ผู้ตายพูดว่าจำเลยเข้าหาแม่ยายและเตะจำเลยถูกห้องถึงจุก จำเลยสุกขึ้นได้วิ่งเข้าบ้านไปหยิบมีด และขวานมาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยเนื่องจากจำเลยบรรดาลโทษะเพราะถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงนั่นเอง จำเลยจึงควรได้รับลดโทษฐานบรรดาลโทษะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาจากความขัดแย้งในครอบครัว ศาลลดโทษจากพฤติการณ์และคำรับสารภาพ
ภรรยาประพฤติตัวไม่ดี ชอบเล่นการพนัน และไปค้างตามโรงแรม สามีว่ากล่าวตักเตือน ก็ไม่เชื่อฟัง กลับทุบตีวิวาทกับสามีสามีจึงใช้มีดฟันภรรยามีบาดแผล 11 แห่ง ภรรยาถึงแก่ความตายและจำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณา ดังนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยสมควรได้รับความปรานี ลดโทษตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่ง
การที่ฝ่ายหนึ่งตบหน้า อีกฝ่ายหนึ่งก็เอามีดฟันพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นเรื่องวิวาท จะอ้างว่าป้องกันหรือถูกยั่วโทสะไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐาน: วันเวลาเกิดเหตุต่างจากฟ้อง ย่อมทำให้พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรในระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายนแต่พยานโจทก์ทุกคนเบิกความว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11,12 มิถุนายน ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 833/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความขัดแย้งของวันเกิดเหตุในฟ้องและหลักฐาน ทำให้ไม่สามารถลงโทษจำเลยได้
เอกสารที่โจทก์ส่งติดมาพร้อมกับฟ้องนั้น เป็นส่วนหนึ่งของฟ้องหมดทั้งฉบับ
ฟ้องหาว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเมื่อวันที่ 8 แต่ตามรายงานชันสูตรบาดแผลที่โจทก์ส่งพร้อมกับฟ้องปรากฏว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลวันที่ 5 ดังนี้ย่อมขัดกันเองฟังไม่ได้ว่า จำเลยทำผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความขัดแย้งระหว่างฟ้องซื้อขายกับหลักฐานสัญญากู้ ศาลไม่บังคับตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินแก่โจทก์ตามที่โจทก์จำเลยตกลงกันไว้โดยบรรยายฟ้องมีความว่าโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายที่ดินกัน จำเลยต้องการเงินไปใช้ก่อนโจทก์จึงมอบเงินให้จำเลยไป 700 บาท อีก 100 บาทจะชำระกันเมื่อทำโอนจำเลยได้ทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นเงิน 800 บาท ต่อมาจำเลยไม่ยอมโอนที่ดินให้แก่โจทก์ ๆ จึงฟ้องและได้แนบสำเนาสัญญากู้มาท้ายฟ้องด้วย ดังนี้แม้เดิมจะไ้ดมีการตกลงซื้อขายที่ดินหรือไม่ก็ดีแต่ที่กล่าวในฟ้องว่าได้ตกลงทำสัญญากู้กันประกอบด้วยตัว สัญญากู้เอง เห็นได้ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องตกลงจะซื้อขายที่ดินกัน ฉะนั้นจึงถือได้ว่าโจทก์ฟ้องเรื่องซื้อขายที่ดินอ้างสัญญากู้มาเป็นหลักฐาน ซึ่งมีข้อความชัดเจนเป็นเรื่องสัญญากู้เงินไว้ชัดแจ้งแล้วเช่นนี้ โจทก์จะขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินโดยอาศัยสัญญากู้หาได้ไม่ เพราะฟ้องกับคำขอท้ายฟ้องขัดกันอยู่ศาลจะบังคับให้ตามคำขอของโจทก์ไม่ได้
of 11