คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประทานบัตร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ ไม่ขาดอายุความ แม้จำเลยเข้าครอบครองเกิน 1 ปี ประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน
เมื่อที่พิพาทเป็นที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 แล้วแม้โจทก์ฟ้องคดีภายหลังที่จำเลยเข้าครอบครองเก็บผลประโยชน์เกิน 1 ปีแล้วก็ตาม ฟ้องโจทก์หาขาดอายุความไม่
พระราชบัญญัติเหมืองแร่ พ.ศ. 2461 มาตรา 51 ให้ผู้ถือประทานบัตรมีอำนาจทำเหมืองแร่ คือ ขุด ล้าง และจำหน่ายแร่ตามที่อนุญาต ไว้ในประทานบัตรนั้นเท่านั้นประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่ได้ให้อำนาจ แก่ผู้ถือประทานบัตรหวงห้ามหรือถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่แผ่นดิน ในเหมืองแร่นั้นเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจทำเหมืองแร่ตามประทานบัตร การผิดสัญญา และการคำนวณค่าเสียหาย
ในอนุญาตร่อนแร่นั้น กฎหมายห้ามมิให้ผู้ถือเอาให้ผู้อื่นนำไปใช้ อาชญาบัตรตรวจแร่ผู้ถือให้ผู้อื่นใช้ก็ได้ โดยจำกัดให้คุ้มถึงเฉพาะลูกจ้างของผู้ถืออาชญาบัตร แต่ประทานบัตรนั้นหาได้มีข้อจำกัดดังใบอนุญาตร่อนแร่หรืออาชญาบัตรตรวจแร่ไม่
การที่จำเลยผู้ถือประทานบัตรมอบอำนาจให้โจทก์ทำเหมืองแร่ตามประทานบัตร มิได้โอนประทานบัตรให้โจทก์ แม้โจทก์จะเป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลย จำเลยก็ยังคงเป็นผู้ถือประทานบัตร หากจะมีความรับผิดเกิดขึ้นตามประทานบัตรอย่างใด จำเลยก็ยังคงรับผิดอยู่อย่างนั้น การมอบอำนาจและชักเอาประโยชน์ในกรณีเช่นนี้ หาทำให้มีผลให้ผู้ใดต้องขายผลิตผลของตนแก่ผู้รับมอบอำนาจถูกลงไม่ และก็ไม่มีผลทำให้ผู้ใดต้องซื้อแร่จากผู้รับมอบอำนาจแพงขึ้นกว่าราคาตลาดแต่ประการใด สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมิได้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 - 8/2509)
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 827 ตัวการจะถอนตัวแทนเสียเวลาใดก็ได้ทุกเมื่อ เหตุนี้ แม้การถอนอำนาจจะเป็นการผิดสัญญา โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจก็ไม่มีสิทธิจะบังคับให้จำเลยมอบอำนาจให้ตนได้ทำเหมืองแร่ต่อไปจนครบกำหนดเวลาตามสัญญา เป็นกรณีที่โจทก์ย่อมต้องรับรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว ดังนี้ ศาลย่อมคำนวณค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่งโดยกะประมาณจากรายได้ของโจทก์ชั่วระยะเวลาที่โจทก์ควรจะระงับความเสียหายของโจทก์ที่จะมีต่อไป เพราะไม่สามารถทำเหมืองแร่ของจำเลยได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าเสียหายเพราะจำเลยผิดสัญญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ให้โจทก์ฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล จำเลยเป็นนิติบุคคล แม้จะจดทะเบียนในต่างประเทศ แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 วรรค 2 ถิ่นที่นิติบุคคลมีสาขาสำนักงานจะจัดเป็นภูมิลำเนาในส่วนกิจการอันทำ ณ ที่นั้นก็ได้ เมื่อจำเลยมีสำนักงานสาขาอยู่ในเขตอำนาจศาลชั้นต้นที่โจทก์ฟ้องคดีนั้น โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำเหมืองแร่ตามประทานบัตร การมอบอำนาจ และความรับผิดของผู้ถือประทานบัตร รวมถึงการคำนวณค่าเสียหาย
ใบอนุญาตร่อนแร่นั้น กฎหมายห้ามมิให้ผู้ถือเอาให้ผู้อื่นนำไปใช้ อาชญาบัตรตรวจแร่ผู้ถือให้ผู้อื่นใช้ก็ได้ โดยจำกัดให้คุ้มถึงเฉพาะลูกจ้างของผู้ถืออาชญาบัตร แต่ประทานบัตรนั้นหาได้มีข้อจำกัดดังใบอนุญาตร่อนแร่หรืออาชญาบัตรตรวจแร่ไม่
