พบผลลัพธ์ทั้งหมด 181 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวไม่สิ้นสุดแม้ผู้ต้องหาได้รับนิรโทษกรรม สัญญาผูกพันจนกว่าจะถึงกำหนดส่งตัว
จำเลยทำสัญญาประกันตัว จ. ไว้กับพนักงานสอบสวนแล้วไม่ส่ง จ. ให้แก่พนักงานสอบสวนตามนัด เป็นการผิดสัญญา ถึงแม้ภายหลังจะมีพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมยกเว้นความผิดให้แก่ จ. ก็หาทำให้จำเลยพ้นจากความรับผิดตามสัญญาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2768/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยกับการนิรโทษกรรม: สัญญาแพ่งยังใช้บังคับแม้ผู้ต้องหาพ้นความผิดอาญา
จำเลยทำสัญญาขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวนกับโจทก์ ถ้าผิดสัญญาโดยส่งตัวผู้ต้องหาไม่ได้ ยอมใช้เงินแก่โจทก์จำนวนหนึ่ง ต่อมาจำเลยส่งตัวผู้ต้องหาไม่ได้ โจทก์ถือว่าจำเลยผิดสัญญาสั่งปรับตามสัญญา ถึงแม้ต่อมาจะมีพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมผู้ต้องหาพ้นความรับผิดโดยสิ้นเชิง และพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องแล้วก็ตาม ก็ย่อมไม่กระทบถึงสัญญาประกันระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งเป็นความรับผิดส่วนแพ่ง สัญญาประกันย่อมมีผลใช้บังคับไม่ถือว่าเป็นการชำระหนี้ที่พ้นวิสัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับสัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ศาลลดค่าปรับได้หากสูงเกินส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ค่าปรับตามสัญญาประกันผู้ต้องหาชั้นสอบสวนเป็นเบี้ยปรับถ้าสูงเกินส่วน ศาลลดลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา383
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การของผู้ต้องหาไม่เป็นความเท็จ แม้ข้อความไม่ตรงกับความจริง ก็ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 ผู้ต้องหาจะให้การอย่างใดหรือไม่ให้การเลยก็ได้ เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างใดก็ได้ แม้คำให้การของผู้ต้องหาจะไม่เป็นความจริง ก็ไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่าขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วสอบสวนจดคำให้การของจำเลยไว้ ต่อมามีพยานหลักฐานว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับรถชนผู้เสียหายมิใช่จำเลย พนักงานสอบสวนเห็นว่าคำให้การของจำเลยที่จดไว้เป็นความเท็จจึงแจ้งข้อหาจำเลยเพิ่มเติมว่าแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานดังนี้ คำให้การของจำเลยที่พนักงานสอบสวนจดไว้เป็นคำให้การในฐานะผู้ต้องหาแม้ไม่เป็นความจริง จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่าขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วสอบสวนจดคำให้การของจำเลยไว้ ต่อมามีพยานหลักฐานว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับรถชนผู้เสียหายมิใช่จำเลย พนักงานสอบสวนเห็นว่าคำให้การของจำเลยที่จดไว้เป็นความเท็จจึงแจ้งข้อหาจำเลยเพิ่มเติมว่าแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานดังนี้ คำให้การของจำเลยที่พนักงานสอบสวนจดไว้เป็นคำให้การในฐานะผู้ต้องหาแม้ไม่เป็นความจริง จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบตัวและให้การยอมรับผิดของผู้ต้องหาเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ แม้จะมีบาดแผลแต่ยังสามารถเคลื่อนไหวได้
จำเลยที่ 1 ถูกกระสุนปืนของเจ้าทรัพย์ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังสามารถเดินไปไหนได้ จำเลยได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานและให้การชั้นสอบสวนยอมรับว่า ได้ขึ้นไปและถูกยิงบนบ้านที่เกิดเหตุ ดังนี้ เป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานและให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ซึ่งนับว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษที่ศาลจะลดโทษให้จำเลยที่ 1 ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2413/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนเมื่อไม่ใช่ผู้ต้องหา: ไม่มีหน้าที่เปรียบเทียบจึงไม่เป็นความผิด
