คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ช่วงเวลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 86 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดช่วงเวลากระทำผิดในคดีอาญา และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเวลา
ฟ้องว่าทำผิดระหว่างพระอาทิตย์ตกวันที่ 22 ถึงพระอาทิตย์ขึ้นวันที่ 23 ซึ่งตรงกับขึ้น 4 และ 5 ค่ำ+กัน พะยานโจทก์ว่าจำเลยทำผิดวันขึ้น 5 ค่ำ เวลาราว 3 นาฬิกา ดังนี้ จะถือว่าโจทก์ฟ้องผิดนั้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาช่วงเวลากลางคืนในการกระทำความผิดทางอาญา และความผิดฐานพยายามลักทรัพย์-หลบหนีจากที่คุมขัง
จำเลยลงมือเจาะประตูบ้าน+เป็นรูเพื่อจะถ้าไปลักทรัพย์แต่ถูกตำรวจจับได้เสียก่อน ต้องมีความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ จำเลยไปเจาะประตูบ้านเขาเพื่อจะลักทรัพย์ตำรวจจับตัวไว้ได้ แต่แล้วจำเลยกลับหลุดหนีไปได้ ต้องมีความผิดฐานหลบหนีจากที่การช่วยคุมอันชอบด้วยกฎหมายกลางคืนหมายความว่าเวลาระหว่างแต่พระอาทิตย์ตกไปจนพระอาทิตย์ขึ้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดวันเวลากลางคืนวันที่ 23 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำผิดเวลาราว 2 นาฬิกาในคืนวันนั้น ไม่เรียกว่าโจทก์ฟ้องผิดวัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1307-1308/2481

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญา การระบุช่วงเวลากระทำผิดไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
ฟ้องของโจทก์บรรยายว่าจำเลยทำผิดเวลากลางคืนระหว่างวันที่ 17 - 18 ต่อกัน ดังนี้ถือได้ว่าเปนฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้วไม่ทำให้เสียเปรียบในเชิงคดีอย่างไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษทางอาญา: พิจารณาช่วงเวลาพ้นโทษครั้งแรก เพื่อประกอบการตัดสินโทษ
แก้มาก ศาลเดิมตัดสินลงโทษจำเลยตามมาตรา 2583 กับให้เพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 อีกด้วย แต่ศาลอุทธรณ์ตัดสินแก้ให้ยกฉะเพาะข้อเพิ่มโทษจำเลยเสียดังนี้ เป็นการแก้ไขมากคู่ความมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะและการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาช่วงเวลาและเจตนาหลังถูกทำร้าย
บันดาลโทษะ กฎหมายยอมให้เพียงแค่ไหนถูกทำร้ายขาดตอนมาแล้วจึงมาทำร้ายเขาบ้างไม่เข้าเกณฑ์บันดาลโทษะคำรับสารภาพที่เปนประโยชน์แกคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อมูลการให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อปราบปรามยาเสพติด ต้องเกิดขึ้นก่อนมีคำพิพากษาจึงจะได้รับประโยชน์ตามกฎหมาย
การให้ข้อมูลสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 จะต้องเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา ข้อมูลที่จำเลยอ้างว่าให้ข้อมูลแก่เจ้าพนักงานตำรวจจนสามารถจับกุมคนร้ายซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดให้โทษได้เกิดขึ้นภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยจึงไม่อาจที่จะได้รับประโยชน์ตามบทบัญญัติดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15455/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ที่ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ หากเหตุและช่วงเวลาการกระทำละเมิดแตกต่างจากคดีก่อน
แม้ประเด็นในคดีนี้กับคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ต่อโจทก์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ เช่นเดียวกัน แต่มูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้กับในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางดังกล่าวอันเป็นการโต้แย้งสิทธิที่ก่อให้โจทก์มีอำนาจฟ้องนั้นแตกต่างกัน มิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ทั้งมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ในคดีนี้กับในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยังเป็นการกระทำคนละช่วงวันเวลากัน จึงเป็นการที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์คนละครั้งกัน ชอบที่โจทก์จะใช้สิทธิฟ้องเป็นคนละคดีได้ และแม้โจทก์จะฟ้องกล่าวอ้างเรียกให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และบริษัท บ. ใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ โดยอาศัยมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ด้วยการแต่งตั้งให้บุคคลอื่นเป็นตัวแทนจัดหาผู้รับอนุญาตผลิตสินค้าต่าง ๆ ออกจำหน่าย และทำสัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นจัดทำวิดีโอเทปออกจำหน่าย ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางด้วย ก็เป็นการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ กับบริษัท ร. บริษัท ซ. บริษัท ท. และบริษัท น. อันเป็นคู่สัญญาคนละรายกันกับบุคคลที่โจทก์กล่าวอ้างว่ามีการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ผลงานอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ รวมจำนวนเกือบ 30 ราย ในคดีนี้ ส่วนที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างมูลเหตุแห่งการทำละเมิดลิขสิทธิ์ในคดีนี้จากการอนุญาตให้บริษัท อ. ผลิตสมุดระบายสีโดยทำซ้ำหรือดัดแปลงคาแรกเตอร์อุลตร้าแมนต่าง ๆ นั้น ก็ไม่ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวเป็นนิติบุคคลเดียวกันกับบริษัท บ. ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ทั้งยังปรากฏตามสัญญาการให้ใบอนุญาตในคดีนี้ว่าโจทก์กล่าวอ้างมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้เป็น "สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ทำขึ้นวันที่ 13 กันยายน 2543 อนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์งานศิลปประยุกต์ "ผลงานหนุมาน VS เจ็ดยอดมนุษย์" ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2543 ถึงวันที่ 12 กันยายน 2549 และบันทึกต่อท้ายสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ดังกล่าวว่าเป็นการชำระเงินค่าตอบแทนการขยายระยะเวลาตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์ดังกล่าวออกไปอีก 5 ปี กับสัญญาการให้ใบอนุญาตอันเป็นการอนุญาตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์งานภาพยนตร์เรื่องยักษ์วัดแจ้งพบจัมโบ้เอ และเรื่องยอดมนุษย์จัมโบ้เอ อันเป็นมูลเหตุแห่งการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์คนละครั้งกันกับที่โจทก์กล่าวอ้างดำเนินคดีในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จึงยังถือไม่ได้ว่าศาลในคดีก่อนได้วินิจฉัยการกระทำอันเป็นมูลเหตุแห่งการละเมิดลิขสิทธิ์ที่โจทก์กล่าวอ้างในคดีนี้แล้ว นอกจากนี้แม้ในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายนับแต่วันฟ้องคดีก่อนเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสี่ในคดีก่อนซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้ จะหยุดการกระทำอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์นั้น แต่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีดังกล่าวว่า ศาลวินิจฉัยและกำหนดค่าเสียหายจากการกระทำอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ซึ่งเป็นการกระทำเป็นครั้งคราวก่อนโจทก์ยื่นฟ้องคดีดังกล่าวเท่านั้น หากภายหลังวันฟ้องคดีก่อนจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 1 ในคดีนี้กระทำการใดอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์อีก ชอบที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวเอาแก่จำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวหรือจำเลยที่ 1 ในคดีนี้สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ภายหลังวันฟ้องนั้น กรณีไม่อาจกำหนดค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องในคดีก่อนให้แก่โจทก์ได้ และการที่โจทก์มีคำขอท้ายคำฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้หยุดกระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์โดยห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้อ้างตนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือเป็นผู้มีสิทธิแต่ผู้เดียวในอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ทั้งปวง และห้ามมิให้จำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวซึ่งรวมถึงจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ในคดีนี้ทำสัญญามอบสิทธิหรือลิขสิทธิ์ในอุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ทั้งปวงเหล่านี้ให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งหมายถึงการละเว้นการกระทำดังกล่าวหลังจากวันที่โจทก์ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเป็นต้นไปนั้น