คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป้องกันตัว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 883 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า, พยายามฆ่า, การป้องกันตัว, และฎีกาต้องห้าม: กรณีวิวาทและใช้อาวุธทำร้าย
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุด่าผู้เสียหายก่อน เมื่อผู้เสียหายเข้าไปสอบถามจำเลย จึงเกิดการโต้เถียงกัน หลังจากนั้นทั้งจำเลยและผู้เสียหายต่างใช้อาวุธเข้าทำร้ายกัน ตามพฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยสมัครใจวิวาทต่อสู้กับผู้เสียหาย การที่จำเลยทำร้ายผู้เสียหายจึงไม่เป็นการป้องกันตัว จำเลยใช้มีดปลายแหลมใบมีดยาวประมาณ 4 นิ้ว แทงผู้เสียหาย3 ที ถูกที่บริเวณทรวงอกด้านซ้าย 3 แห่ง บาดแผลทะลุเข้าช่องปอดด้านซ้ายทั้ง 3 แห่ง มีเลือดออกในช่องปอดต้องใส่สายระบายเลือดออกจากปอด ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาความผิดต่อชีวิตแต่ไม่มีหลักฐานการแจ้งข้อหาแก่จำเลย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเป็นเพียงการเถียงข้อเท็จจริงว่า พนักงานสอบสวนยังมิได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าแก่จำเลย เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีด: ปฏิเสธการป้องกันตัว
จำเลยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน ในคืนเกิดเหตุจำเลยได้พกมีดปลายแหลมของกลางติดตัวไปในงานเลี้ยงทำขวัญนาคที่บ้าน ส.แล้วจำเลยใช้มีดเล่มดังกล่าวแทงผู้ตาย 2 ครั้ง โดยครั้งแรกแทงผู้ตายที่ชายโครงขวาด้านหลังด้านนอกซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญเป็นแผลแรก ขณะที่ผู้ตายยังไม่รู้ตัวและไม่ได้ต่อสู้ เมื่อผู้ตายรู้ตัวหันมาหาจำเลย ก็ถูกแทงเป็นแผลที่สองที่ชายโครงซ้ายด้านหน้าซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญอีกเช่นกันเป็นแผลฉกรรจ์ถึงขนาดลำไส้ทะลักออกมาให้เห็นและไม่อาจต่อสู้ได้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยแทงผู้ตายเต็มแรงเพียงฝ่ายเดียว โดยผู้ตายไม่มีโอกาสต่อสู้ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว แต่ฟังได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4975/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: พฤติการณ์การแทงผู้ตาย 2 ครั้งบ่งชี้เจตนาฆ่า
จำเลยมีเรื่องโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน ในคืนเกิดเหตุจำเลยได้พกมีดปลายแหลมของกลางติดตัวไปในงานเลี้ยงทำขวัญนาค ที่บ้าน ส. แล้วจำเลยใช้มีดเล่มดังกล่าวแทงผู้ตาย 2 ครั้งโดยครั้งแรกแทงผู้ตายที่ชายโครงขวาด้านหลังด้านนอก ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญเป็นแผลแรก ขณะที่ผู้ตายยังไม่รู้ตัว และไม่ได้ต่อสู้ เมื่อผู้ตายรู้ตัวหันมาหาจำเลย ก็ถูกแทง เป็นแผลที่สองที่ชายโครงซ้ายด้านหน้าซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ อีกเช่นกันเป็นแผลฉกรรจ์ถึงขนาดลำไส้ทะลักออกมาให้เป็น และไม่อาจต่อสู้ได้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยแทงผู้ตายเต็มแรง เพียงฝ่ายเดียว โดยผู้ตายไม่มีโอกาสต่อสู้ ฟังไม่ได้ว่า จำเลยแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว แต่ฟังได้ว่าจำเลย แทงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4959/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากภยันตรายร้ายแรงและการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายกับพวกประมาณ 10 คน ก่อเหตุขึ้นก่อน โดยบางคนมีไม้และค้อนเป็นอาวุธเข้ารุมทำร้ายจำเลยที่ 1 เพียงคนเดียว ถือได้ว่าเป็นภยันตรายร้ายแรงซึ่งอาจทำให้จำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายได้ ดังนั้น การที่จำเลยที่ 1 ใช้มีดแทงผู้ตายไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในขณะที่กำลังชุลมุนกันอยู่และบังเอิญมีดไปถูกที่หน้าอกผู้ตายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญผู้ตายจึงถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4952/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นป้องกันตัว เหตุโจทก์มิได้โต้แย้งข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
โจทก์มิได้บรรยายข้อเท็จจริงโต้แย้งคำพิพากษาศาลฎีกามาในฎีกาเลยว่า ข้อเท็จจริงอย่างไรที่ถือว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบ ฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 193ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4471/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากการข่มขืนกระทำชำเรา: การกระทำพอสมควรแก่เหตุ
ผู้เสียหายใช้อาวุธปืนข่มขู่จำเลยเข้าไปในโรงแรมที่เกิดเหตุแล้วผู้เสียหายได้ปลุกปล้ำจำเลย จำเลยต่อสู้ปัดป้อง แต่สู้ไม่ได้เพราะผู้เสียหายเป็นชายมีรูปร่างสูงใหญ่ จำเลยจึงหลอกให้ผู้เสียหายวางอาวุธปืนโดยแกล้งทำเป็นสมยอม เมื่อผู้เสียหายวางอาวุธปืนไว้ที่โต๊ะข้างเตียงและถอดเสื้อผ้าออกแล้วเดินกลับขึ้นเตียง จำเลยจึงพลิกตัวไปหยิบอาวุธปืนยิงผู้เสียหาย 1 นัด กระสุนปืนถูกบริเวณทรวงอก แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย เช่นนี้ เป็นการที่จำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายเพื่อป้องกันมิให้ผู้เสียหายปลุกปล้ำกระทำอนาจารและข่มขืนกระทำชำเราจำเลย อันจำเลยจำต้องกระทำเพื่อให้ตนเองพ้นจากอันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และจำเลยได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4461/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: การใช้อาวุธปืนเพื่อหยุดยั้งการทำร้ายด้วยมีด
โจทก์ร่วมเป็นฝ่ายก่อเหตุเข้ามาตบจำเลยในสวนยางพาราของจำเลยแล้วใช้มีดแทงจำเลย จำเลยแย่งมีดจากโจทก์ร่วม แต่แย่งไม่ได้จึงใช้อาวุธปืนซึ่งจำเลยมีติดตัวยิงโจทก์ร่วม 1 นัด ถูกที่บริเวณขาขวาของโจทก์ร่วม การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงถูกบริเวณขาขวาของโจทก์ร่วมเพียง 1 นัดในขณะที่โจทก์ร่วมกำลังใช้มีดแทงจำเลยเพื่อไม่ให้โจทก์ร่วมแทงจำเลยต่อไปนั้น เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3206/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันเกินกว่าเหตุ: การใช้อาวุธปืนยิงต่อเนื่องหลังผู้เสียหายหมดสภาพต่อสู้
จำเลยเข้าจับกุมผู้เสียหายซึ่งเล่นการพนัน ผู้เสียหายต่อสู้โดยฟันจำเลยที่กกหูขวา การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้เสียหายที่หน้าท้อง ในขณะที่มีภยันตรายเพียงนัดเดียวก็เพียงพอแก่การที่จำเลยจะป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายแต่จำเลยยังยิงขาผู้เสียหายขณะผู้เสียหายกำลังหันหลังจะวิ่งหนีและจำเลยยังเข้าทำร้ายผู้เสียหายขณะล้มลงอีก โดยผู้เสียหายหมดโอกาสทำร้ายจำเลย การกระทำของจำเลยในตอนนี้จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตาม ป.อ. มาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3176/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายในความขัดแย้งส่วนตัว การกระทำจึงไม่เป็นการป้องกันตัวหรือบันดาลโทสะ
โจทก์ร่วมกับจำเลยโต้เถียงกันเรื่องเขตที่นา โดยจำเลยต่อว่าโจทก์ร่วมก่อนและชกต่อยกัน โจทก์ร่วมสู้ไม่ได้จึงใช้จอบตีจำเลยล้มลงและโจทก์ร่วมผละจากจำเลยเมื่อเห็นจำเลยล้มลงแล้ว จำเลยจึงใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงโจทก์ร่วม 1 นัด ขณะที่โจทก์ร่วมอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 5 วา พฤติการณ์เป็นการสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน และจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันและบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3167/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงตอบโต้หลังถูกทำร้าย: ป้องกันตัวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เข้าข่ายบันดาลโทสะ ศาลลดโทษเนื่องจากเหตุการณ์เชื่อมโยง
จำเลยถูกโจทก์ร่วมแทงที่ไหปลาร้า จำเลยโกรธ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แล้วกลับมาที่ร้านของตนเล่าเรื่องให้ภริยาทราบ เอาปืนจากร้านตนกลับไปยิงโจทก์ร่วมที่บริษัทที่โจทก์ร่วมอยู่ เมื่อในขณะที่จำเลยยิงโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมไม่ได้ทำร้ายหรือกำลังจะทำร้ายจำเลยจึงไม่มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายและถือไม่ได้ว่า จำเลยได้กระทำผิดต่อสู้ข่มเหงในขณะที่ถูกข่มเหงจึงไม่เป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ
of 89