พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการประนอมหนี้ส่งผลให้สัญญาค้ำประกันระงับ และจำเลยหลุดพ้นจากความรับผิดล้มละลาย
เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว หนี้ตามที่ลูกหนี้ขอประนอมและจำเลยเข้าทำสัญญาค้ำประกันก็เป็นอันระงับไป จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698
การใดที่ได้ทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ก่อนศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ การนั้นย่อมมีผลสมบูรณ์แต่กิจการใดถ้าได้กระทำภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดีหรือที่จะกระทำต่อไปภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดี กิจการนั้นไม่มีผลผูกพันจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน เมื่อจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดชอบดังกล่าวข้างต้นแล้วมูลหนี้ที่โจทก์อ้างเพื่อขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายก็เป็นอันระงับไปตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย หากจำเลยถูกฟ้องล้มละลายเกี่ยวกับหนี้ที่ค้ำประกันนี้และร้องขอประนอมหนี้จนกระทั่งศาลมีคำสั่งเห็นชอบตามคำขอประนอมหนี้คำสั่งนั้นก็ไม่ผูกพันจำเลยแต่อย่างใด
การพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเป็นเพียงวิธีการเพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย)และดำเนินการตามพระราชบัญญัติล้มละลายก่อนที่ศาลจะพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายเท่านั้น มิได้ทำให้คดีเสร็จเด็ดขาดแต่อย่างใด เมื่อหนี้ที่โจทก์อ้างเป็นมูลฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายระงับไปแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องของโจทก์เสียได้
การใดที่ได้ทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ก่อนศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ การนั้นย่อมมีผลสมบูรณ์แต่กิจการใดถ้าได้กระทำภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดีหรือที่จะกระทำต่อไปภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประนอมหนี้ก็ดี กิจการนั้นไม่มีผลผูกพันจำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน เมื่อจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดชอบดังกล่าวข้างต้นแล้วมูลหนี้ที่โจทก์อ้างเพื่อขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายก็เป็นอันระงับไปตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะฟ้องขอให้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย หากจำเลยถูกฟ้องล้มละลายเกี่ยวกับหนี้ที่ค้ำประกันนี้และร้องขอประนอมหนี้จนกระทั่งศาลมีคำสั่งเห็นชอบตามคำขอประนอมหนี้คำสั่งนั้นก็ไม่ผูกพันจำเลยแต่อย่างใด
การพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดเป็นเพียงวิธีการเพื่อให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย)และดำเนินการตามพระราชบัญญัติล้มละลายก่อนที่ศาลจะพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายเท่านั้น มิได้ทำให้คดีเสร็จเด็ดขาดแต่อย่างใด เมื่อหนี้ที่โจทก์อ้างเป็นมูลฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายระงับไปแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องของโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย สิทธิเรียกร้องหนี้สูญเสีย ผูกพันตามการประนอมหนี้
