พบผลลัพธ์ทั้งหมด 103 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จตาม ม.158 ก.ม.ลักษณะอาญา ต้องเป็นการฟ้องในทางอาญาเท่านั้น
การฟ้องเท็จตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.158 นั้น เป็นเรื่องแกล้งเอาความที่รู้อยู่วาเป็นความเท็จไปร้องเรียน หรือฟ้องกล่าวโทษผู้อื่นการร้องเรียนหรือฟ้องกล่าวโทษนี้ มุ่งหมายถึงการร้องเรียนหรือฟ้องกล่าวโทษในทางอาญา (อ้างฎีกาที่ 434-435/2472) และ 38/2491 ถ้าเป็นฟ้องเท็จในทางแพ่ง ยังไม่เป็นผิดตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จตามมาตรา 158 ต้องเป็นการฟ้องในคดีอาญาเท่านั้น การฟ้องแพ่งไม่ถือว่าเป็นการฟ้องเท็จ
การฟ้องเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158 นั้น เป็นเรื่องแกล้งเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จไปร้องเรียน หรือฟ้องกล่าวโทษผู้อื่นการร้องเรียนหรือฟ้องกล่าวโทษนี้มุ่งหมายถึงการร้องเรียนหรือฟ้องกล่าวโทษในทางอาญา(อ้างฎีกาที่ 434-435/2472 และ38/2491) ถ้าเป็นฟ้องเท็จในทางแพ่ง ยังไม่เป็นผิดตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จต้องเป็นการฟ้องอาญา ไม่ใช่คดีแพ่ง
การฟ้องเท็จตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 158 นั้น ต้องเป็นการฟ้องในคดีอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จในคดีแพ่งและการนำสืบพยานที่ไม่เคยเบิกความในคดีเดิม
การฟ้องเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158 นั้นต้องเป็นการฟ้องในคดีอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีแพ่งเท็จไม่เป็นความผิดตามมาตรา 158, 159 อาญา หากไม่มีคำขอให้ลงอาญา
ฟ้องกล่าวโทษหรือฟ้องว่าเกิดการกระทำผิดขึ้นตามความในกฎหมายอาญามาตรา 158, 159 นั้นเป็นเรื่องฟ้องว่ากระทำความผิดในทางอาญา
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จตาม ม.158, 159.
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จตาม ม.158, 159.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดฐานฟ้องเท็จ: ข้อความกล่าวหาต้องเป็นคำฟ้องกล่าวโทษและระบุความผิดครบถ้วน
เมื่อข้อความที่โจทก์หาว่าจำเลยฟ้องเท็จไม่มีลักษณเป็นคำฟ้องโดยไม่ได้ระบุข้อความอันเป็นองค์แห่งความผิดให้ครบถ้วน ตาม ประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) นั้น การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานฟ้องเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนตามกฎหมาย หากข้อความกล่าวหาไม่เป็นคำฟ้องกล่าวโทษที่ระบุองค์ความผิดครบถ้วน ไม่เป็นความผิดฐานฟ้องเท็จ
เมื่อข้อความที่โจทก์ว่าจำเลยฟ้องเท็จ ไม่มีลักษณเป็นคำฟ้องโดยไม่ได้ระบุข้อความอันเป็นองค์แห่งความผิดให้ครบถ้วน ตาม ประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) นั้น การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานฟ้องเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จต้องแสดงเจตนาว่ารู้ข้อความเท็จ การกล่าวอ้างแค่ฟ้องเท็จไม่เป็นความผิด
เพียงแต่กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้สาบาลตัวแล้วฟ้องเท็จ เท่านั้นไม่เป็นมูลความผิดฐานฟ้องเท็จจะต้องกล่าวด้วยว่าจำเลยรู้อยู่ว่าข้อความนั้นเป็นเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจออกหมายจับในความผิดฟ้องเท็จ: เกณฑ์อัตราโทษ 3 ปีขึ้นไป
ความผิดฐานฟ้องเท็จอันมีอัตราโทษอย่างสูง 3 ปีนั้น นายตำรวจมีอำนาจที่จะออกหมายจับได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.66
อุทธรณ์ฎีกา คดีอาญาทีศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย
อุทธรณ์ฎีกา คดีอาญาทีศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฟ้องเท็จ: เจตนาสำคัญ - การฟ้องคดีอาญาโดยเข้าใจผิด ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยฟ้องเขาเป็นคดีอาญาโดยเข้าใจผิดซึ่งที่แท้จำเลยควรฟ้องเขาเป็นคดีแพ่ง เพียงเท่านี้ยังไม่พอจะลงโทษจำเลยฐานฟ้องเท็จได้