คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยานเพิ่มเติม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 97 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2347/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม และอำนาจฟ้องของผู้ทรงเช็ค
การที่ศาลชั้นต้นจดรายงานไว้ว่า ก่อนสืบพยาน โจทก์ยื่นขอระบุพยานเพิ่มเติม ศาลสั่งอนุญาตและจ่ายสำเนาให้จำเลย โจทก์จะนำพยานคนที่ระบุเพิ่มเติมเข้าสืบ แต่จำเลยแถลงคัดค้านขออย่าให้ศาลอนุญาตให้โจทก์นำพยานปากนี้เข้าสืบ ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้โจทก์จำพยานดังกล่าวเข้าสืบได้ ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยานเพิ่มเติมไว้แล้ว จึงมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นได้
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือผู้ถือ เมื่อโจทก์มีเช็คพิพาทไว้ในความครอบครอง โดย น. ได้นำมาขอแลกเงินจากโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
ก่อนพยานเบิกความ ย่อมต้องสาบานตนว่าจะให้การตามสัตย์จริงและตอบคำถามของศาลในเรื่องนามของตนแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112, 116 เมื่อศาลชั้นต้นเขียนชื่อพยานว่า จ. จึงน่าเชื่อว่าพยานผู้นั้นคือ จ. จริง แต่เหตุใดพยานจึงเซ็นชื่อว่า พ. นั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงบ่งชัดว่าเป็นคนละคนกัน จ. ก็จะฟังว่ามิใช่ จ. ยังไม่ถนัด เพราะพยานอาจมีชื่ออีกชื่อหนึ่งก็ได้ เพียงเหตุนี้อย่างเดียวยังไม่พอจะทำให้ไม่รับฟังคำเบิกความของ จ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานฝ่ายตรงข้าม และขอบเขตการพิพากษาเกินคำขอ
การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนสืบไปหมดแล้ว คู่ความฝ่ายนั้นต้องแสดงเหตุผลอันสมควรที่ตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อ ประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใด เมื่อคำร้องของจำเลยที่ 2ที่ขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นไปแล้วมิได้แสดงเหตุผลดังกล่าวเพียงแต่อ้างว่าพลั้งเผลอเท่านั้น ศาลสั่งไม่อนุญาตจึงเป็นการชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์สินเป็นของตนทั้งหมดจากจำเลย แต่พิจารณาได้ความว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์พิพาทไม่เป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2658/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานฝ่ายตรงข้าม และการพิพากษาแบ่งทรัพย์สินแทนการคืนทั้งหมด
การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนสืบไปหมดแล้ว คู่ความฝ่ายนั้นต้องแสดงเหตุผลอันสมควรที่ตนไม่สามารถทราบได้ว่าต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อ ประโยชน์ของตน หรือไม่ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใด เมื่อคำร้องของจำเลยที่ 2 ที่ขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นไปแล้วมิได้แสดงเหตุผลดังกล่าวเพียงแต่อ้างว่าพลั้งเผลอเท่านั้น ศาลสั่งไม่อนุญาตจึงเป็นการชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์สินเป็นของตนทั้งหมดจากจำเลย แต่พิจารณาได้ความว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์พิพาท ไม่เป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2150/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานโจทก์บางส่วนยังทำได้ หากคดียังไม่เสร็จการสืบพยานทั้งหมด