หนี้ของลูกหนี้ซึ่งมีอยู่ก่อนลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนั้น เจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 27, 91 เมื่อเจ้าหนี้ไม่ได้ร้องขอรับชำระหนี้ตามวิธีการดังกล่าว จนได้มีการประนอมหนี้เรียบร้อยและศาลสั่งปิดคดีแล้ว หากหนี้ของเจ้าหนี้ไม่ใช่หนี้ดังที่ระบุไว้ในมาตรา 77 การประนอมหนี้นั้นก็ผูกมัดเจ้าหนี้ด้วยตามมาตรา 56 เจ้าหนี้จะมาฟ้องลูกหนี้ให้ต้องรับผิดในหนี้นั้นในภายหลังมิได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2509)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย สิทธิเรียกร้องสูญเสีย ผลผูกพันการประนอมหนี้
หนี้ของลูกหนี้ซึ่งมีอยู่ก่อนลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดนั้น เจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 27,91 เมื่อเจ้าหนี้ไม่ได้ร้องขอรับชำระหนี้ตามวิธีการดังกล่าว จนได้มีการประนอมหนี้เรียบร้อยและศาลสั่งปิดคดีแล้ว หากหนี้ของเจ้าหนี้ไม่ใช่หนี้ดังที่ระบุไว้ในมาตรา 77 การประนอมหนี้นั้นก็ผูกมัดเจ้าหนี้ด้วยตามมาตรา 56 เจ้าหนี้จะมาฟ้องลูกหนี้ให้ต้องรับผิดในหนี้นั้นในภายหลังมิได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการหลุดพ้นจากความรับผิดของผู้ค้ำประกันเมื่อมีการประนอมหนี้และชำระหนี้แล้ว
โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาจำเลยร้องขอให้ศาลปล่อทรัพย์ที่ยึดโดยมีผู้ค้ำประกันต่อมาศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินโจทก์ จำเลยไม่ชำระโจทก์ขอให้ศาลบังคับผู้ค้ำประกัน เมื่อปรากฏต่อศาลว่าโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือประนอมหนี้โอนที่ดินของจำเลยใช้หนี้โจทก์ไปแล้ว ผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องรับผิดใช้หนี้โจทก์
ผู้ร้องได้ยื่นระบะพยานอ้างเอกสารไว้แล้ว แต่เรียกมาไม่ได้ คงส่งศาลได้แก่สำเนาเพิ่งปรากฏว่าจำเลยได้นำต้นฉบับเอกสารมาส่งศาลเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกาสั่งให้สืบพยานเกี่ยวกับต้นฉบับเอกสารนั้น ศาลฎีกามีอำนาจสั่งรับต้นฉบับเอกสารและสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 240(2) และ (3) ได้.
ผู้ร้องได้ยื่นระบะพยานอ้างเอกสารไว้แล้ว แต่เรียกมาไม่ได้ คงส่งศาลได้แก่สำเนาเพิ่งปรากฏว่าจำเลยได้นำต้นฉบับเอกสารมาส่งศาลเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกาสั่งให้สืบพยานเกี่ยวกับต้นฉบับเอกสารนั้น ศาลฎีกามีอำนาจสั่งรับต้นฉบับเอกสารและสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 240(2) และ (3) ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกการประนอมหนี้ล้มละลายไม่กระทบสิทธิการชำระหนี้ที่ได้ทำไปแล้วตามข้อตกลง
คดีล้มละลายที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยคำขอประนอมหนี้ ต่อมาปรากฏแก่ศาลว่าการประนอมหนี้ไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากอยุติธรรม ศาลจึงได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายนั้น คำสั้งศาลที่ให้ยกเลิกการประนอมหนี้ย่อมไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ฉะนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้และได้ชำระเงินค่าใช้จ่ายตามคำขอประนอมหนี้และเงินที่จะต้องชำระแก่เจ้าหนี้แล้ว จึงขอคืนเงินดังกล่าวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการยกเลิกการประนอมหนี้ต่อสิทธิของผู้ชำระหนี้ตามข้อตกลง
