พบผลลัพธ์ทั้งหมด 99 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดต่อเนื่องและอายุความ
การที่จำเลยซื้อที่พิพาทซึ่งเป็นป่าจากบุคคลอื่นมา 2 ปีแล้ว เข้าไปยึดถือครอบครองปลูกปอในที่นั้นย่อมเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 และความผิดในฐานนี้เป็นความผิดที่ทำต่อเนื่องกันเรื่อยไป
จำเลยครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้รับอนุญาตต่อเนื่องกันเรื่อยมา และนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่ไปพบการยึดถือครอบครองของจำเลยจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่ขาดอายุความ
จำเลยครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้รับอนุญาตต่อเนื่องกันเรื่อยมา และนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่ไปพบการยึดถือครอบครองของจำเลยจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดครองที่ดินป่าโดยมิชอบ แม้ซื้อต่อจากผู้อื่นก็ยังเป็นความผิดต่อเนื่อง
การเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินซึ่งเดิมเป็นป่า แม้จะซื้อที่ดินนั้นมาจากผู้อื่น และอ้างว่าเจ้าของเดิมได้แผ้วถางไว้จนเตียนแล้วก็ยังเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และความผิดฐานนี้เป็นความผิดที่กระทำต่อเนื่องกัน แม้จะซื้อที่ดินนั้นมา 2 ปีแล้วแต่เมื่อนับจากวันที่เจ้าพนักงานไปพบการยึดถือครอบครองจนถึงวันที่ฟ้องเป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี ย่อมไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง และฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดิน โดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน กับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง ฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดินโดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานกับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องอาญา: ความผิดเกี่ยวพัน-ต่อเนื่อง ต้องมีมูลฟ้องเดียวกัน
ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกัน เกี่ยวพันกันนั้น ข้อเท็จจริงไม่เป็นอันเดียวกัน เกี่ยวพันกันหรือต่อเนื่องกันกับความผิดฐานพกอาวุธปืนไปในทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร และฐานใช้อาวุธปืนขู่เข็ญข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ตกใจกลัวตามความหมายในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิดไม่จดทะเบียนพานิชย์: ความผิดเฉพาะช่วง 30 วันขาดอายุความ แต่ความผิดต่อเนื่องรายวันยังคงฟ้องได้ภายใน 1 ปี
ความผิดฐานไม่จดทะเบียนพานิชย์เสียภายในกำหนด 30วัน อันมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท นั้น ถ้าไม่ได้ฟ้องเสียภายในกำหนด 1 ปี ย่อมขาดอายุความแต่ความผิดในการที่ประกอบพานิชย์กิจต่อ ๆ มาโดยไม่ได้จดทะเบียนอันมีโทษปรับเป็นรายวันนั้นเป็นความผิดต่อเนื่องปรับได้ไม่เกิน 1 ปี วันใดที่เกิน 1 ปี ย่อมขาดอายุความเช่นกัน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1206/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิดพ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์: ความผิดเฉพาะเจาะจง vs. ความผิดต่อเนื่อง
ความผิดฐานไม่จดทะเบียนพานิชย์เสียภายในกำหนด 30 วันอันมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาทนั้น ถ้าไม่ได้ฟ้องเสียภายในกำหนด 1 ปี ย่อมขาดอายุความ แต่ความผิดในการที่ประกอบพานิชย์กิจต่อๆ มาโดยไม่ได้จดทะเบียนอันมีโทษปรับเป็นรายวันนั้นเป็นความผิดต่อเนื่องปรับได้ไม่เกิน 1 ปี วันใดที่เกิน 1 ปี ย่อมขาดอายุความเช่นกัน(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษรวมกะทงความผิดต่อเนื่อง: ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์นำโทษความผิดที่ถึงที่สุดแล้วมารวมกับโทษฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำอนาจารและลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำอนาจารข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยกโจทก์แต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ดังนี้ข้อหาฐานอนาจารจึงถึงที่สุดแล้ว แม้ศาลอุทธรณ์จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์อีกกะทงหนึ่งก็ตาม ศาลอุทธรณ์จะพิพากษารวมกะทงลงโทษจำเลยโดยเอาโทษฐานอนาจารซึ่งถึงที่สุดแล้วมารวมเข้าด้วย(โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตาม ก.ม.อาญา ม.288 กะทงหนึ่ง และ ม. 246 อีกกะทงหนึ่ง แต่รวมกะทงลงโทษจำเลยให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ) ดังนี้หาเป็นการชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนคดีต่อเนื่อง: ความผิดเริ่มในพื้นที่หนึ่ง แต่กระทำต่อเนื่องในอีกพื้นที่หนึ่ง ศาลยืนว่าตำรวจท้องที่เดิมมีอำนาจสอบสวนได้
จำเลยได้รับมอบหมายเรือยนต์ลำหนึ่งในเขตท้องที่ตำรวจสถานีปากคลองสาน แล้วจำเลยได้เปลี่ยนแปลงรูปเรือ และถอกเครื่องยนต์ออกในเขตอำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอันเป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกัน ดังนี้ พนักงานตำรวจผู้เป็นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจปากคลองสานย่อมมีอำนาจทำการสอบสวนคดีนี้ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 19(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนคดีความผิดต่อเนื่อง – สถานที่กระทำความผิด
จำเลยได้รับมอบหมายเรือยนต์ลำหนึ่งในเขตท้องที่ตำรวจสถานีปากคลองสาน แล้วจำเลยได้เปลี่ยนแปลงรูปเรือ และถอดเครื่องยนต์ออกในเขตอำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอันเป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกัน ดังนี้ พนักงานตำรวจผู้เป็นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจปากคลองสานย่อมมีอำนาจทำการสอบสวนคดีนี้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา19(3)