ก่อนส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์หนึ่งปากที่ศาลอื่น ทนายโจทก์แถลงต่อศาลที่พิจารณาคดีว่าหมดพยานที่ศาลนี้แล้ว ครั้นศาลอื่นสืบพยานประเด็นเสร็จแล้ว ส่งประเด็นคืนศาลที่พิจารณาคดีนัดฟังประเด็นกลับ แต่ก่อนวันนัดฟังประเด็นกลับหนึ่งวัน จำเลยยื่นคำแถลงขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ดังนี้ ถือได้ว่าคดียังไม่เสร็จการสืบพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน จำเลยจึงยื่นเป็นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 2 หาต้องทำเป็นคำร้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลังสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลต้องให้โอกาสสืบหักล้างเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์ส่งอ้างเอกสารเป็นพยานในคดีหลังจากที่สืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว และโดยมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานนั้นไว้ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันเกี่ยวกับประเด็นในคดี แม้จะส่งยื่นขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจสั่งรับไว้เป็นพยานของศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคท้าย
ถ้าศาลจะรับฟังพยานเอกสารที่ส่งยื่นเป็นพยานเพิ่มเติมหลังจากที่ศาลสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว ศาลจะต้องให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งที่คัดค้านการส่งยื่นเอกสารนั้นได้มีโอกาสสืบหักล้างเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการนำสืบพยานเพิ่มเติมหลังศาลอนุญาตพยานฝ่ายตรงข้าม และหน้าที่ในการนำสืบเมื่อจำเลยต่อสู้ว่าสัญญากู้เป็นปลอม
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ถ้าศาลยอมรับฟังพยานจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายที่สืบภายหลัง โดยที่จำเลยไม่ได้ถามค้านโจทก์ไว้ขณะโจทก์เบิกความคู่ความที่ได้นำพยานสืบก่อนจะเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสืบอีกก็ได้ ถ้าโจทก์เพียงแต่ยื่นคำแถลงคัดค้านว่าคำสั่งศาลคลาดเคลื่อนด้วยกฎหมาย ขอโต้แย้งไว้ให้ศาลสูงวินิจฉัย โจทก์ไม่ได้ขอให้เรียกพยานที่เกี่ยวข้องของโจทก์มาสืบตามสิทธิที่มีอยู่ ดังนี้ จะว่าศาลไม่อนุญาตให้โจทก์นำพยานที่เกี่ยวข้องมาสืบอีกหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่จำเลยกู้ไป จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำสัญญากู้ไว้กับโจทก์ โจทก์เอาสัญญากู้ซึ่งไม่มีข้อความอื่น นอกจากจำเลยเซ็นชื่อในช่องผู้กู้ให้ ป.มากรอกข้อความแล้วเอามาฟ้อง ดังนี้ เท่ากับจำเลยสู้ว่าสัญญากู้นั้นปลอม โจทก์จึงต้องนำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อลูกจ้าง และการกำหนดค่าเสียหายจากละเมิดต่อร่างกาย ศาลไม่เห็นควรอนุญาตให้สืบพยานเพิ่มเติม
รถคันเกิดเหตุเป็นรถของผู้มีชื่อเอามาวิ่งร่วมวิ่งรับคนโดยสารในเส้นทางสัมปทานของจำเลยที่ 2 โดยแบ่งส่วนได้ให้จำเลยที่ 2 แต่เจ้าของรถต้องโอนรถให้มีชื่อบริษัทจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของในทะเบียนรถ คนขับ คนเก็บเงินต้องแต่งเครื่องแบบของบริษัท และรถก็ต้องทาสีของบริษัทด้วย ถือว่าจำเลยที่ 2 ได้มีและใช้รถคันเกิดเหตุในกิจการของจำเลยที่ 2 แล้ว ต้องถือว่าจำเลยที่ 2เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้ทำละเมิด (อ้างฎีกาที่1576/2506)
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่า เงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องโจทก์ได้เรียกร้องในฐานะที่จำเลยละเมิดต่อร่างกายโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446 แม้โจทก์จะไม่ได้ บรรยายรายละเอียดอันจะถือเป็นเกณฑ์คำนวณค่าเสียหายก็ดี หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ ศาลมีอำนาจที่จะกะค่าสินไหมทดแทนให้ตามสมควรแก่รูปคดีได้