แต่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยในคดีดังกล่าวว่า คำขอบังคับของโจทก์ดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำในอนาคตซึ่งยังมิได้มีการโต้แย้งสิทธิของโจทก์อยู่ในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางซึ่งหมายถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2540 โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสี่ในคดีดังกล่าวได้ จึงถือไม่ได้ว่าศาลในคดีก่อนได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ในคดีนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นจำเลยที่ 4 ถึงที่ 6 ในคดีนี้มิได้เป็นคู่ความในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางด้วย การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งหกรายว่ากระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือยอดมนุษย์ต่าง ๆ ของโจทก์เป็นคดีนี้จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำกับคำฟ้องส่วนแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ อ.36/2540 หมายเลขแดงที่ อ.459/2543 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14334/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในความผิดฐานรับของโจร: การพิจารณาช่วงเวลากระทำความผิดและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง
ทรัพย์สินในความผิดฐานรับของโจรคดีนี้มิใช่ทรัพย์สินในความผิดฐานรับของโจรในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๔๗๑ - ๔๗๒/๒๕๕๗ และ ๒๓๑๐/๒๕๕๗ ของศาลชั้นต้นซึ่งจำเลยที่ ๒ ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 ในทั้งสามคดีดังกล่าว และช่วงเวลากระทำความผิดที่โจทก์ฟ้องคดีนี้กับคดีทั้งสามก็เป็นคนละช่วงเวลากัน กรณีไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยที่ ๒ รับของโจรคดีนี้ในคราวเดียวกับการรับของโจรในคดีทั้งสาม ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีทั้งสาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10780/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณเงินเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มหลังชำระหนี้บางส่วน: ต้องคำนวณแยกแต่ละช่วงเวลาที่ชำระ
ภายหลังห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ. โดยลูกหนี้ที่ 1 ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มของเดือนภาษีกันยายน 2540 และได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มบางส่วน คงเหลือภาษีค้าง 26,000 บาท การคำนวณเงินเพิ่มตาม ป.รัษฎากร มาตรา 89/1 ประกอบมาตรา 27 นั้นให้เริ่มนับเมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีหรือยื่นแบบนำส่งภาษีจนถึงวันชำระภาษีหรือนำส่งภาษี แต่เงินเพิ่มที่คำนวณได้มิให้เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระหรือนำส่ง ดังนั้น เมื่อต่อมา ห้างฯ ชำระหนี้ภาษีแก่เจ้าหนี้และหักกลบลบหนี้ รวม 4 ครั้ง เงินที่ชำระแต่ละครั้งต้องนำไปหักกับภาษีมูลค่าเพิ่มค้าง ส่วนการคำนวณเงินเพิ่ม ต้องคิดจากยอดหนี้ภาษีค้างแต่ละช่วงที่เหลืออยู่ภายหลังหักชำระหนี้แต่ละครั้งแล้ว มิใช่นำเงินทั้งสี่จำนวนมารวมกันแล้วนำไปหักออกจากยอดภาษีค้างแล้วจึงคิดเงินเพิ่มเพียงครั้งเดียว ดังเช่นที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเพราะเป็นการชำระหนี้คนละคราวต่างช่วงเวลากัน และลูกหนี้ที่ 1 ต้องรับผิดในส่วนของเงินเพิ่มไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระหรือนำส่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5199/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรมต่างกัน: ทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนยิง แม้ช่วงเวลาใกล้เคียง แต่เจตนาแยกต่างหาก
จำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายที่ 1 และทำร้ายผู้เสียหายที่ 2 กับใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายที่ 2 ด้วย แม้เป็นการทำร้ายผู้เสียหายทั้งสองในช่วงเวลาใกล้ชิดกัน แต่ขณะคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายที่ 2 นั้น ผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งถูกทำร้ายแล้วและกำลังวิ่งหนี จึงแยกเจตนาออกจากกันได้ จึงเป็นความผิดสองกรรม
of 9