คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ชี้สองสถาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 101 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การเพื่อยกข้อต่อสู้ใหม่ก่อนวันชี้สองสถาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การก่อนวันชี้สองสถานโดยยกข้อต่อสู้ขึ้นใหม่อีกว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะการยึดถือที่พิพาทแล้ว จำเลยทำได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179(3),180

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดประเด็นข้อพิพาท: จำเลยต้องคัดค้านการชี้สองสถาน หากไม่คัดค้านในชั้นต้น จะยกขึ้นคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
การที่ศาลชั้นต้นชี้สองสถานว่าจำเลยไม่ได้ฟ้องแย้งขอไถ่จึงไม่มีประเด็นในข้อที่ว่าจำเลยได้ใช้สิทธิไถ่ถอนในกำหนดหรือไม่ซึ่งเป็นเรื่องกำหนดประเด็นข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมตรา 183 ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไม่ถูกต้องประการใดก็ชอบที่จะคัดค้านขณะนั้น แต่จำเลยมิได้คัดค้านว่าไม่ถูกต้องประการใดประเด็นข้อพิพาทจึงต้องเป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด จำเลยจะยกขึ้นคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากการเช่าทรัพย์สิน: ไม่จำเป็นต้องชี้สองสถานหากประเด็นข้อพิพาทชัดเจน
การพิจารณาคดีนั้นไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าจำต้องมีการชี้สองสถานก่อน
เมื่อศาลชั้นต้นสอบถามและฟังคำแถลงของคู่ความ ได้จดคำรับของคู่ความไว้แล้วและเห็นว่าประเด็นข้อพิพาทไม่จำเป็นที่จะต้องสืบพยานต่อไป คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาคดีไปได้
จำเลยเป็นผู้เช่าแผงขายของจากโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าคืน หรือขอให้ขับไล่จำเลยได้จำเลยมิได้โต้เถียงว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาทในอันที่จะให้เช่าจำเลยจะเถียงสิทธิโจทก์ว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นของผู้อื่นไม่ใช่ของโจทก์เจ้าของไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดี ย่อมเถียงไม่ขึ้น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายมาเกินอัตราค่าเช่าที่จำเลยเช่าแต่โจทก์แถลงขอเรียกร้องเอาเท่ากับค่าเช่าที่จำเลย ยอมรับว่าต้องเสียให้โจทก์แล้ว โจทก์ไม่ต้องสืบประเด็นข้อนี้
คดีก่อน พนักงานอัยการเคยฟ้องจำเลยทางอาญาเรื่องวางสิ่งของปิดทางเดินเข้าตลาด คดีนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่า, การงดการชี้สองสถาน, และประเด็นฟ้องซ้ำในคดีแพ่ง
การพิจารณาคดีนั้นไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าจำต้องมีการชี้สองสถานก่อน
เมื่อศาลชั้นต้นสอบถามและฟังคำแถลงของคู่ความ ได้จดคำรับของคู่ความไว้แล้วและเห็นว่าประเด็นข้อพิพาทไม่จำเป็นที่จะต้องสืบพยานต่อไป คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาคดีไปได้
จำเลยเป็นผู้เช่าแผงขายของจากโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้จำเลยส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าคืน หรือขอให้ขับไล่จำเลยได้จำเลยมิได้โต้เถียงว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาทในอันที่จะให้เช่าจำเลยจะเถียงสิทธิโจทก์ว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นของผู้อื่นไม่ใช่ของโจทก์เจ้าของไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดี ย่อมเถียงไม่ขึ้น
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายมาเกินอัตราค่าเช่าที่จำเลยเช่าแต่โจทก์แถลงขอเรียกร้องเอาเท่ากับค่าเช่าที่จำเลยยอมรับว่าต้องเสียให้โจทก์แล้ว โจทก์ไม่ต้องสืบประเด็นข้อนี้
คดีก่อน พนักงานอัยการเคยฟ้องจำเลยทางอาญาเรื่องวางสิ่งของปิดทางเดินเข้าตลาด คดีนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหลังชี้สองสถาน กรณีข้อเท็จจริงเพิ่งทราบภายหลัง
