คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าธรรมเนียม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 515 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2545 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา และผลของการไม่ชำระค่าธรรมเนียมตามกำหนด
จำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถามาพร้อมกับคำฟ้องอุทธรณ์และศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีของจำเลยไม่มีเหตุสมควรอุทธรณ์และมีคำสั่งยกคำร้อง หากจำเลยประสงค์จะอุทธรณ์ต่อไปก็ให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในเวลาที่กำหนดจึงเท่ากับศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งเกี่ยวกับเนื้อหาของคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยแล้ว และมีผลเป็นคำสั่งให้ยกคำขอนั้นเสียทีเดียว ซึ่งอยู่ในบังคับของ ป.วิ.พ.มาตรา 156 วรรคท้าย ที่ให้สิทธิแก่ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันมีคำสั่ง
จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเมื่อพ้นกำหนดเวลาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 156 วรรคท้าย จึงต้องห้ามอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องของจำเลยชอบแล้ว แต่การที่ศาลอุทธรณ์มิได้กำหนดเวลาให้จำเลยนำค่าธรรมเนียมมาชำระภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง ทั้งกำหนดเวลาของศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยนำค่าธรรมเนียมมาชำระได้ล่วงพ้นไปแล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาชอบที่จะกำหนดเวลาให้จำเลยนำค่าธรรมเนียมมาชำระภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2545 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางค่าธรรมเนียมอุทธรณ์: ศาลมีอำนาจกำหนดเวลาให้ปฏิบัติถูกต้องก่อนพิจารณาอุทธรณ์ การอุทธรณ์คำสั่งก่อนมีสิทธิทำได้
ป.วิ.พ. มาตรา 229 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้น ซึ่งรวมถึงค่าฤชาธรรมเนียมที่คู่ความอีกฝ่ายต้องเสียไปจากการดำเนินคดีในศาลชั้นต้นนั้นด้วย การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยนำเพียงค่าทนายความใช้แทนมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งไม่รับอุทธรณ์ได้ทันที แต่เมื่อศาลชั้นต้นได้เปิดโอกาสให้แก่จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลให้ถูกต้องครบถ้วนอีกครั้งหนึ่งก่อนที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาสั่งอุทธรณ์ของจำเลย อันเป็นกระบวนพิจารณาในชั้นตรวจคำฟ้องอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 232 ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลชั้นต้นโดยเฉพาะ คำสั่งของศาลชั้นต้นเช่นนี้มิใช่เป็นคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ ซึ่งผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์คำสั่งศาลนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 3 ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 ได้ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยว่า ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แทนมาวางศาลภายในเวลาที่กำหนดก่อนจึงจะพิจารณาสั่งอุทธรณ์ของจำเลยนั้น จำเลยจึงยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยมาก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาจึงไม่อาจวินิจฉัยฎีกาของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9662/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์คำสั่งยกคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ ต้องวางค่าธรรมเนียมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 มิฉะนั้นอุทธรณ์ไม่ชอบ
การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ มีผลเท่ากับเป็นการขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้โจทก์จำเลยนำพยานเข้าสืบต่อไป จำเลยจึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 229 เมื่อจำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246 , 247 และถือไม่ได้ว่าฎีกาของจำเลยเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่วางเงินค่าธรรมเนียมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 แม้ไม่มีการฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยได้
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย เท่ากับขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้พิจารณาใหม่ต่อไป จึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 เมื่อจำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ดังกล่าว จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาข้อกฎหมายนี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9148/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายกรณีไม่วางเงินค่าธรรมเนียมพร้อมอุทธรณ์ แม้เป็นการอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ต่อมาจำเลยยื่น คำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบและขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง แม้จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งงดไต่สวนพยานจำเลยในชั้นขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบก็ตาม แต่ถ้าหากศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย ศาลอุทธรณ์ก็ต้องมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้น และอนุญาตให้จำเลย นำพยานเข้าไต่สวนเพื่อจะได้ใช้ดุลพินิจมีคำสั่งให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่จำเลยอ้างว่าศาลชั้นต้นทำผิดระเบียบหรือไม่ต่อไป อุทธรณ์ของจำเลยจึงมีผลส่วนหนึ่งเท่ากับเป็นการขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยจึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนแก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 เมื่อจำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วย
กฎหมาย ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7548/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยไม่ชำระค่าธรรมเนียมส่งสำเนาอุทธรณ์ ส่งผลให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
ในชั้นตรวจอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ และให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายใน 15 วัน แต่จำเลยมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลชั้นต้น แม้ตามทางปฏิบัติจะมีหนังสือแจ้งให้ศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยแทนก็ตาม แต่โจทก์ก็มีหน้าที่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาอุทธรณ์ไปชำระแก่เจ้าหน้าที่ของศาลชั้นต้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 70 วรรคสอง ส่วนเงินที่โจทก์ได้วางไว้ในขณะยื่นคำฟ้องเป็นประกันค่าใช้จ่ายต่อศาลตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 11 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. ล้มละลาย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2542 มาตรา 6 มิใช่เงินที่โจทก์ได้วางไว้เป็นการชำระค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาอุทธรณ์ล่วงหน้า หากโจทก์ประสงค์จะให้หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อันเป็นค่าธรรมเนียมในคดีจากเงินประกันดังกล่าว ก็ชอบที่โจทก์จะแถลงให้ศาลชั้นต้นทราบและได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นก่อน ข้อที่โจทก์อ้างว่าได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายนำหมายของศาลชั้นต้นว่าได้วางเงินประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาลแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าจะดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่จำเลยโดยหักเงินค่าธรรมเนียมในการส่งจากเงินประกันดังกล่าว แม้เป็นความจริงก็เป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบ เมื่อโจทก์มิได้ชำระเงิน ค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาอุทธรณ์แก่เจ้าหน้าที่ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่นำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่จำเลย เป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) และมาตรา 246 ประกอบด้วย พ.