พบผลลัพธ์ทั้งหมด 179 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาวุธปืน: การมีอาวุธและเครื่องกระสุนที่ผิดกฎหมาย และพาอาวุธติดตัว
จำเลยมีอาวุธปืนพกชนิดประกอบขึ้นใช้กับกระสุนปืนขนาด .223 โดยเฉพาะและกระสุนปืน 1 นัด ขนาด .223 ซึ่งบรรจุอยู่ในอาวุธปืนนั้น แม้จะฟังได้ว่ากระสุนปืนนั้นเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ส่วนอาวุธปืนตามฟ้องและทางพิจารณาของโจทก์ไม่ปรากฏว่าเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเจตนาของจำเลยในการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้น เป็นการมีไว้เพื่อประสงค์อันเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดอาวุธปืน: การมีอาวุธและกระสุนที่ผิดกฎหมาย การพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยมีอาวุธปืนพกชนิดประกอบขึ้นใช้กับกระสุนปืนขนาด .223โดยเฉพาะและกระสุนปืน 1 นัด ขนาด .223 ซึ่งบรรจุอยู่ในอาวุธปืนนั้น แม้จะฟังได้ว่ากระสุนปืนนั้นเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎกระทรวง ส่วนอาวุธปืนตามฟ้องและทางพิจารณาของโจทก์ไม่ปรากฏว่าเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่ ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเจตนาของจำเลยในการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้น เป็นการมีไว้เพื่อประสงค์อันเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2433/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาซุกซ่อนของกลางแสดงความรู้ว่าผิดกฎหมาย แม้ปฏิเสธว่าไม่รู้
จำเลยรับฝากอาวุธปืนเอ็ม 79 กระสุนปืนและลูกระเบิดของกลางไว้จาก ส. ทหารพราน เมื่อตำรวจมาถาม จำเลยตอบว่าไม่รู้ ครั้นตำรวจพา ส. มาพบจำเลย จำเลยจึงพาไปเอาปืนและกระสุนที่กระท่อมนาของจำเลยและตำรวจค้นพบลูกระเบิดหมกอยู่ในกองแกลบใต้ถุนบ้านจำเลยการที่จำเลยปิดบังและซุกซ่อนของกลาง แสดงว่าจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นของที่ ส. มีไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงมีความผิดตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2588/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อหรือช่วยพาถ่านไม้ผิดกฎหมาย โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าผู้ได้มาเก็บหาในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
บันทึกคำฟ้องประกอบบันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงว่าจำเลยรับเอาถ่านไม้ของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของป่าที่มีผู้ได้มาโดยไม่รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่ได้เสียค่าภาคหลวง และจำเลยช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งถ่านไม้ดังกล่าว โดยมิได้ระบุว่าผู้ที่ได้ของกลางเป็นผู้เก็บหาของป่าหวงห้าม หรือเป็นผู้ทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29 วรรคแรก ฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 29, 70 ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูดแร่ผิดกฎหมายนอกเขตประทานบัตร: จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.แร่ และต้องริบแร่ของกลาง
จำเลยเป็นผู้ขับแพควบคุมคนงานออกดูดหาแร่ การออกหาแร่คราวหนึ่ง ๆ ในเวลาราว 5-6 วัน จำเลยได้ทำการดูดแร่นอกเขตประทานบัตรที่ได้รับอนุญาต มีแร่อยู่ในความครอบครองเกิน 2 กิโลกรัม แร่ที่ดูดขึ้นมาบนแพถือได้ว่าอยู่ในความครอบครองของจำเลย และแร่ของกลางนั้นเป็นแร่ที่อยู่นอกเขตเหมืองแร่ที่เก็บแร่นั้นไว้เป็นแร่ที่จำเลยได้มาไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย จำเลยมีความผิดและแร่ของกลางต้องริบตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแร่ผิดกฎหมายจากการดูดแร่นอกเขตประทานบัตร ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิมให้ริบแร่ของกลาง
จำเลยเป็นผู้ขับแพควบคุมคนงานออกดูดหาแร่ การออกหาแร่คราวหนึ่งๆใช้เวลาราว 5-6 วันจำเลยได้ทำการดูดแร่นอกเขตประทานบัตรที่ได้รับอนุญาต มีแร่อยู่ในความครอบครองเกิน 2 กิโลกรัม แร่ที่ดูดขึ้นมาบนแพถือได้ว่าอยู่ในความครอบครองของจำเลย และแร่ของกลางนั้นเป็นแร่ที่อยู่นอกเขตเหมืองแร่ที่เก็บแร่นั้นไว้เป็นแร่ที่จำเลยได้มาไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย จำเลยมีความผิดและแร่ของกลางต้องริบตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2967-2971/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดหยุดงานที่ผิดกฎหมายและการเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
การนัดหยุดงานนั้น เมื่อพิจารณาในแง่ของการกระทำแล้วก็ย่อมเรียกได้ว่าลูกจ้างแต่ละคนซึ่งร่วมในการนัดหยุดงานนั้นต่างได้ละทิ้งการงานซึ่งตามปกติตนมีหน้าที่ปฏิบัติให้แก่นายจ้างด้วยโจทก์นัดหยุดงานในระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ มาตรา 34(6) และกระทำไปในระหว่างที่มีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ให้ข้อพิพาทแรงงานเข้าสู่การชี้ขาดและห้ามนายจ้างปิดงานหรือลูกจ้างนัดหยุดงานในระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2519 ที่ห้ามลูกจ้างนัดหยุดงานโดยเด็ดขาด การนัดหยุดงานของโจทก์จึงเป็นความผิดอันมีโทษทางอาญาตามมาตรา 139 และ 141 ได้ และเมื่อการหยุดงานนั้นเป็นการละทิ้งหน้าที่อยู่ในตัวและนัดหยุดงานกันโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกัน จึงต้องถือว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุสมควรด้วย กรณีต้องด้วยมาตรา 31(4)ของพระราชบัญญัติดังกล่าว และข้อ 47(4) แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ จำเลยผู้เป็นนายจ้างจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2183/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนความผิดป่าไม้: ผู้รับจ้างบรรทุกไม้ผิดกฎหมาย ไม่ถือว่าครอบครอง แต่มีความผิดฐานสนับสนุน
จำเลยรับจ้างบรรทุกไม้ขึ้นบรรทุกรถยนต์โดยสารของจำเลยโดยรู้ว่าเป็นไม้หวงห้ามผิดกฎหมายโดยเจ้าของควบคุมไปด้วยยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีไม้ของกลางไว้ในความครอบครอง แต่เป็นผู้สนับสนุนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 861
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จ้างถางป่าผิดกฎหมาย ไม่ใช่ผู้เสียหาย แม้ถูกหลอกเอาเงิน
โจทก์จ้างจำเลยถางป่าผิด ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 แม้จำเลยหลอกลวงเอาเงินค่าจ้างโจทก์ โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย เพราะร่วมกระทำผิดกับจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2221/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางผิดกฎหมาย ศาลยังสามารถริบได้
เฮโรอีนเป็นของที่มีไว้เป็นความผิด แม้ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะจำเลยมิใช่ผู้มีเฮโรอีนนั้น ศาลก็ริบเฮโรอีนของกลาง