พบผลลัพธ์ทั้งหมด 100 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทายาทบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง รวมถึงทารกในครรภ์ขณะบิดาเสียชีวิต
บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองตาม มาตรา1627 นั้นย่อมหมายตลอดถึงทารกซึ่งยังอยู่ในครรภ์มารดาในขณะที่บิดาตายมีสิทธิเป็นทายาทได้ ถ้าหากภายหลังได้เกิดและรอดอยู่ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: การเลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นหลักฐานการรับรองตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ครอบครัว ซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตาม ป.พ.พ. มาตรา 1527 และพ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 มาตรา 19 (ฎีกาที่ 1503/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: พฤติการณ์เลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นบุตรเพียงพอตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้ แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1527 และพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 มาตรา 19
(ฎีกาที่ 1503/2497)
(ฎีกาที่ 1503/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายและการบังคับใช้สัญญาประนีประนอม แม้ขาดอายุความมรดก
ประนีประนอม,การรับรองบุตรมฤดก,อายุความ
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่า เป็นบุตรและใช้นามสกุลของบิดา และบิดาได้อุปการะบุตรมาอันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไป ดังนี้ได้ชื่อว่าบิดาได้รับรองแล้ว และถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานของบิดาและมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้
แม้คดีจะขาดอายุความมฤดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มฤดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่า เป็นบุตรและใช้นามสกุลของบิดา และบิดาได้อุปการะบุตรมาอันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไป ดังนี้ได้ชื่อว่าบิดาได้รับรองแล้ว และถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานของบิดาและมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้
แม้คดีจะขาดอายุความมฤดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มฤดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายและสิทธิมรดก สัญญาประนีประนอมมีผลผูกพัน
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่าเป็นบุตรและใช้นามสกุลของบิดา และบิดาได้อุปการะบุตรมาอันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไปดังนี้ได้ชื่อว่าบิดาได้รับรองแล้ว และถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานของบิดาและมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้
แม้คดีจะขาดอายุความมรดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มรดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้
แม้คดีจะขาดอายุความมรดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มรดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายมีสิทธิในมรดก หากบิดาเลี้ยงดูและจดทะเบียนรับรอง
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้เลี้ยงดูในฐานะบิดากับบุตรโดยลงทะเบียนสำมะโนครัวว่าเป็นบุตรของตนและใช้นามสกุลของตน ดังนี้พอฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนอกกฎหมายนั้นเป็นบุตรของตนตาม ป.พ.พ.มาตรา 1627 บุตรนั้นย่อมมีสิทธิได้รับมรดกของบิดาตามมาตรา 1629 ( 1 )
ศาลจดรายงานพิจารณาตามคำแถลงของจำเลยในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรเพื่อขอรับส่วนแบ่งมรดกด้วย โจทก์แถลงไม่คัดค้านแล้ว ดังนี้โจทก์จักกลับมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าคำแถลงของจำเลยมิใช่เป็นคำร้องสอดตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 57 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลจดรายงานพิจารณาตามคำแถลงของจำเลยในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรเพื่อขอรับส่วนแบ่งมรดกด้วย โจทก์แถลงไม่คัดค้านแล้ว ดังนี้โจทก์จักกลับมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าคำแถลงของจำเลยมิใช่เป็นคำร้องสอดตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 57 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายมีสิทธิได้รับมรดก หากมีการเลี้ยงดูและจดทะเบียนรับรอง
