พบผลลัพธ์ทั้งหมด 82 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่เมื่อทนายจำเลยไม่สามารถมาศาลได้ และการคัดค้านคำพิพากษาที่ชัดแจ้ง
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า การที่ศาลพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีนั้นยังไม่ถูกต้อง. ถ้าหากจำเลยได้นำพยานมาสืบแล้วจำเลยจะชนะคดีโจทก์ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ากว่า 2 ครั้งติดๆ กัน. ถือว่าได้กล่าวในคำขอโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทนายจำเลยในการยื่นคำให้การ และการพิจารณาค่าทนายในชั้นอุทธรณ์
ทนายจำเลยมอบหมายให้ผู้ใดมายื่นคำให้การก็ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของผู้นั้น เสมือนหนึ่งว่าทนายจำเลยมายื่นคำให้การด้วยตนเอง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรค 2 มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้ว ศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรค 2 มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้ว ศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทนายจำเลยในการยื่นคำให้การล่าช้า และการปฏิบัติหน้าที่ทนายโจทก์ในชั้นอุทธรณ์
ทนายจำเลยมอบหมายให้ผู้ใดมายื่นคำให้การก็ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของผู้นั้น เสมือนหนึ่งว่าทนายจำเลยมายื่นคำให้การด้วยตนเอง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้ว ศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้ โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้ว ศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้ โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความมาศาลไม่ได้ตาม มาตรา 209: การขาดนัดของทนายจำเลยและผลกระทบต่อการพิจารณาคดีใหม่
ข้อวินิจฉัยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209อยู่ที่มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดพิจารณานั้น มาศาลไม่ได้หรือไม่ เท่านั้น
ในวันนัดสืบพยานจำเลยการที่ทนายจำเลยทราบวันและเวลานัดพิจารณาแล้วมิได้มาศาลตามนัด แม้ศาลให้โอกาศรออยู่อีก 1 ชั่วโมงกับ 40 นาที ก็ยังไม่มาศาลเช่นนี้ทนายจำเลยจะอ้างว่าตัวความหรือพยานยังไม่มาพบกับตนจึงยังไม่มาศาลเช่นนี้ เป็นข้ออ้างที่ไม่สมควรอย่างยิ่งและถ้ายอมให้อ้างกันได้เช่นนี้ ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้มีการประวิงคดีได้โดยง่าย เมื่อเป็นเรื่องที่ทนายจำเลยจะมาให้ทันนัดของศาลก็มาได้หากเห็นไม่สำคัญจึงไม่มาเช่นนี้ ไม่ถือว่า 'มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้' ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209กรณีเช่นนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่
ในวันนัดสืบพยานจำเลยการที่ทนายจำเลยทราบวันและเวลานัดพิจารณาแล้วมิได้มาศาลตามนัด แม้ศาลให้โอกาศรออยู่อีก 1 ชั่วโมงกับ 40 นาที ก็ยังไม่มาศาลเช่นนี้ทนายจำเลยจะอ้างว่าตัวความหรือพยานยังไม่มาพบกับตนจึงยังไม่มาศาลเช่นนี้ เป็นข้ออ้างที่ไม่สมควรอย่างยิ่งและถ้ายอมให้อ้างกันได้เช่นนี้ ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้มีการประวิงคดีได้โดยง่าย เมื่อเป็นเรื่องที่ทนายจำเลยจะมาให้ทันนัดของศาลก็มาได้หากเห็นไม่สำคัญจึงไม่มาเช่นนี้ ไม่ถือว่า 'มีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้' ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209กรณีเช่นนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการสืบพยานเนื่องจากทนายจำเลยลาออกและจำเลยตั้งทนายใหม่ ศาลพิจารณาถึงความซับซ้อนของคดีและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ทนายจำเลยขอถอนตัวจากการเป็นทนายก่อนวัดนัดสืบพยานจำเลยเพียง 6 วันและจำเลยตั้งทนายใหม่ก่อนวันสืบพยานเพียง 2 คน และจำเลยยื่นคำร้อง ขอเลื่อนการพิจารณา เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่า จำเลยจงใจแกล้งประวิงคดีให้ล่าช้า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลสมควรอนุญาตให้จำเลยเลื่อนการสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการพิจารณาคดีเนื่องจากทนายจำเลยลาออกและจำเลยต้องตั้งทนายใหม่ ศาลต้องคำนึงถึงความยุติธรรมและสิทธิในการป้องกันตัวของจำเลย