คดีล้มละลายที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยคำขอประนอมหนี้ต่อมาปรากฏแก่ศาลว่าการประนอมหนี้ไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากอยุติธรรม ศาลจึงได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายนั้น คำสั่งศาลที่ให้ยกเลิกการประนอมหนี้ ย่อมไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้ ฉะนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้และได้ชำระเงินค่าใช้จ่ายตามคำขอประนอมหนี้ และเงินที่จะต้องชำระแก่เจ้าหนี้แล้ว จึงขอคืนเงินดังกล่าวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนอมหนี้ล้มละลาย: เหตุไม่สมควรเห็นชอบ แม้เจ้าหนี้ยอมรับ และการกระทำที่แสดงเจตนาฉ้อฉล
เพียงแต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานขึ้นมาย่อ ๆ ว่า ทางสอบสวนยังไม่ปรากฎว่าลูกหนี้ประพฤติผิดกฎหมายล้มละลายอันจะมีโทษทางอาญาแต่ประการใดนั้น ยังไม่พอที่ศาลจะรับฟังเป็นแน่นอนเช่นนั้นได้ ในเมื่อมีพฤติการณ์ต่าง ๆ ของลูกหนี้ที่ยังมิได้สอบสวนหรือซักถามให้ปรากฎชัด
ลูกหนี้เป็นผู้ทำการค้าขายใหญ่โตถึงขนาด มีทรัพย์สินอยู่นอกประเทศทั้งในอเมริกาและฮ่องกง มีเจ้าหนี้เป็นจำนวน 10 ล้านกว่าบาท แต่มีเงินเหลือเพียง 2 พันบาทเศษเท่านั้น ทรัพย์สินอื่นก็ติดภาระจำนองหมด และลูกหนี้ไม่อจแสดงให้พอใจศาลว่าตนมีเหตุที่ควรเชื่อได้ว่าตนสามารถขำระหนี้ได้ โดยก่อนหนี้ขึ้นอีกมากมายหลังจากทำยอมใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ทั้งไม่มีบัญชีในการประกอบธุรกิจการงานเหลืออยู่เลย ดังนี้จึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามมาตรา 74 ว่าลูกหนี้ขืนกระทำการค้าขายต่อไปอีก โดยรู้แล้วว่าไม่สามารถจะชำระหนี้ได้
พระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 54 วรรคท้ายให้อำนาจศาลที่จะสั่งเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก็ได้ ตามแต่จะเห็นสมควร แม้ที่ประชุมเจ้าหนี้จะลงมติพิเศษยอมรับคำขอประนอมหนี้โดยเปิดเผยและรายงานของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถึงเหตุที่ยังไม่สมควรศาลก็ยกคำขอประนอมหนี้นั้นเสียได้ แม้เจ้าหนี้ผู้คัดค้านจะมิได้นำพยานมาสืบก็ตาม
การที่ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สิเหลือพอจะแบ่งให้เจ้าหนี้และขืนทำการค้าขายต่อไปอีกโดยรู้ว่าไม่-สามารถจะชำระหนี้ได้ กับประพฤติตนเล่นการพนัน เหตุทั้ง 3 ประการนี้นับว่ายังไม่สมควรจะได้รับความเห็นชอบให้ลูกหนี้ประนอมหนี้เพียงร้อยละห้าได้.
ลูกหนี้เป็นผู้ทำการค้าขายใหญ่โตถึงขนาด มีทรัพย์สินอยู่นอกประเทศทั้งในอเมริกาและฮ่องกง มีเจ้าหนี้เป็นจำนวน 10 ล้านกว่าบาท แต่มีเงินเหลือเพียง 2 พันบาทเศษเท่านั้น ทรัพย์สินอื่นก็ติดภาระจำนองหมด และลูกหนี้ไม่อจแสดงให้พอใจศาลว่าตนมีเหตุที่ควรเชื่อได้ว่าตนสามารถขำระหนี้ได้ โดยก่อนหนี้ขึ้นอีกมากมายหลังจากทำยอมใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ทั้งไม่มีบัญชีในการประกอบธุรกิจการงานเหลืออยู่เลย ดังนี้จึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามมาตรา 74 ว่าลูกหนี้ขืนกระทำการค้าขายต่อไปอีก โดยรู้แล้วว่าไม่สามารถจะชำระหนี้ได้
พระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 54 วรรคท้ายให้อำนาจศาลที่จะสั่งเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก็ได้ ตามแต่จะเห็นสมควร แม้ที่ประชุมเจ้าหนี้จะลงมติพิเศษยอมรับคำขอประนอมหนี้โดยเปิดเผยและรายงานของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถึงเหตุที่ยังไม่สมควรศาลก็ยกคำขอประนอมหนี้นั้นเสียได้ แม้เจ้าหนี้ผู้คัดค้านจะมิได้นำพยานมาสืบก็ตาม
การที่ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สิเหลือพอจะแบ่งให้เจ้าหนี้และขืนทำการค้าขายต่อไปอีกโดยรู้ว่าไม่-สามารถจะชำระหนี้ได้ กับประพฤติตนเล่นการพนัน เหตุทั้ง 3 ประการนี้นับว่ายังไม่สมควรจะได้รับความเห็นชอบให้ลูกหนี้ประนอมหนี้เพียงร้อยละห้าได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีผู้ค้ำประกันตามคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย: ศาลบังคับได้แม้ยังมิได้สั่งรับชำระหนี้ทุกราย
คำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายซึ่งศาลสั่งเห็นชอบแล้ว มีข้อความสำคัญว่า "ลูกหนี้ยอมชำระบรรดาหนี้ที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้แล้วเป็นจำนวนร้อยละสิบ มีกำหนดชำระงวดเดียวภายในหกเดือนนับแต่วันศาลสั่งเห็นชอบในการประนอมหนี้" ซึ่งในขณะศาลพิจารณาการประนอมหนี้ก็มีหนี้หลายรายที่ศาลสั่งอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้แล้ว ฉะนั้นเมื่อพ้นกำหนดหกเดือนลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็มีอำนาจขอต่อศาลให้บังคับผู้ค้ำประกันให้ปฏิบัติตามข้อความที่ประนอมหนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องรอจนกว่าศาลสั่งคำขอรับชำระหนี้เสร็จสิ้นถึงหนี้งรายสุดท้ายเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาล้มละลายเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ตามข้อตกลง
การที่เจ้าหนี้บางรายในคดีล้มละลายเสนอเงื่อนไขในการประชุมพิจารณาคำขอประนอมหนี้ว่า ถ้าลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ ตาม+ในการประนอมหนี้ จะยอมถอนคำขอรับชำระหนี้นั้น เป็นคำมั่นที่จะให้เจ้าหนี้อื่นได้รับผลเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ หาใช่เป็นการค้ำประกันเพื่อให้เป็นการประนอมหนี้เด็ดขาดหรือให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากการที่ศาลจะพิพากษาให้ล้มละลายไม่ฉะนั้น เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงไว้ ศาลย่อมมีอำนาจยกเลิกการประนอมประหนี้ และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4172/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนอมหนี้ก่อนล้มละลายที่ไม่สุจริต และการพิสูจน์ความสามารถในการชำระหนี้
คดีนี้มีเจ้าหนี้ 13 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,579,969,429.28 บาท จำเลยยื่นคำขอประนอมหนี้ยอมชำระหนี้ที่ศาลมีคำสั่งให้ได้รับชำระหนี้เป็นจำนวนร้อยละ 5 ของหนี้ที่ศาลมีคำสั่งให้ได้รับชำระหนี้ ส่วนหนี้ของเจ้าหนี้มีประกันให้ได้รับชำระหนี้จำนวนร้อยละ 5 ของส่วนที่ขาดจากการบังคับชำระหนี้จากหลักประกันแล้ว โดยกำหนดผ่อนชำระทุก 6 เดือน ให้เสร็จสิ้นภายใน 5 ปี เมื่อพิจารณาทรัพย์สินและรายได้ของจำเลยดังกล่าวแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจำเลยจะมีเงินพอที่จะสามารถชำระหนี้ตามคำขอประนอมหนี้ได้เสร็จสิ้น ทั้งยังไม่พอที่จะรับฟังให้เป็นที่แน่นอนได้ว่า ไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้มีโทษทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 เพราะเจ้าหนี้ยังคงโต้แย้งอยู่ว่าจำเลยกับเจ้าหนี้รายที่ 11 ซึ่งขอรับชำระหนี้จำนวนมากกว่าร้อยละ 82 ของหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ทั้งหมดร่วมกันก่อหนี้อันเป็นเท็จในลักษณะเป็นหนี้ที่สมยอมกันโดยไม่มีหนี้อยู่จริง และเจ้าหนี้รายที่ 11 ขอถอนคำขอรับชำระหนี้ภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ของจำเลยแล้ว พฤติการณ์ตามข้อเท็จจริงเชื่อว่าการประนอมหนี้ของจำเลยกระทำโดยไม่สุจริตเพื่อจะชำระหนี้แก่เจ้าหนี้เพียงร้อยละ 5 และจะได้หลุดพ้นจากการล้มละลายทันทีเมื่อศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ กรณีจึงมีเหตุไม่สมควรที่ศาลจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายของจำเลย ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 53 (2) และมาตรา 54 วรรคสอง