คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป้องกันตนเอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 132 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821-1822/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการยกฟ้องจำเลยร่วม กรณีจำเลยผู้ถูกกล่าวหาป้องกันตนเอง
ความผิดฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทุกคนสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันนั้น แม้จำเลยเพียงบางคนเท่านั้นอุทธรณ์ แต่ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่มิได้อุทธรณ์กระทำโดยป้องกันอันเป็นเหตุยกเว้นความผิด ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจวินิจฉัยไปถึงจำเลยที่มิได้อุทธรณ์นั้น แล้วยกฟ้องโจทก์เฉพาะตัวจำเลยที่มิได้อุทธรณ์นั้นได้ โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 ไม่ใช่เหตุลักษณะคดีตามมาตรา 213
จำเลยผู้ร่วมกระทำผิดย่อมไม่อยู่ในฐานะผู้เสียหายย่อมไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสถานการณ์คับขัน: การกระทำเพื่อป้องกันตนเองที่เกินสมควรแก่เหตุ และอำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยปัญหาความสงบเรียบร้อย
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามฟ้อง เมื่อจำเลยอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำโดยสำคัญผิดว่าเป็นพวกคนร้ายมาปล้นเรือน แต่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ดังนี้ แม้โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยไม่ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพียงแต่แก้ฎีกาโจทก์ขอให้ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ก็ตาม เมื่อศาลฎีกาฟังว่าเป็นการป้องกันพอควรแก่เหตุย่อมเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองตามสมควรแก่เหตุ: ความเข้าใจผิดในสถานการณ์เสี่ยงภัย
จำเลยผู้เดียวนอนเฝ้ากระบือและเครื่องสูบน้ำที่ห้างนา ในท้องที่ที่มีการปล้นการลักกันเสมอ ตกใจตื่นโดยได้ยินเสียงก๊อกแก๊กทางปลายเท้า เห็นเงาคนดำๆ ห่าง 1 วาเศษเข้าใจว่าเป็นคนร้ายจะมาทำการปล้น จึงใช้ปืนยิงไป1 นัด ถูกผู้นั้นตาย ในขณะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้าย ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำเพื่อป้องกันภยันตรายต่อบุตรและป้องกันตนเอง ถือเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายมาขอน้ำบุตรสาวจำเลยกิน บุตรจำเลยเข้าไปในครัวจะตักน้ำให้ ผู้เสียหายตามเข้าไปจับมือและเข้ากอดบุตรจำเลยในครัว เมื่อจำเลยกลับมาบ้านได้ยินเสียงบุตรสาวร้องเรียกให้ช่วย จำเลยจึงได้เข้าไปใช้มีดแทงผู้เสียหาย 2 ครั้ง ครั้งแรกเพื่อให้ผู้เสียหายปล่อยจากกอดบุตรสาว แล้วผู้เสียหายหันกลับมาสู้ จำเลยจึงแทงป้องกันตัวไปอีกที ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงยังไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 155/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย: จำเลยสำคัญผิดคิดว่าเป็นโจรปล้นบ้าน ยิงตำรวจบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหมายค้นและหมายจับไปจับกุมจำเลยที่บ้านในเวลาวิกาล (ประมาณ 24 นาฬิกา) ได้ปีนบ้านและรื้อฝาบ้านจำเลยเข้าไป จำเลยสำคัญผิดคิดว่าโจรเข้าปล้นบ้านจึงใช้ปืนยิงตำรวจบาดเจ็บพฤติการณ์ของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นการป้องกันสิทธิของตนและของผู้อื่น และป้องกันทรัพย์ของจำเลยให้พ้นจากภยันตรายอันเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุและเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1551/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิพากษ์วิจารณ์ในหน้าที่การงานและการป้องกันตนเองทางคลองธรรม ไม่ถือเป็นหมิ่นประมาท
โจทก์ทำหน้าที่ทนายให้กับลูกความ ในการไปเจรจาเรื่องรถยนต์ที่เช่าซื้อกับจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกเช่าซื้อของบริษัทฯ. โจทก์จำเลยพูดโต้เถียงกัน. จำเลยจึงพูดว่า'คุณเป็นทนายไม่รีบรักษาผลประโยชน์ของลูกความคุณเองจะมาโทษผมยังไง'. ถ้อยคำที่จำเลยพูดกับโจทก์เช่นนี้ เป็นการพูดกล่าวในหน้าที่การงานของจำเลย เพื่อความชอบธรรมป้องกันตนตามคลองธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1).จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท และมิใช่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากการประทุษร้ายทางกายภาพ: การแย่งกระทอไก่และการใช้กำลังเพื่อป้องกันตนเอง
ผู้ตายกับจำเลยแย่งกระทอไก่กัน จำเลยหนุ่มกว่าผู้ตายแย่งสู้ไม่ได้จึงใช้ไม้ตีจำเลยก่อนถูกศีรษะ 1 ที จำเลยแย่งไม้จากผู้ตายได้แล้วใช้ไม้นั้นตีศีรษะผู้ตาย 1 ที การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองเกินกว่าเหตุ: การใช้จอบป้องกันการถูกแทงและทำร้ายร่างกาย
จำเลยนั่งทุบใบจอบอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยดีๆผู้ตายเมาสุรามาท้าทายจำเลย เตะจำเลยและใช้เหล็กแหลมแทงจำเลยถึง 2 ครั้ง แม้จะไม่ถูก ผู้ตายยังไล่ตามแทงติดตัวอยู่ จำเลยจึงใช้จอบซึ่งถืออยู่ในมือฟันผู้ตายไป 2 ที ดังนี้ จึงถือว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลย อันเป็นการป้องกันสิทธิของจำเลยจากภยันตรายที่ผู้ตายก่อขึ้นพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงยังไม่ควรมีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะ และขอบเขตการป้องกันตนเอง
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยเพียงยกขวดแตกขึ้นรับเมื่อผู้ตายโถมเข้าแทงจำเลยทำให้พับแขนของผู้ตายถูกขวดเข้าเองเป็นบาดแผล และผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ฉะนั้นเมื่อจำเลยมิได้ทำร้ายผู้ตาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลย เมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: การกัดเพื่อป้องกันการจมน้ำ ถือเป็นการใช้สิทธิป้องกันตนเอง
จำเลยกับผู้เสียหายมีปากเสียงกัน ผู้เสียหายท้าทายจำเลย ๆ ไม่ยอมรับคำท้ามุ้งหน้าจะกลับบ้าน ผู้เสียหายตามไปกระชากแขนและต่อยจำเลยก่อน จำเลยจึงเข้ากอดปล้ำและตกลงไปในคลองด้วยกัน จำเลยถูกผู้เสียหายกดให้จมน้ำและถูกกัด จำเลยจึงกัดผู้เสียหายหูขาด ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าการโต้เถียงเป็นปากเสียงกันได้ขาดตอนไปแล้วโดยจำเลยไม่ยอมรับคำท้า แต่ผู้เสียหายได้ตามไปต่อยจำเลยก่อน มิใช่เป็นการสมัครใจวิวาทกัน และเมื่อตกลงในคลอง จำเลยก็ถูกผู้เสียหายกดให้จมน้ำและถูกกัดอีก จำเลยจึงกัดไปบ้างเพื่อมิให้ถูกผู้เสียหายกดจมน้ำตาย ถือว่าเป็นการป้องกันโดยชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 จำเลยไม่มีความผิด
of 14