จำเลยขอระบุพยานเพิ่มเติมเมื่อสืบพยานโจทก์ฝ่ายที่ต้องนำสืบเสร็จแล้ว โดยอ้างว่าเป็นพยานสำคัญที่จำเลยจำเป็นจะต้องนำมาสืบเพื่อประโยชน์ในคดีของจำเลย หากศาลเห็นว่าแม้จะอนุญาตให้จำเลยสืบพยานตามที่ระบุไว้นั้น ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น จะไม่อนุญาตให้จำเลยอ้างพยานเพิ่มเติมก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตระบุพยานเพิ่มเติมโดยไม่พิจารณาเหตุผลตามกฎหมาย ทำให้คู่ความเสียเปรียบเป็นคำสั่งไม่ชอบ
โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอระบุพยานเพิ่มเติม โดยอ้างว่าเข้าใจผิดว่าได้ระบุพยานนั้นไว้แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตโดยมิได้วินิจฉัยถึงเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 3เป็นการทำให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบ คำสั่งของศาลชั้นต้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751-752/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลตัดพยาน, การรับฟังพยานเพิ่มเติม, และผลของใบมอบอำนาจที่มิได้กรอกรายละเอียด
ศาลมีอำนาจตัดหรืองดสืบพยานตามที่เห็นสมควรเพื่อให้คดีดำเนินไปโดยไม่ชักช้าในกรณีที่ศาลสอบทนายโจทก์ว่าจะสืบพยานต่อไปในข้อใดและทนายโจทก์แถลงว่ายังแถลงไม่ได้ขอสงวนไว้ก่อนแม้ทนายอีกฝ่ายแถลงว่าพยานที่จะสืบข้อใดหากรับข้อเท็จจริงได้ก็จะรับเพื่อไม่ให้คดีล่าช้าทนายโจทก์ก็ยังยืนยันเช่นเดิมดังนี้ การที่ทนายโจทก์ไม่แถลงให้ศาลทราบการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลจึงชอบจะงดสืบพยานโจทก์ต่อไปได้
คำสั่งให้งดสืบพยานไม่ใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแห่งคดี
ผู้พิพากษานายเดียวมีอำนาจสั่งได้ตามมาตรา 21 แห่งธรรมนูญศาลยุติธรรม
การที่ศาลอนุญาตให้อ้างพยานเพิ่มเติมโดยมิได้สอบถามคู่ความอีกฝ่ายนั้น แม้จะเป็นการผิดระเบียบวิธีพิจารณาอยู่บ้างแต่ถ้าไม่เสียความเป็นธรรมแก่คู่ความอีกฝ่ายแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
ลงชื่อในใบมอบอำนาจโดยมิได้กรอกข้อความเพื่อให้ผู้อื่นทำการแทนถือว่าเป็นการกระทำที่ทำให้บุคคลภายนอกหลงเชื่อจำต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 822,821
โจทก์ฟ้อง จำเลยต่อสู้ว่าได้ทำนิติกรรมขายฝากโดยมิได้รับอนุญาตจากสามีและสามีได้บอกล้างแล้วดังนี้ คดีมีประเด็นที่จะต้องนำสืบว่าสามีจำเลยได้อนุญาตหรือไม่ทั้งสองฝ่ายมีสิทธินำสืบข้อเท็จจริงในประเด็นข้อนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อต่อสู้และขออ้างพยานเพิ่มเติมในชั้นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และการพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องในชั้นฎีกาว่า ลายมือชื่อในเอกสารปลอม จำเลยได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ถ้าศาลฎีกาเห็นสมควร ก็ขอให้รอการพิพากษาไว้จนกว่าคดีอาญาถึงที่สุด เมื่อทางพิจารณาควรฟังเป็นยุติได้แล้ว ศาลฎีกาก็พิพากษาคดีไปโดยไม่รอคดีอาญาตามคำร้องจำเลย
จำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอปฏิเสธและขอบอกเลิกเพิกถอนคำแถลงด้วยวาจาและเอกสารของทนายจำเลยคนแรก และให้ถือตามข้อต่อสู้เดิมแต่ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น เพิ่งจะร้องขอเปลี่ยนแปลงประเด็นในชั้นอุทธรณ์ ย่อมไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และเมื่อศาลฎีกาสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเพิกถอนคำแถลงการณ์ด้วยวาจาและเอกสารของทนายคนแรกของจำเลยแล้ว การอ้างพยานเพิ่มเติมตามคำร้องนี้ก็ไม่จำเป็นแก่คดีต่อไป
of 10