ร.บ. จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7548/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยไม่ชำระค่าธรรมเนียมส่งสำเนาอุทธรณ์ ทำให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ในชั้นตรวจอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์และให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายใน 15 วัน แต่จำเลยมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นที่ตั้งทำการของศาลชั้นต้น แม้จะได้ความว่าตามทางปฏิบัติศาลชั้นต้นจะมีหนังสือแจ้งให้ศาลจังหวัดชลบุรีที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยแทนดังที่โจทก์ฎีกาก็ตาม แต่กรณีดังกล่าวโจทก์ก็มีหน้าที่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาอุทธรณ์ไปชำระแก่เจ้าหน้าที่ของศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 วรรคสอง แม้โจทก์จะได้วางเงินไว้ในขณะยื่นคำฟ้องจำนวน 5,000 บาท แต่ก็เป็นเงินที่โจทก์ต้องวางเป็นประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาลตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 11 จึงมิใช่เงินที่โจทก์ได้วางไว้เป็นการชำระค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาอุทธรณ์ล่วงหน้า หากโจทก์ประสงค์จะให้หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อันเป็นค่าธรรมเนียมในคดีจากเงินประกันดังกล่าว ก็ชอบที่โจทก์จะแถลงให้ศาลชั้นต้นทราบและได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นก่อนเช่นดังที่โจทก์เคยปฏิบัติมาแต่ในชั้นดำเนินการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยขณะยื่นฟ้องคดี ดังนั้น ข้อที่โจทก์อ้างว่าได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายนำหมายของศาลชั้นต้นว่า ได้วางเงินประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาลแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าจะดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่จำเลย โดยจะหักเงินค่าธรรมเนียมในการส่งจากเงินประกันดังกล่าว แม้เป็นความจริงดังที่โจทก์อ้าง แต่ก็เป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบ ไม่อาจยกขึ้นอ้างเพื่อโจทก์ไม่ต้องวางเงินค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาอุทธรณ์ตามคำสั่งศาลชั้นต้นได้ เมื่อโจทก์มิได้ชำระเงินค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาอุทธรณ์แก่เจ้าหน้าที่ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่นำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่จำเลย เป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) และมาตรา 246 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลายฯ มาตรา 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7161-7162/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากจำเลยไม่วางค่าธรรมเนียมตามที่กฎหมายกำหนด แม้จะขอให้ศาลพิจารณาพยานเพิ่มเติม
จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้นและคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ขอให้อนุญาตให้จำเลยที่ 1 นำพยานเข้าสืบต่อไป เท่ากับขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปและพิพากษาใหม่จำเลยที่ 1 จึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในส่วนของตนมาวางศาลพร้อมกับฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 ประกอบมาตรา 247 เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวาง จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ที่ไม่ชอบตามมาตรา 229: จำเลยต้องวางค่าธรรมเนียมพร้อมอุทธรณ์
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำพิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้นและให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่เท่ากับให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้พิจารณาคดีใหม่ จำเลยจึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 เมื่อจำเลยไม่นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5776/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดการวางเงินค่าธรรมเนียมพร้อมฎีกา ทำให้ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกาได้
ป.วิ.พ. มาตรา 247 ประกอบมาตรา 229 บัญญัติบังคับไว้ว่าผู้ฎีกาต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับฎีกานั้นด้วย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยื่นฎีกาโดยไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งเป็นค่าทนายความที่โจทก์ต้องใช้แทนจำเลยชั้นอุทธรณ์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาวางศาลพร้อมกับฎีกาย่อมเป็นการไม่ชอบ ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ได้ทันที การวางเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวภายหลังที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์แล้ว ย่อมไม่มีผลทำให้ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมายอันควรรับไว้พิจารณา
ป.วิ.พ. มาตรา 247 ประกอบมาตรา 229 บัญญัติไว้โดยแจ้งชัดว่าโจทก์ผู้ฎีกาจะต้องปฏิบัติให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดอันเป็นการบังคับ โดยไม่มีบทกฎหมายบัญญัติเปิดช่องไว้เป็นอย่างอื่นเพื่อให้พิจารณาถึงการไม่มีเจตนาหรือจงใจของผู้ฎีกาเจ้าหน้าที่ศาลคงมีหน้าที่ตรวจสอบเฉพาะในเรื่องค่าขึ้นศาลว่าโจทก์ผู้ฎีกาชำระถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ หากชำระไม่ถูกต้องครบถ้วนเจ้าหน้าที่ศาลดังกล่าวมีหน้าที่เรียกให้โจทก์ผู้ฎีกาชำระให้ครบถ้วน แต่ค่าธรรมเนียมที่ต้องนำมาวางศาลเพื่อชำระแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งนั้น ย่อมล่วงรู้และอยู่ในความรับผิดชอบของโจทก์ผู้ฎีกาจะต้องดำเนินการเองโจทก์จึงไม่อาจกล่าวอ้างถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ศาลมาเป็นเหตุแก้ตัวในความผิดพลาดบกพร่องของตนได้
กรณีไม่นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลพร้อมกับฎีกา ไม่ใช่เรื่องการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 ซึ่งศาลจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ การที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดระยะเวลาให้โจทก์วางค่าธรรมเนียมเสียก่อนและสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์จึงชอบแล้ว
of 52