เมื่อจำเลยทั้งสองยื่นคำให้การ ปรากฏตามคำให้การข้อ 2 ว่าไม่รับรองข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ โดยอ้างว่าบริษัทจำเลยที่ 1ได้จ่ายเงินให้นายย่งกิตต์ตัวแทนโดยปริยายของบริษัทโจทก์ไปหลายครั้ง แต่ไม่ทราบจำนวนเงินที่จะบรรยายให้การละเอียดมาในขณะนี้ได้ทันจะต้องใช้เวลาตรวจสอบทางธนาคารและหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งแสดงว่าจำเลยยังมีข้อต่อสู้อย่างอื่นอีกโดยจำเลยยังไม่อาจยื่นได้ก่อนวันชี้สองสถาน ครั้นเมื่อศาลชี้สองสถานแล้ว จำเลยจึงยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่าจากการตรวจสอบปรากฏว่าบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินให้บริษัทโจทก์ใน พ.ศ. 2503 โดยเช็ค 4 ฉบับเป็นเงิน 1,750,000บาท รายละเอียดตามคำร้อง และนายย่งกิตต์ได้รับเงินตามเช็คฉบับดังกล่าวไปจากธนาคารแล้ว จำนวนหนี้ตามฟ้องจึงเกินอยู่ 1,750,000 บาท ความตามที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยเพิ่งทราบภายหลังจากการชี้สองสถานแล้ว ฉะนั้นจำเลยจึงมีสิทธิขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหลังจากชี้สองสถานแล้วได้เพราะเป็นข้อที่จำเลยไม่อาจยื่นคำร้องนั้นได้ก่อนวันชี้สองสถาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหลังชี้สองสถาน หากเป็นข้อที่มิอาจทราบได้ก่อน
เมื่อจำเลยทั้งสองยื่นคำให้การ ปรากฏตามคำให้การข้อ 2 ว่าไม่รับรองข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ โดยอ้างว่าบริษัทจำเลยที่ 1ได้จ่ายเงินให้นายย่งกิตต์ตัวแทนโดยปริยายของบริษัทโจทก์ไปหลายครั้ง แต่ไม่ทราบจำนวนเงินที่จะบรรยายให้การละเอียดมาในขณะนี้ได้ทันจะต้องใช้เวลาตรวจสอบทางธนาคารและหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งแสดงว่าจำเลยยังมีข้อต่อสู้อย่างอื่นอีกโดยจำเลยยังไม่อาจยื่นได้ก่อนวันชี้สองสถาน ครั้นเมื่อศาลชี้สองสถานแล้วจำเลยจึงยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่าจากการตรวจสอบปรากฏว่าบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินให้บริษัทโจทก์ใน พ.ศ. 2503 โดยเช็ค 4 ฉบับเป็นเงิน 1,750,000บาท รายละเอียดตามคำร้อง และนายย่งกิตต์ได้รับเงินตามเช็คฉบับดังกล่าวไปจากธนาคารแล้ว จำนวนหนี้ตามฟ้องจึงเกินอยู่ 1,750,000 บาท ความตามที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยเพิ่งทราบภายหลังจากการชี้สองสถานแล้ว ฉะนั้นจำเลยจึงมีสิทธิขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหลังจากชี้สองสถานแล้วได้เพราะเป็นข้อที่จำเลยไม่อาจยื่นคำร้องนั้นได้ก่อนวันชี้สองสถาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แก้ไขคำฟ้องได้ก่อนพิพากษา แม้ไม่มีชี้สองสถานหรือสืบพยาน
ในคดีแพ่ง เมื่อไม่มีการชี้สองสถานหรือสืบพยาน แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งงดการดำเนินกระบวนพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษาแล้วแต่ตราบใดที่ศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา ย่อมถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่คู่ความอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องหรือคำให้การได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แก้ไขคำฟ้องก่อนมีคำพิพากษา: สิทธิของคู่ความแม้ไม่มีการชี้สองสถานหรือสืบพยาน
ในคดีแพ่ง เมื่อไม่มีการชี้สองสถานหรือสืบพยาน แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งงดการดำเนินกระบวนพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษาแล้ว แต่ตราบใดที่ศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา ย่อมถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่คู่ความอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องหรือคำให้การได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลในวันนัดชี้สองสถาน ไม่ถือเป็นการทิ้งฟ้อง หากศาลยังไม่ได้สั่งให้ชี้สองสถาน
ศาลกำหนดวันชี้สองสถานให้คู่ความทราบวันนัดแล้ว ครั้นถึงกำหนดวันนัด โจทก์ไม่มาศาล เช่นนี้ กรณียังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มาศาลในวันนัดชี้สองสถาน ไม่ถือเป็นเหตุทิ้งฟ้อง หากศาลยังสามารถดำเนินกระบวนการต่อไปได้
ศาลกำหนดวันชี้สองสถานให้คู่ความทราบวันนัดแล้ว ครั้นถึงกำหนดวันนัด โจทก์ไม่มาศาล เช่นนี้ กรณียังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
of 11