คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผลกระทบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 167 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5926/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแรงงาน: การเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างต้องมีผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว จึงจะฟ้องได้
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า เดิมมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเกี่ยวกับอัตราเงินเดือนอยู่แล้ว ต่อมาจำเลยประกาศใช้ระเบียบใหม่ปรับปรุงอัตราเงินเดือนโดยแบ่งครึ่งของแต่ละลำดับโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณแก่โจทก์เนื่องจากจำเลยสามารถพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนให้โจทก์เพียงครึ่งขั้นในรอบปีได้ ซึ่งปกติโจทก์ควรจะได้รับการพิจารณาเลื่อน 1 ขั้นเป็นอย่างน้อย ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยได้นำบัญชีอัตราเงินเดือนที่ได้ประกาศใช้ใหม่มาใช้บังคับกับโจทก์แล้ว จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนบัญชีอัตราเงินเดือนดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2117/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องสอดคดีที่ดิน: การโต้แย้งสิทธิเจ้าของที่ดินและผลกระทบต่อสิทธิผู้ร้องสอด
คำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ขอให้เพิกถอนชื่อ ของจำเลยออกจาก น.ส. 3 ก. ซึ่งเป็นที่ดินพิพาท ขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสองและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองนั้นหากศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสองและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามคำขอท้ายฟ้องย่อมกระทบกระเทือนถึงสิทธิของผู้ร้องซึ่งอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของตน เป็นการโต้แย้งสิทธิทำให้ผู้ร้องสอดได้รับความเสียหาย ผู้ร้องสอดจึงมีสิทธิร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความเพื่อให้ได้รับความรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของผู้ร้องสอดที่มีอยู่ในที่ดินพิพาทนั้น ป.วิ.พ. มาตรา 57(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของสหภาพแรงงาน: ต้องแสดงสมาชิกภาพของลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ
โจทก์เป็นสหภาพแรงงานซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 98 ที่จะกระทำการอันใดอันหนึ่งเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉพาะ เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบใหม่ที่ออกมาใช้บังคับซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบเดิม และไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้างใหม่โดยมิได้บรรยายฟ้องว่า ลูกจ้างใหม่ที่จำเลยได้ทำสัญญาจ้างภายหลังวันที่ระเบียบใหม่มีผลใช้บังคับนั้นได้เป็นสมาชิกของโจทก์ด้วยหรือไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบฉบับใหม่ดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นโทษต่อลูกจ้างที่เข้ามาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1873/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของสหภาพแรงงาน: ต้องมีสมาชิกได้รับผลกระทบโดยตรง จึงจะฟ้องแทนได้
โจทก์เป็นสหภาพแรงงานซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 98 ที่จะกระทำการอันใดอันหนึ่งเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหภาพแรงงานโดยเฉพาะ เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบใหม่ที่ออกมาใช้บังคับซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบเดิม และไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้างใหม่โดยมิได้บรรยายฟ้องว่า ลูกจ้างใหม่ที่จำเลยได้ทำสัญญาจ้างภายหลังวันที่ระเบียบใหม่มีผลใช้บังคับนั้นได้เป็นสมาชิกของโจทก์ด้วยหรือไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนระเบียบฉบับใหม่ดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นโทษต่อลูกจ้างที่เข้ามาใหม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4469/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต้องมีผลถึงการแพ้ชนะคดี จึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำเบิกความซึ่งจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น จะต้องเป็นคำเบิกความในข้อสำคัญที่อาจทำให้คู่ความแพ้ชนะกันในประเด็นแห่งคดี
จำเลยเบิกความในคดีแพ่งว่าไม่เคยขอซื้อที่ดินของโจทก์ ในคดีนั้นมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีหรือไม่ด้วยศาลเชื่อว่าบิดาจำเลยได้ยกที่พิพาทให้จำเลยและจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว โดยมิได้หลงเชื่อตามคำเบิกความของจำเลยดังกล่าว ดังนี้ แม้คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจะเป็นเท็จจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2733/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างเนื่องจากจดทะเบียนสมรสซ้อน ไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบร้ายแรง หากไม่กระทบต่อการทำงานและชื่อเสียงนายจ้าง
กรณีใดจะถือเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 47(3) หรือไม่ ต้องพิจารณาตามข้อ 47 (3) นั้นเอง มิใช่ว่าข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างกำหนดว่าการกระทำใด ๆ เป็นกรณีที่ร้ายแรงแล้ว จะต้องถือว่าการกระทำนั้น ๆ เป็นกรณีที่ร้ายแรงตามข้อ 47(3) เป็นการเด็ดขาดไปเลยไม่ การจดทะเบียนสมรสซ้อนของโจทก์หาได้ส่งผลไปถึงชื่อเสียงเกียรติภูมิในทางดีหรือไม่ดีประการใดแก่จำเลยผู้เป็นนายจ้างไม่ ทั้งไม่เป็นเหตุให้เกิดความรังเกียจเดียดฉันท์ในระหว่างหมู่คณะของลูกจ้าง ไม่เป็นเหตุให้ขาดความสามัคคี ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน จนทำให้การทำงานไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่น แม้คำสั่งเลิกจ้างจะได้ระบุว่าการจดทะเบียนสมรสซ้อนของโจทก์ถือเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามข้อบังคับของจำเลย ก็หาเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีที่ร้ายแรงตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย ฯ ข้อ 47(3) ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีใช้เอกสารปลอม: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้เอกสารนั้น
จำเลยในฐานะครูใหญ่ยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์ประกอบใบลาป่วยต่อผู้จัดการโรงเรียนคือจำเลยเองโจทก์ซึ่งเป็นเพียงเจ้าของโรงเรียนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารกิจการของโรงเรียนในขณะนั้นแต่ประการใดแม้ใบรับรองแพทย์จะเป็นเอกสารปลอมแต่จำเลยมิได้ใช้เอกสารดังกล่าวแสดงต่อโจทก์โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายในข้อหาใช้เอกสารปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3141/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของพ.ร.บ.ล้างมลทินต่อการเพิ่มโทษผู้ต้องโทษเดิม
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทิน ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พ.ศ.๒๕๒๖มาตรา ๔ ประกาศใช้บังคับ มีผลให้ล้างมลทินแก่จำเลยที่๑ ซึ่งได้พ้นโทษไปแล้ว ก่อนวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับจึงเพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ ไม่ได้ แม้จำเลยที่ ๑มิได้ฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ของประชาชนศาลฎีกาแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1604/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการผ่าตัดตกแต่งจมูกประมาทเลินเล่อ ศาลพิจารณาความเสียหายตามอาการบาดเจ็บและผลกระทบต่อการทำงาน
จำเลยที่ 2 เป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เจ้าของคลีนิค ทำศัลยกรรมตกแต่งจมูกของโจทก์ด้วยความประมาท เลินเล่อเป็นเหตุให้จมูกอักเสบและมีเลือดคั่งที่หน้าผากต้องรักษา ประมาณ 2 เดือนเศษ ดังนี้ จำเลยทั้งสองต้องใช้ค่าเสียหายในการ ที่โจทก์เจ็บปวดทรมานค่าขาดประโยชน์ในการทำมาหาได้ และ ค่ารักษาพยาบาลจากแพทย์อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาหลังกระทำผิดและผลกระทบต่อการลงโทษ
ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานมีและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อลดโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกตลอดชีวิต จำคุก 8 เดือน และจำคุก 4 เดือนตามลำดับ เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุก 51 ปี แต่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ออกใช้บังคับ อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดและเป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดไม่ว่าในทางใด จึงลงโทษจำคุกจำเลย 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ที่แก้ไขใหม่
หมายเหตุ โปรดดูฎีกาที่ 3703/2526 ซึ่งวินิจฉัยแตกต่างกับฎีกาฉบับนี้
of 17