การที่จำเลยผู้ถือประทานบัตรมอบอำนาจให้โจทก์ทำเหมืองแร่ตามประทานบัตร มิได้โอนประทานบัตรให้โจทก์ แม้โจทก์จะเป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลย จำเลยก็ยังคงเป็นผู้ถือประทานบัตร หากจะมีความรับผิดเกิดขึ้นตามประทานบัตรอย่างใด จำเลยก็ยังคงรับผิดอยู่อย่างนั้น การมอบอำนาจและชักเอาประโยชน์ในกรณีเช่นนี้ หาทำให้มีผลให้ผู้ใดต้องขายผลิตผลของตนแก่ผู้รับมอบอำนาจถูกลงไม่ และก็ไม่มีผลทำให้ผู้ใดต้องซื้อแร่จากผู้รับมอบอำนาจแพงขึ้นกว่าราคาตลาดแต่ประการใด สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมิได้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7-8/2509)
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 827 ตัวการจะถอนตัวแทนเสียเวลาใดก็ได้ทุกเมื่อ เหตุนี้ แม้การถอนอำนาจจะเป็นการผิดสัญญา โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจก็ไม่มีสิทธิจะบังคับให้จำเลยมอบอำนาจให้ตนได้ทำเหมืองแร่ต่อไปจนครบกำหนดเวลาตามสัญญา เป็นกรณีที่โจทก์ย่อมต้องรับรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว ดังนี้ ศาลย่อมคำนวณค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่งโดยกะประมาณจากรายได้ของโจทก์ชั่วระยะเวลาที่โจทก์ควรจะระงับความเสียหายของโจทก์ที่จะมีต่อไป เพราะไม่สามารถทำเหมืองแร่ของจำเลยได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าเสียหายเพราะจำเลยผิดสัญญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ให้โจทก์ฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลจำเลยเป็นนิติบุคคล แม้จะจดทะเบียนในต่างประเทศ แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 วรรคสอง ถิ่นที่นิติบุคคลมีสาขาสำนักงานจะจัดเป็นภูมิลำเนาในส่วนกิจการอันทำ ณที่นั้นก็ได้ เมื่อจำเลยมีสำนักงานสาขาอยู่ในเขตอำนาจศาลชั้นต้นที่โจทก์ฟ้องคดีนั้น โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลูกผักบุ้งในพื้นที่ประทานบัตรประมง การละเมิดสิทธิ และค่าเสียหาย
จำเลยปลูกผักบุ้งไว้ในลำคลองสาธารณะตรงหน้าที่ดินและบ้านเรือนของจำเลยก่อนโจทก์ได้รับประทานบัตรให้เป็นผู้มีสิทธิทำการประมงในลำคลองนั้น โจทก์ขัดข้องในการทำการประมงเพราะแพผักบุ้งของจำเลย ทางการจึงอนุญาตให้จำเลยเทียบแพผักบุ้งได้เฉพาะพื้นที่ตามเขตหน้าบ้าน แต่แพผักบุ้งของจำเลยยาวเกินกว่าเขตหน้าบ้าน เช่นนี้ ส่วนที่เกินเลยออกไปทางการชี้แจงห้ามปรามแล้ว เมื่อจำเลยไม่ฟังและโจทก์ได้รับความเสียหายเพราะการกระทำของจำเลย ย่อมเป็นการละเมิด ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำเหมืองแร่และการโอนประทานบัตรตามกฎหมายเหมืองแร่ สัญญาผูกพันระหว่างเจ้าของที่ดินและผู้รับประทานบัตร
บ.ผู้ถือประทานบัตรทำเหมืองแร่ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินของบ. ได้โอนตกมาเป็นของบริษัทโจทก์ รวมทั้งประทานบัตรรายนี้ด้วย การที่คณะรัฐมนตรีต้องเป็นผู้อนุมัติให้บริษัทโจทก์ถือประทานบัตรสืบเนื่องจาก บ. ก็เพราะ พ.ร.บ. การทำเหมืองแร่ พ.ศ. 2461 มาตรา 46 บัญญัติให้เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะอนุญาตในกรณีเข้าถือประทานบัตรสืบเนื่องจากเจ้าของเดิมผู้ถึงแก่กรรม ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ยื่นเรื่องราวขอประทานบัตรขึ้นมาใหม่เป็นคนละรายต่างหาก บ.โจทก์จึงรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่
ผ. ทำสัญญาให้ไว้แก่ บ. ยอมให้ บ. ทำเหมืองแร่ในที่ดินของ ผ. ได้ตามเรื่องราวที่ขอประทานบัตร ต่อมา บ. ถึงแก่กรรมและบริษัทโจทก์ถือประทานบัตรนี้สืบเนื่องจาก บ. ตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวแล้ว ฝ่ายผ. ก็ถึงแก่กรรมและที่ดินของ ผ. ก็เป็นมรดกตกทอดแก่จำเลย โจทก์จำเลยย่อมรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของเดิม เมื่อจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้บริษัทโจทก์เข้าทำเหมืองแร่ในที่ดินนี้ โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องร้องบังคับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่ตามกฎหมาย และผลผูกพันตามสัญญาต่อทายาท