จำเลยเจรจาค่าเสียหายกับโจทก์ต่อหน้าพนักงานสอบสวนในการที่ส. ขับรถชนบุตรสาวโจทก์ และพนักงานสอบสวนได้ทำบันทึกไว้แม้จำเลยจะกล่าวความเท็จ แต่เมื่อจำเลยมิได้เป็นผู้ต้องหาในกรณีรถชนดังกล่าว พนักงานสอบสวนย่อมไม่มีหน้าที่ทำการเปรียบเทียบ การที่พนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบจึงไม่ถือเป็นการกระทำ โดยหน้าที่การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ แก่เจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานจากสายตำรวจ: การรับฟังคำให้การของผู้ที่ไม่ใช่ผู้ต้องหา
คำของผู้ซึ่งมิใช่ผู้ต้องหา แต่เป็นสายให้กับตำรวจฟังเป็นพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2690/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอคืนของกลางสงวนสำหรับเจ้าของที่แท้จริงที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ผู้ต้องหาที่รับสารภาพและคดีถึงที่สุดแล้วไม่มีสิทธิ
การขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 เป็นเรื่องที่คนอื่นยื่นคำร้องว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงและมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด หาใช่จำเลยในคดีเรื่องนั้นจะใช้สิทธิได้ด้วยไม่ ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยและสั่งริบของกลาง จำเลยมิได้อุทธรณ์ขอให้ศาลสั่งคืนของกลางที่ถูกริบและคดีถึงที่สุดแล้ว ศาลก็ต้องบังคับคดีไปตามนั้น จำเลยจะยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนของกลางหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมผู้ต้องหาในเคหสถานโดยไม่มีหมายค้น: เหตุอันสมควรและความชอบด้วยกฎหมาย
เจ้าพนักงานตำรวจเดินทางไปจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีคดีอยู่ตามหมายจับ พบผู้ต้องหาโดยกระทันหันก่อนจะได้ไปขอความร่วมมือจากเจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ ผู้ต้องหาหนีเข้าบ้านโจทก์จึงเข้าไปจับกุมได้ในทันใดนั้น ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157และ 364 แม้จะไม่มีหมายค้นเพราะเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรมิฉะนั้นผู้ต้องหาอาจหลบหนีไปได้ ผู้ที่เจ้าพนักงานตำรวจขอให้ช่วยเหลือจับกุมตามหมายจับก็ไม่มีความผิดเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2657/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจับกุมผู้ต้องหาในคดีอาญาแผ่นดิน แม้ไม่มีหมายจับ: การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน
โจทก์แจ้งความว่า ย. ทำร้ายร่างกายโจทก์ ขอให้ดำเนินคดีแก่ ย.แม้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 จำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับหมวดไม่มีอำนาจจับกุมโจทก์โดยไม่มีหมายจับ แต่อำนาจจับกุมตามมาตรา 78 นี้ ก็เป็นอำนาจโดยทั่ว ๆ ไปและมีมาตรา 136 บัญญัติเรื่องอำนาจพนักงานสอบสวนในการจับกุมและควบคุมไว้โดยเฉพาะเมื่อจำเลยเป็นพนักงานสอบสวนคดีที่หาว่า ย. กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และสอบสวนแล้วได้ความว่าโจทก์ก็เป็นผู้กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายด้วย เพราะเป็นเรื่องวิวาทกัน ซึ่งความผิดนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่มีผู้ใดร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ เจ้าพนักงานก็ย่อมจับกุมและควบคุมตัวผู้กระทำความผิดไว้สอบสวนได้ จำเลยจึงมีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวโจทก์ซึ่งมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าจำเลยในระหว่างการสอบสวนได้ เพียงเพราะเหตุที่จำเลยจับกุมและควบคุมตัวโจทก์ไว้โดยไม่มีหมายจับนั้น จะถือว่าจำเลยได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหาได้ไม่