พบผลลัพธ์ทั้งหมด 153 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยถูกยั่วโทสะ: การพิจารณาเหตุแห่งการกระทำและความชอบธรรมในการป้องกัน
ข. กล่าวเสียดสีไล่จำเลยออกจากวัดต่อหน้าชุมนุมชนและยิงบิดาจำเลย โดยจำเลยไม่ได้วิวาทด้วย จำเลยยิง ข. ตายเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันทรัพย์สินที่พอสมควรแก่เหตุ: การยิงเพื่อหยุดยั้งการลักทรัพย์
พฤติการณ์ที่เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองและป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงจากการถูกละเมิดทางกายภาพ
การที่หญิงมีสามีอายุ 28 ปี ถูกชายอายุ 24 ปี ฉุดกอดปล้ำต่อหน้าผู้คนโดยหญิงไม่ยินยอมโดยได้พยายามดิ้นรนขัดขวางและร้องห้าม ชายนั้นก็ยังขืนกอดและฉุดอยู่อีกเมื่อหญิงดิ้นสบัดหลุดจึงใช้มีดปลอกปากกาหมึกซึมแทงไปเพียงทีเดียวถูกช่องซี่โครงชายนั้นกว้าง 1 ซม. ยาว 2 ซม. และไปถูกอวัยวะสำคัญทำให้ชายนั้นถึงตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุ ตาม ม.50.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1842/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ เมื่อถูกทำร้ายและมีภัยอันตรายใกล้เข้ามา
ได้ความว่าผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบิดาจำเลย จำเลยเข้าห้ามโดยไม่มีอาวุธติดตัว ผู้ตายตามไปจะทำร้ายจำเลย จนจำเลยถอยหนีไปจนมุมไม่มีทางหนีไปอีกแล้วพอดีจำเลยพบมีดวางอยู่ จึงเอามีดกวัดแกว่งและร้องห้ามผู้ตายไม่ให้เข้ามา ผู้ตายยังขืนเข้าไปจึงถูกมีดที่หน้าผากผู้ตายไม่ล้มเอามือซ้ายปิดท้ายทอยส่วนมือขวายังถือมีดเงื้อง่าอยู่ จำเลยเอามีดเหวี่ยงไปอีกที่หนึ่งถูกท้ายทอยแล้วโดดหนี ผู้ตายอยู่ต่อมา 5-6 วันก็ตายเพราะบาดแผลนั้น ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้วินิจฉัยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ เพราะการกระทำของจำเลยทั้ง 2 ครั้งเป็นการกระทำต่อเนื่องในขณะเดียวกัน การที่ผู้ตายถูกฟันครั้งแรก จะให้จำเลยซึ่งอยู่ในฐานะเช่นนั้นคาดหมายว่าผู้ตายได้รับบาดเจ็บเพียงไรและจะหวนกลับมาทำร้ายอีกหรือไม่ย่อมไม่ได้ และที่จำเลยเหวี่ยงมีดไปยังท้ายทอยอีก 1 ทีเป็นการกระทำเพื่อให้โอกาสจำเลยหลีกพ้นจากภัยอันผู้ตายเป็นผู้ก่อแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ: พิจารณาพฤติการณ์ต่อเนื่องเมื่อมีการขัดขืนและทำร้าย
การที่ผู้ตายทำร้ายแล้วขัดขืนไม่ยอมให้จับ ผู้ตายแกว่งมีดจะแทงผู้เข้าจับ ๆ ถอยล้มลง ผู้ตายจะเข้าแทง ทันใดนั้นจำเลยจะเข้าตีผู้ตาย ๆ ถือมีดจะมาแทงจำเลยผู้เข้าจับคนนั้นจึงตีผู้ตายล้มลงกำลังผู้ตายจะลุกขึ้นจำเลยก็ตีศรีษะอีก 1 ที ถึงตายดังนี้จะเห็นได้ว่าการที่จำเลยตีผู้ตายครั้งหลังขณะที่ล้มอยู่นี้เป็นการกระทำที่เกี่ยวพันกระชั้นชิดกันจึงต้องพิจารณาพฤติการณ์รวมกันไปจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1442/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา: การกระทำเพื่อป้องกันภยันตรายจากผู้ที่ลงมือทำร้าย
ผู้ตายห้อยโหนลงมาจากหน้าต่างเรือนของจำเลยในเวลาดึกดื่น (ผู้ตายกับพี่สาวจำเลยผูกสมัครรักใคร่กัน) ทั้งเป็นเวลาเดือนมืดและได้ลงมายืนประจันหน้ากับจำเลย พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้จำเลยเข้าใจว่าผู้ที่ยืนอาจทำร้ายจำเลย และไม่รู้ได้ว่าผู้นั้นไม่มีอาวุธร้ายแรงที่พอจะทำลายชีวิตจำเลยได้
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อนเช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉินจึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม ก.ม.อาญา ม.50
เมื่อจำเลยแทงผู้ที่ยืนประจันหน้าไปเสียก่อนเช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตน อนึ่งแม้จะแทงโดยแรงโดยอาจแลเห็นผลว่าจะทำให้ผู้นั้นถึงตายได้ก็ตามก็เป็นการกระทำในเวลาฉุกเฉินจึงไม่เป็นการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ได้รับยกเว้นอาญาตาม ก.ม.อาญา ม.50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการพยายามฆ่า: ปืนชื้นกระสุนไม่ลั่น ถือเป็นเหตุป้องกันได้
ใช้ปืนแก๊บที่บรรจุกระสุนและดินปืนไว้นานจนดินปืนชื้น ยิงจนแก๊บแตก เป็นประกายไฟ แต่กระสุนไม่ลั่นนั้นถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยที่จะป้องกันได้มาขัดขวางเสียจำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยกับการพยายามฆ่า: ปืนแก๊บชำรุด
ใช้ปืนแก๊บที่บรรจุกระสุนและดินปืนไว้นานจนดินปืนชื้นยิงจนแก๊บแตกเป็นประกายไฟ แต่กระสุนไม่ลั่นนั้น ถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยที่จะป้องกันได้มาขัดขวางเสีย จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในขณะเมาสุรา: เจตนาและเหตุป้องกัน
เหตุเกิดเวลาพลบค่ำมืดแล้วจำเลยเมาสุราใช้มีดขนาดย่อมไม่ใหญ่โตน่ากลัวแทงชุ่ยๆ ไปถูกผู้ตายที่ใต้ราวนมซ้ายโดยไม่ปรากฏสาเหตุยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าคงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น
เมาสุราอาละวาดมีผู้เข้าห้าม กลับทำร้ายจะอ้างว่าป้องกันไม่ได้
เมาสุราอาละวาดมีผู้เข้าห้าม กลับทำร้ายจะอ้างว่าป้องกันไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง กรณีป้องกันเกินเหตุ
จำเลยกับพวกพากันตามโคของผู้อื่นที่หายไป พบผู้ตายเชือดโคอยู่ ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยไล่ตามและเกิดทำร้ายกันขึ้น ผู้ตายถูกแทง 3 แห่ง ถูกตี 2 แห่ง จำเลยคนหนึ่งมีแผลที่ศีร์ษะโลหิตไหล เช่นนี้จะถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายเข้าอยู่ในมาตรา 251