พบผลลัพธ์ทั้งหมด 126 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความคล้ายคลึงของเครื่องหมายการค้าและการลวงสาธารณชน จำเป็นต้องพิจารณาความแตกต่างโดยรวม ไม่ใช่แค่รายละเอียดปลีกย่อย
กล่องยาของโจทก์ใช้สีชมภู แต่กล่องยาของจำเลยใช้สีน้ำเงินอ่อนและสีเหลืองซึ่งไม่เป็นข้อสำคัญ เพราะโจทก์ได้จดทะเบียนไว้ไม่จำกัดสีที่จะใช้ ต่อไปชื่อยาโจทก์ใช้อักษรโรมันล้อมทุกด้านของกล่องว่า ASPRO เป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีม่วง ส่วนชื่อยาบนกล่องของจำเลยใช้คำว่าTHAIPRO เป็นตัวอักษรโรมันด้านหนึ่งและเป็นตัวอักษรไทยว่า"ไทยโปร" อีกด้านหนึ่งเป็นตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีดำต่อไปในด้านข้างของกล่อง โจทก์ใช้ชื่อยา ASPROตัวอักษรสีขาวบนพื้นม่วงแล้วมีตัวอักษรจีนตัวเล็กๆ กำกับทั้งสองด้านส่วนกล่องของจำเลยด้านข้างหนึ่งมีตัวอักษรจีนเต็มข้าง ด้านอีกข้างหนึ่งมีตัวอักษรอาหรับเต็มข้าง ทั้งสองข้างไม่มีชื่อไทยโปรเป็นตัวอักษรโรมันหรืออักษรไทย ด้านสกัดบนและล่างของกล่องทั้งของโจทก์และจำเลยมีตัวอักษรไทยเหมือนกัน ด้านบนบอกวิธีรับประทาน ด้านล่างบอกว่ายาสามัญประจำบ้านบนลิ้นกล่องมีตัวอักษรโรมันเล็กๆ เหมือนกัน ของโจทก์บอกชื่อบริษัทผู้ผลิตของจำเลยบอกว่าสารเคมีมาจากประเทศเยอรมันขนาดกล่องของโจทก์ใหญ่กว่าของจำเลยเล็กน้อย ดังนี้ถือว่า ลักษณะเครื่องหมายการค้าบนกล่องยาจำเลยไม่คล้ายกับของโจทก์จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนใจเอาทรัพย์สิน: การกระทำความผิดฐานข่มขืนใจ แม้ยังมิได้มอบทรัพย์สิน และความแตกต่างจากฐานชิงทรัพย์
จำเลยเป็นพลตำรวจประจำสถานีตำรวจ มีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดเพื่อส่งเจ้าพนักงานดำเนินคดี จำเลยได้แกล้งจับกุมผู้เสียหายหาว่าเล่นการพนันไม่รับอนุญาต และบังคับให้ขึ้นรถรับจ้างไปกับจำเลย ในระหว่างทางจำเลยได้พูดข่มขืนใจผู้เสียหายเพื่อให้มอบเงินให้แก่จำเลย ถ้าไม่ให้เงินจำเลยจะเอาตัวส่งสถานีตำรวจ แล้วจำเลยได้ค้นลักเงินของผู้เสียหายไป 120 บาท ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท คือ มาตรา 148,310,334ประมวลกฎหมายอาญา
การข่มขืนใจเพียงเพื่อให้มอบให้แม้แต่ยังมิได้มอบทรัพย์สินให้แก่กัน ก็เป็นความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 แล้ว
จำเลยเป็นพลตำรวจพูดว่า ถ้าผู้เสียหายไม่มอบเงินให้จำเลย จำเลยจะเอาตัวส่งสถานีตำรวจในข้อหาฐานเล่นการพนันไม่ได้รับอนุญาต เพียงเท่านี้ก็ไม่ใช่เป็นการขู่เข็ญที่จะใช้กำลังประทุษร้ายอันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 339
การข่มขืนใจเพียงเพื่อให้มอบให้แม้แต่ยังมิได้มอบทรัพย์สินให้แก่กัน ก็เป็นความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 แล้ว
จำเลยเป็นพลตำรวจพูดว่า ถ้าผู้เสียหายไม่มอบเงินให้จำเลย จำเลยจะเอาตัวส่งสถานีตำรวจในข้อหาฐานเล่นการพนันไม่ได้รับอนุญาต เพียงเท่านี้ก็ไม่ใช่เป็นการขู่เข็ญที่จะใช้กำลังประทุษร้ายอันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 339
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของข้อหาฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ทำให้ต้องยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันเล่นไพ่เผทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเล่นไพ่ผสมสิบ ดั่งนี้ ข้อเท็จจริงทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของตำบลที่เกิดเหตุในคำฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
ฟ้องโจทก์ว่าเหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตรอำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเหตุเกิดที่ตำบลป้อมปราบอำเภอป้อมปราบ แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจับในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริง และอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง ข้อแตกต่างนั้นจึงมิใช่ในข้อสาระสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความคล้ายคลึงของเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความแตกต่างที่เห็นได้ชัดและผลต่อการจดทะเบียน