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้เลี้ยงดูในฐานะบิดากับบุตรโดยลงทะเบียนสำมะโนครัวว่าเป็นบุตรของตนและใช้นามสกุลของตนดังนี้พอฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนอกกฎหมายนั้นเป็นบุตรของตนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 บุตรนั้นย่อมมีสิทธิได้รับมรดกของบิดาตามมาตรา 1629(1)
ศาลจดรายงานพิจารณาตามคำแถลงของจำเลยในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรเพื่อขอรับส่วนแบ่งมรดกด้วยโจทก์แถลงไม่คัดค้านแล้ว ดังนี้โจทก์จักกลับมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าคำแถลงของจำเลยมิใช่เป็นคำร้องสอดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ศาลจดรายงานพิจารณาตามคำแถลงของจำเลยในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรเพื่อขอรับส่วนแบ่งมรดกด้วยโจทก์แถลงไม่คัดค้านแล้ว ดังนี้โจทก์จักกลับมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่าคำแถลงของจำเลยมิใช่เป็นคำร้องสอดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1503/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายและการสืบพยานในคดีมรดก ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์และคำรับของคู่ความ
เมื่อโจทก์สืบพยานไปบ้างแล้วโจทก์จำเลยต่างแถลงรับเอกสารและข้อเท็จจริงบางอย่างแล้วต่างแถลงไม่สืบพยานต่อไปโดยไม่ปรากฎว่ามีคำท้ากันอย่างใด ดังนี้ต้องพิเคราะห์คดีไปตามพฤติการณ์เท่าที่โจทก์สืบมาแล้วประกอบกับคำร้องทั้ง 2 ฝ่ายประกอบกัน
บุตรนอกกฎหมายเกิดแต่บิดาซึ่งแต่งงานกับมารดาโดยเปิดเผยแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินด้วยกันจนตายจากกันไป สูติบัตรก็ปรากฎว่าเป็นสูติบัตรของเด็กซึ่งบิดาไปแจ้งไว้ พฤติการณ์เช่นนี้ฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนั้นตาม ป.พ.พ.ม.1627 แล้ว
บุตรนอกกฎหมายเกิดแต่บิดาซึ่งแต่งงานกับมารดาโดยเปิดเผยแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินด้วยกันจนตายจากกันไป สูติบัตรก็ปรากฎว่าเป็นสูติบัตรของเด็กซึ่งบิดาไปแจ้งไว้ พฤติการณ์เช่นนี้ฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนั้นตาม ป.พ.พ.ม.1627 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1503/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมายและการสืบสิทธิในกองมรดก
เมื่อโจทก์สืบพยานไปบ้างแล้วโจทก์จำเลยต่างแถลงรับเอกสารและข้อเท็จจริงบางอย่างแล้วต่างแถลงไม่สืบพยานต่อไปโดยไม่ปรากฏว่ามีคำท้ากันอย่างใด ดังนี้ต้องพิเคราะห์คดีไปตามพฤติการณ์เท่าที่โจทก์สืบมาแล้วประกอบกับคำรับทั้ง 2 ฝ่ายประกอบกัน
บุตรนอกกฎหมายเกิดแต่บิดาซึ่งแต่งงานกับมารดาโดยเปิดเผยแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินด้วยกันจนตายจากกันไปสูติบัตรก็ปรากฏว่าเป็นสูติบัตรของเด็กซึ่งบิดาไปแจ้งไว้ พฤติการณ์เช่นนี้ฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนั้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 แล้ว
บุตรนอกกฎหมายเกิดแต่บิดาซึ่งแต่งงานกับมารดาโดยเปิดเผยแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินด้วยกันจนตายจากกันไปสูติบัตรก็ปรากฏว่าเป็นสูติบัตรของเด็กซึ่งบิดาไปแจ้งไว้ พฤติการณ์เช่นนี้ฟังได้ว่าบิดาได้รับรองบุตรนั้นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับมรดก: สิทธิการรับมรดกของบุตรนอกกฎหมายและข้อจำกัดในการเปลี่ยนแปลงคำให้การ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนพิพาท ซึ่งเป็นของผู้ตายตกเป็นมรดกแก่โจทก์ ผู้เป็นป้า.
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลย แต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้ จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลย ดังนี้ วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง.
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่ม เติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตาย,ตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การ เดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้./
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลย แต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้ จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลย ดังนี้ วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง.
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่ม เติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตาย,ตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การ เดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้./