พบผลลัพธ์ทั้งหมด 164 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ จำเลยรับสารภาพ
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกันโดยแยกเป็น 2 ข้อ คือ ฐานบุกรุกและฐานทำให้เสียทรัพย์ ทั้งจำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้อง ซึ่งถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำผิดทั้ง 2 ฐาน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดการกระทำที่ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย หากฟ้องไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้อง
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวของโจทก์ แล้วจำเลยทำให้ทรัพย์สิ่งของของโจทก์ที่อยู่ในตึกแถวเสียหาย โดยมิได้บรรยายชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำการใดแก่ทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ของโจทก์ให้เสียหาย ลำพังจำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวดังกล่าวย่อมไม่ทำให้เห็นได้ว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ทำลายหรือทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์แก่ทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ของโจทก์ ความเสียหายของแบตเตอรี่และอาคารบูดเน่านั้นเป็นไปตามสภาพของทรัพย์นั้นเอง หาใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยไม่ ดังนี้ ถือได้ว่าฟ้องโจทก์ไม่ระบุถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องระบุการกระทำที่ทำให้ทรัพย์เสียหายชัดเจน มิใช่แค่การบุกรุกและปิดกั้นสถานที่
ฟ้องบรรยายว่า.จำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวของโจทก์แล้วจำเลยทำให้ทรัพย์สิ่งของของโจทก์ที่อยู่ในตึกแถวเสียหาย โดยมิได้บรรยายชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำการใดแก่ทรัพย์สิ่งของต่างๆ ของโจทก์ให้เสียหาย ลำพังจำเลยเข้าไปและปิดกั้นตึกแถวดังกล่าว ย่อมไม่ทำให้เห็นได้ว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหาย ทำลายหรือทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์แก่ทรัพย์สิ่งของต่างๆของโจทก์ ความเสียหายของแบตเตอรี่และอาหารบูดเน่านั้นเป็นไปตามสภาพของทรัพย์นั้นเอง หาใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยไม่ ดังนี้ ถือได้ว่า ฟ้องโจทก์ไม่ระบุถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลย กระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2231/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำให้เสียทรัพย์จากความพิพาทที่ดิน การกระทำโดยพลการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ร่วมกับจำเลยพิพาทกันในเรื่องที่ดิน โดยภริยาโจทก์ร่วมฟ้องคดีแพ่งขับไล่จำเลย คดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล การที่จำเลยถอนต้นกล้วยและมันเทศ ซึ่งจำเลยก็ทราบว่าโจทก์ร่วมได้ปลูกไว้ในที่พิพาททิ้งไป ย่อมเห็นได้ว่าทำให้ต้นกล้วย และมันเทศที่ปลูกไว้นั้นเสียหาย จำเลยกระทำโดยพลการ มิได้ใช้สิทธิให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2231/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำให้เสียทรัพย์จากความขัดแย้งเรื่องที่ดิน จำเลยถอนพืชผลที่โจทก์ปลูกโดยไม่มีสิทธิ
โจทก์ร่วมกับจำเลยพิพาทกันในเรื่องที่ดิน โดยภริยาโจทก์ร่วมฟ้องคดีแพ่งขับไล่จำเลย คดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล การที่จำเลยถอนต้นกล้วยและมันเทศซึ่งจำเลยก็ทราบว่าโจทก์ร่วมได้ปลูกไว้ในที่พิพาททิ้งไปย่อมเห็นได้ว่าทำให้ต้นกล้วยและมันเทศที่ปลูกไว้นั้นเสียหาย จำเลยกระทำโดยพลการ มิได้ใช้สิทธิให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารยทรัพย์: เจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิฟ้องคดีอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์
เจ้าของสามยทรัพย์ ไม่ใช่เจ้าของรวมในภารยทรัพย์ จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องในคดีอาญา ขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์แก่ผู้ที่ทำลายหรือทำให้ภารยทรัพย์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์ต่อภารยทรัพย์ที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของร่วม
เจ้าของสามยทรัพย์ ไม่ใช่เจ้าของรวมในภารยทรัพย์ จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องในคดีอาญาขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์แก่ผู้ที่ทำลายหรือทำให้ภารยทรัพย์เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1649/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาด้วยวาจาและการพิพากษาคดีทำให้เสียทรัพย์ที่เกี่ยวกับทรัพย์สาธารณะ
โจทก์ฟ้องด้วยวาจาขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 360 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชอบที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 358 ได้ ส่วนกรณีตามมาตรา 360 ไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 7 ฟ้องโจทก์ในส่วนนี้จึงเป็นคำฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ชอบที่ศาลจะพิพากษายกฟ้องในส่วนนี้เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำลายทรัพย์สินเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แม้ตัดต้นไม้แต่หากมีเหตุผลสมควรและไม่มีเจตนาทำลายทรัพย์สินก็ไม่เป็นความผิด
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 นั้น ผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจึงจะเป็นผิด จำเลยตัดต้นไผ่ของผู้เสียหายส่วนที่งอกรุกล้ำเข้าไปในทางสาธารณะออก เพื่อให้โค กระบือเดินผ่าน จำเลยมิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 705/2507 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำให้เสียทรัพย์สำคัญกว่าการกระทำ หากไม่มีเจตนาทำให้เสียหาย ไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358นั้นผู้กระทำจะต้องมีเจตนากระทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจึงจะเป็นผิด จำเลยตัดต้นไผ่ของผู้เสียหายส่วนที่งอกรุกล้ำเข้าไปในทางสาธารณะออก เพื่อให้โค กระบือเดินผ่าน จำเลยมิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 705/2507 ประชุมใหญ่)