ด้ายหลอดของโจทก์จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าเป็นรูปสมอด้วยกันแต่ตราของโจทก์ใหญ่กว่า รูปสมอก็ใหญ่กว่ามีชื่อบริษัทโจทก์และคำว่า ด้ายจักรเป็นภาษาอังกฤษที่ขอบส่วนของจำเลยเป็นรูปสมอมีดาวล้อมเก้าดวงที่ขอบมีอักษรย่อชื่อยี่ห้อของจำเลยกับคำว่าตราดาวเก้าดวงล้อมเป็นภาษาอังกฤษและตราเล็กก็แตกต่างทำนองเดียวกับตราของจำเลยเล็กกว่าของโจทก์ทั้งสองตราดังนี้เครื่องหมายของจำเลยไม่คล้ายคลึงกับเครื่องหมายของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดไม่ถึงเหตุยกฟ้องหากองค์ประกอบความผิดยังคงครบถ้วน
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คนดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสองนั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด
ข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192 วรรคสองนั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642-1643/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของข้อเท็จจริงระหว่างฟ้องและพิจารณาในคดีปล้นทรัพย์ ไม่ทำให้การฟ้องเป็นโมฆะ
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์และบรรยายว่าจำเลยได้ปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ 4 คนตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ได้เพียง 3 คนเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่ต่างกันเช่นนี้หาใช่ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642-1643/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของข้อเท็จจริงระหว่างฟ้องและพิจารณาคดีปล้นทรัพย์: ผลต่อการตัดสิน
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์และบรรยายว่าจำเลยได้ปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ 4 คน ตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยปล้นเอาทรัพย์ไปจากเจ้าทรัพย์ได้เพียง 3 คนเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่ต่างกันเช่นนี้หาใช่ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างของเวลาเกิดเหตุในฟ้องและข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดี ไม่ทำให้ฟ้องไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2494 เวลากลางวัน (06.00 น.) จำเลยปล้นทรัพย์ แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาขมุกขมัวมีแสงสว่างบ้างแล้วซึ่งจะถือว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ใกล้เคียงกันมาก จะฟังว่าข้อเท็จจริงได้ความว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องซึ่งบรรยายว่าเหตุเกิดเวลากลางวัน จึงให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ยังไม่ได้ และเมื่อฟ้องของโจทก์จำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีโดยไม่หลงข้อต่อสู้จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วม vs. หุ้นส่วน: ความแตกต่างและการฟ้องแบ่งทรัพย์สิน
'เจ้าของร่วม' กับ 'หุ้นส่วน'ต่างกันในข้อสำคัญที่ว่าการเข้าร่วมกันเพื่อกระทำกิจการด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นหรือไม่ถ้าไม่ประสงค์เช่นนั้นก็ไม่ใช่หุ้นส่วน เป็นแต่เจ้าของร่วมแต่ถ้าประสงค์จะแบ่งปันกำไรเช่นว่านั้น ก็เป็นหุ้นส่วนและเป็นเจ้าของร่วมด้วยในตัว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ'แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต'โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วนซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ'แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต'โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วนซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง