พบผลลัพธ์ทั้งหมด 159 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีโดยทนายจำเลย: เหตุจำเป็น & สิทธิในการแต่งตั้งทนาย
ศาลเคยอนุญาตให้ทนายจำเลยเลื่อนคดีครั้งหนึ่งแล้ว ในนัดต่อมาทนายจำเลยคนเดิมขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและศาลอนุญาตและในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้แต่งตั้งทนายความคนใหม่ ทนายความคนใหม่มอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าทนายความคนใหม่ติดว่าความที่ศาลอื่น ดังนี้เป็นกรณีจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงได้ ศาลชอบที่จะสั่งอนุญาตให้เลื่อนการนั่งพิจารณาไปได้อีกแม้จะเกินกว่าหนึ่งครั้งก็ตาม ทั้งนี้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 40 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการเลื่อนสืบพยานและการตั้งทนายใหม่ หากมีเหตุจำเป็นสมควร ศาลควรอนุญาตเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
วันนัดสืบพยานจำเลย ทนายคนเดิมของจำเลยขอถอนตัวและจำเลยขอตั้งทนายคนใหม่แทน ศาลชั้นต้นอนุญาต แม้การถอนตัวของทนาย คนเดิมจะเกิดจากการขอของจำเลยหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นสิทธิโดยชอบ ของจำเลยที่จะกระทำได้ และการที่จำเลยจะตั้งผู้ใดเป็นทนายของตนต่อไปก็เป็นสิทธิโดยชอบของจำเลยอีกเช่นกัน ส่วนทนายคนใหม่จะมาศาลในวันนัดนั้นได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องของทนายคนใหม่ จำเลยไม่มี สิทธิหรืออำนาจที่จะบังคับได้ เมื่อทนายคนใหม่ยื่นคำร้องว่ามาศาลในวันนัดนั้นไม่ได้เพราะคิดว่าความที่ศาลอื่นซึ่งนัดไว้ก่อนแล้ว และโจทก์ก็ไม่คัดค้าน ดังนี้ หากศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าเป็นความจริง ก็ ชอบ ที่จะไต่สวนหาความจริงได้ไม่ยาก จึงไม่ชอบที่ศาลชั้นต้น จะ ถือเอา ว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่าทนายคนใหม่ติดว่าความคดีอื่นอยู่ก่อน แล้ว ยัง ขืนตั้งให้เป็นทนายอีกมาเป็นเครื่องชี้ว่าจำเลยจงใจเพื่อ ไม่ให้ มี ทนายมาดำเนินคดีในวันนัดนั้น และการเลื่อนคดีของทนาย คนใหม่ ไม่มี เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3795/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลแก้ไขข้อบกพร่องใบมอบอำนาจเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ข้อบังคับบริษัทโจทก์ระบุให้กรรมการสองคนลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัทจึงจะผูกพันบริษัทได้ การที่โจทก์มอบอำนาจให้ศ. ฟ้องและดำเนินคดีแทน โดยมีกรรมการ 2 คนลงลายมือชื่อในใบมอบอำนาจ แต่ไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทย่อมทำให้ใบมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ แต่ก่อนพิพากษาศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแก้ไขข้อบกพร่องของใบมอบอำนาจก่อนพิพากษาเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
แม้การที่บริษัทโจทก์มอบอำนาจให้ผู้แทนฟ้องคดีโดยกรรมการสองคนลงลายมือชื่อในใบมอบอำนาจโดยไม่ได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ ทำให้ใบมอบอำนาจนั้นไม่สมบูรณ์ก็ตามแต่ก่อนพิพากษาศาลย่อมมีอำนาจให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีแทนได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โดยสั่งให้โจทก์ทำใบมอบอำนาจที่สมบูรณ์เข้ามาใหม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: ศาลชอบที่จะไต่สวนคำร้องขอขายที่ดินแยกแปลง หากมีเหตุผลที่อาจชำระหนี้ได้ด้วยการขายแปลงเดียว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 1 รวมพร้อมกัน 7 แปลง จำเลยที่ 1 ร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1 แยกทีละแปลง โดยอ้างว่าเจ้าพนักงานประเมินราคาที่ดินแปลงหนึ่งไว้ในราคาตารางวาละ 2,000 บาท ราคาที่ดินทั้งแปลงมีจำนวนถึง 1,160,000 บาท แต่หนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยมีเพียง 421,000 บาท หากขายที่ดินแปลงดังกล่าวแปลงเดียวก็เพียงพอที่จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ดังนี้ หากความจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1 กล่าวอ้าง ก็มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลอาจพิจารณาอนุญาตให้ขายที่ดินของจำเลยที่ 1 ทีละแปลงดังที่จำเลยที่ 1 ร้องขอได้ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้อง ของ จำเลยที่ 1 เสียก่อนที่จะพิจารณาสั่งคำร้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้จำเลยระบุตนเองเป็นพยานเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในคดีที่ดินราคาสูง
โจทก์ฟ้องเรียกร้องที่ดินราคาสูงจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของสามีและจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกในระหว่างคดีศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมมาแล้วหลายครั้ง จึงมีเหตุเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)ที่จะสืบตัวจำเลยที่ 2 เป็นพยานเพิ่มเติมตามคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยที่ 2 ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติมในคดีที่ดินราคาสูง เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87(2)
โจทก์ฟ้องเรียกร้องที่ดินราคาสูง จากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของสามี และจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ในระหว่างการพิจารณาคดีศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมมาแล้วหลายครั้ง จึงมีเหตุเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)ที่จะสืบตัวจำเลยที่ 2 เป็นพยานเพิ่มเติมตามคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบ แต่มีเหตุผลสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ส่งสำเนาลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานสามวัน แต่โจทก์ได้ระบุอ้างเช็คพิพาทไว้ในบัญชีพยานโดยชอบ และเช็คพิพาทเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญแห่งคดี ดังนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลมีอำนาจรับฟังเช็คพิพาทตาม ป.วิ.พ. มาตรา 87(2) ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบเอกสารที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบ แต่มีเหตุผลให้รับฟังได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ส่งสำเนาลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานสามวัน แต่โจทก์ได้ระบุอ้างเช็คพิพาทไว้ในบัญชีพยานโดยชอบและเช็คพิพาทเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญแห่งคดี ดังนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังเช็คพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2) ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5751/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารขอผัดชำระหนี้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาก่อนสืบพยาน ศาลมีอำนาจรับฟังได้หากเป็นพยานหลักฐานสำคัญ
แม้โจทก์มิได้นำส่งสำเนาหนังสือขอผัดชำระหนี้เอกสารหมายจ.6 ถึง จ.9 ให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน เมื่อศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจรับฟังเอกสารเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมโดยเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ศาลมีอำนาจรับเอกสารนั้นไว้พิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) จึงเป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ชอบด้วยกฎหมาย