บ.ผู้ถือประทานบัตรทำเหมืองแร่ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินของบ. ได้โอนตกมาเป็นของบริษัทโจทก์รวมทั้งประทานบัตรรายนี้ด้วยการที่คณะรัฐมนตรีต้องเป็นผู้อนุมัติให้บริษัทโจทก์ถือประทานบัตรสืบเนื่องจาก บ. ก็เพราะ พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ พ.ศ.2461 มาตรา 46 บัญญัติให้เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะอนุญาตในกรณีเข้าถือประทานบัตรสืบเนื่องจากเจ้าของเดิมผู้ถึงแก่กรรม ไม่ใช่เป็นเรื่องโจทก์ยื่นเรื่องราวขอประทานบัตรขึ้นใหม่เป็นคนละรายต่างหากโจทก์จึงรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่
ผ. ทำสัญญาให้ไว้แก่ บ. ยอมให้บ. ทำเหมืองแร่ในที่ดินของ ผ. ได้ตามเรื่องราวที่ขอประทานบัตร ต่อมาบ. ถึงแก่กรรม และบริษัทโจทก์ถือประทานบัตรนี้สืบเนื่องจากบ. ตามพระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวแล้ว ฝ่ายผ. ก็ถึงแก่กรรมและที่ดินของ ผ. ก็เป็นมรดกตกทอดแก่จำเลย โจทก์จำเลยย่อมรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของเดิม เมื่อจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้บริษัทโจทก์เข้าทำเหมืองแร่ในที่ดินนี้. โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องร้องบังคับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญาและการแจ้งความเท็จ: จำเลยไม่ได้แจ้งความเท็จ แต่เป็นการเข้าใจสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญากัน โดยจำเลยยอมให้เอาที่ดินของจำเลยให้โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญา ในการนี้โจทก์ตกลงให้เงินแก่จำเลยเป็นการตอบแทน ต่อมาพ้นเวลา 6 เดือน นับแต่วันทำสัญญาดังกล่าว จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อพนักงานโลหกิจว่า จนบัดนี้ โจทก์ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดการทำเหมืองได้ จำเลยจึงขอคัดค้านการอ้างสิทธิของโจทก์โดยจำเลยไม่ยอมให้ใช้ที่ดินของจำเลย ฯลฯ เช่นนี้ แม้ความจริงโจทก์จะได้ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากันนั้นไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อข้อความในสัญญามีเหตุทำให้จำเลยเข้าใจได้ดังคำร้องคัดค้านของจำเลยแล้ว โจทก์จะหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2327/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิประทานบัตรเหมืองแร่ vs. การครอบครองก่อนประทานบัตร: ผู้รับประทานบัตรไม่มีสิทธิขับไล่ผู้ครอบครองก่อน
ผู้ได้รับสประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ผู้ที่ครอบครองประทานบัตรมาก่อนโดยสุจริต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1327/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่เมื่อมีผู้ครอบครองก่อน
ผู้ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ผู้ที่ครอบครองประทานบัตรมาก่อนโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1327/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิประทานบัตรเหมืองแร่ vs. การครอบครองก่อน - ผู้รับประทานบัตรฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองก่อนไม่ได้
ผู้ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแร่ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่ผู้ที่ครอบครองประทานบัตรมาก่อนโดยสุจริต
of 11