ทนายจำเลยขอถอนตัวจากการเป็นทนายก่อนวันนัดสืบพยานจำเลยเพียง 6 วัน และจำเลยตั้งทนายใหม่ก่อนวันสืบพยานเพียง2 วัน และจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณา เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่า จำเลยจงใจแกล้งประวิงคดีให้ล่าช้า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลสมควรอนุญาตให้จำเลยเลื่อนการสืบพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณาจากความผิดทนายจำเลย ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวน และไม่อนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติม
ศาลพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว นัดเลื่อนไปสืบพยานจำเลย ถึงกำหนดนัดจำเลย ทนายและพยานไม่มาศาล รุ่งขึ้นจำเลยมายื่นคำร้องว่า เป็นเพราะทนายจำเลยพลั้งเผลอ จดวันนัดผิดไปดังนี้ ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนว่า เป็นความจริงตามคำร้องหรือไม่ เพราะแม้เป็นความจริงตามคำร้องก็ยังเป็นความผิดของฝ่ายจำเลยเอง ศาลจึงย่อม มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้ทีเดียว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาและการนำสืบพยาน: ทนายจำเลยมาศาลแต่ไม่นำพยาน ถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัด
ไนวันนัดพิจารนาซึ่งสาลกำหนดไห้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน จำเลยไม่มาสาลคงมีแต่ทนายจำเลยสาลตามกำหนดนัด +มีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารนา และจะถือว่าจำเลยละเลยไม่นำพยานมาสืบไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณา - หน้าที่นำสืบพยาน - ทนายจำเลยมาศาล
ในวันนัดพิจารณาซึ่งศาลกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนจำเลยไม่มาศาลคงมีแต่ทนายจำเลยมาศาลตามกำหนดนัด กรณีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา และจะถือว่าจำเลยละเลยไม่นำพยานมาสืบไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13146/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์คดีแรงงาน: พิจารณาความรับผิดของทนายจำเลยและเหตุผลทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงาน
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 26 บัญญัติเรื่องการขยายระยะเวลาไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำ ป.วิ.พ. มาตรา 23 มาอนุโลมใช้ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 ได้ ซึ่งมาตรา 26 บัญญัติว่า ระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่ศาลแรงงานได้กำหนด ศาลแรงงานมีอำนาจย่นหรือขยายได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม หาได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าคู่ความต้องยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานก่อนสิ้นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้และจะต้องมีพฤติการณ์พิเศษหรือจะต้องมีเหตุสุดวิสัยอันไม่อาจก้าวล่วงได้เช่นที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ ที่ศาลแรงงานภาค 8 มีคำสั่งว่า พฤติการณ์ตามคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์มิใช่พฤติการณ์พิเศษ จำเลยไม่ได้ยื่นก่อนสิ้นระยะเวลาอุทธรณ์และไม่ปรากฏเหตุสุดวิสัย จึงไม่ถูกต้อง แต่เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ศาลฎีกาเห็นสมควรสั่งคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลย ฉบับลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 เสียเองโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานภาค 8 มีคำสั่งใหม่ เมื่อเหตุในการขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยอ้างว่าเสมียนทนายจำเลยบกพร่อง ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ต่อศาลแรงงานภาค 8 ซึ่งเหตุดังกล่าวทนายจำเลยสามารถตรวจสอบและแก้ไขด้วยการยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดได้ แต่หาทำไม่ แสดงให้เห็นว่าทนายจำเลยไม่เอาใจใส่ในคดี ถือเป็นความบกพร่องของทนายจำเลยเอง กรณีจึงไม่มีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะต้องขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้จำเลยตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 26