พบผลลัพธ์ทั้งหมด 196 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวโดยการรับชำระหนี้ด้วยทรัพย์สิน ทำให้สิทธิในการฟ้องอาญาเป็นอันระงับ
จำเลยได้ยักยอกสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายไป ต่อมาผู้เสียหายตกลงยอมความกับจำเลยโดยยอมรับบ้านจำเลยเป็นการตีใช้หนี้ค่าสร้อยคอทองคำดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการตกลงยอมความทั้งในทางอาญาและทางแพ่งแล้ว เมื่อคดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีพนัน: การฟ้องดำเนินคดีซ้ำในความผิดกรรมเดียว ย่อมระงับตามกฎหมาย
จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันป๊อกที่บ้านจำนวน2 วง โดยแต่ละวงมีผู้เข้าร่วมเล่นหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1จึงเป็นความผิดกรรมเดียว แต่โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็น 2 คดีตามจำนวนวงการพนันในข้อหาว่าเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันป๊อกเมื่อคดีสำนวนหนึ่งศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดลงโทษจำเลยที่ 1ไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 อีกคดีหนึ่งย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5036-5038/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวกัน: ยักยอกเงินกับปลอมเอกสาร ทำให้สิทธิฟ้องความผิดฐานปลอมเอกสารระงับเมื่อถูกตัดสินคดีฐานยักยอกแล้ว
จำเลยเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชีธนาคาร ทำปลอมสมุดเงินฝากของผู้เสียหายทั้งสาม จากนั้นนำไปอ้างต่อผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าจำเลยนำเงินของผู้เสียหายฝากธนาคารเรียบร้อยแล้วการปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมแม้จะเกิดขึ้นต่างวาระกันกับความผิดฐานยักยอกก็ตามแต่จำเลยมีเจตนาที่จะใช้เอกสารปลอมดังกล่าวเป็นหลักฐานเพื่อยักยอกเงินของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวกัน เมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานยักยอกคดีถึงที่สุดแล้ว สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยในความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ก็ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5036-5038/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวกัน: ยักยอกเงินใช้เอกสารปลอม สิทธิฟ้องระงับตามมาตรา 39(4)
จำเลยเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชีธนาคาร ทำปลอมสมุดเงินฝากของผู้เสียหายทั้งสามจากนั้นนำไปอ้างต่อผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าจำเลยนำเงินของผู้เสียหายฝากธนาคารเรียบร้อยแล้วการปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมแม้จะเกิดขึ้นต่างวาระกันกับความผิดฐานยักยอกก็ตาม แต่จำเลยมีเจตนาที่จะใช้เอกสารปลอมดังกล่าวเป็นหลักฐานเพื่อยักยอกเงินของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวกัน เมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานยักยอกคดีถึงที่สุดแล้ว สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยในความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ก็ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4708/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาเรื่องการชี้สองสถาน ทำให้สิทธิอุทธรณ์ระงับ
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาท ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วสั่งยกคำร้องของโจทก์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์มิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวไว้ จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 353/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยอมความในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ สิทธิฟ้องระงับ
ผู้เสียหายแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาฉ้อโกงเงิน 100,000 บาท เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยจำเลยได้ยกเครื่องถ่ายเอกสารตีใช้หนี้ให้ผู้เสียหายเป็นเงิน 50,000บาท ต่อมาจำเลยไม่ชำระเงินที่เหลือและผิดสัญญาประกันชั้นสอบสวนผู้เสียหายจึงนำเจ้าพนักงานตำรวจไปจับกุมจำเลยมาพบพนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวนให้ผู้เสียหายกับจำเลยเจรจากัน จำเลยได้ชำระเงินให้ผู้เสียหายเป็นเงิน 9,000 บาท และเจ้าพนักงานตำรวจคุมตัวจำเลยไปพบ ช.เพื่อนของจำเลยโดยมีผู้เสียหายไปด้วยช.ได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน 40,000 บาทให้แก่ผู้เสียหายแล้วเจ้าพนักงานตำรวจก็ปล่อยตัวจำเลยไปโดยผู้เสียหายไม่คัดค้านและไม่กลับไปแจ้งผลการเจรจาตกลงกับจำเลยให้พนักงานสอบสวนทราบ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่า ผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาฉ้อโกงตามที่แจ้งความไว้อีกต่อไป เป็นการยอมความกันในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็มีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 353/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยอมความในคดีอาญา: สิทธิฟ้องระงับ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร
ผู้เสียหายแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาฉ้อโกงเงิน 100,000 บาท เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลย จำเลยได้ ยกเครื่องถ่าย เอกสารตี ใช้ หนี้ให้ผู้เสียหายเป็นเงิน50,000 บาท ต่อมาจำเลยไม่ชำระเงินที่เหลือและผิดสัญญาประกันชั้นสอบสวน ผู้เสียหายจึงนำเจ้าพนักงานตำรวจไปจับกุมจำเลยมาพบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนให้ผู้เสียหายกับจำเลยเจรจากันจำเลยได้ ชำระเงินให้ผู้เสียหายเป็นเงิน 9,000 บาท และเจ้าพนักงานตำรวจคุมตัวจำเลยไปพบ ช. เพื่อนของจำเลยโดย มีผู้เสียหายไปด้วย ช. ได้ ออกเช็ค สั่งจ่ายเงินจำนวน 40,000 บาทให้แก่ผู้เสียหายแล้วเจ้าพนักงานตำรวจก็ปล่อยตัว จำเลยไปโดยผู้เสียหายไม่คัดค้านและไม่กลับไปแจ้งผลการเจรจาตกลง กับจำเลยให้พนักงานสอบสวนทราบ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาฉ้อโกงตามที่แจ้งความไว้อีกต่อไป เป็นการยอมความกันในคดีอาญา ความผิดต่อส่วนตัว แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็มีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3289/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความระงับสิทธิเรียกร้อง ผู้รับประกันภัยไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม
โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยในการขนส่งสินค้าที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ผู้รับตราส่งสั่งซื้อจากประเทศสิงค์โปร มายังท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของบริษัทผู้ขายในการขนส่งสินค้าดังกล่าว และได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ให้ขนถ่ายสินค้านั้นลงจากเรือไปโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อปรากฏว่าสินค้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ผู้รับตราส่งที่ส่งมาทางทะเลนั้นสูญหาย และฝ่ายจำเลยทั้งสองซึ่งต้องรับผิดในการสูญหายของสินค้าดังกล่าวได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ตามข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งที่ระบุไว้ในใบตราส่งครบถ้วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. และจำเลยทั้งสองแล้ว เช่นนี้จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเหลืออยู่ให้โจทก์ผู้รับประกันภัยรับช่วงมาฟ้องเรียกร้องเอาแก่จำเลยทั้งสองอีก ถึงแม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ตามพันธะ ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยนอกจากที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ได้รับจากจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็ตาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3271/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับสิทธิฟ้องคดีอาญาและการขอคืนทรัพย์สินเมื่อจำเลยถึงแก่ความตาย
ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรและมีคำขอให้จำเลยคืนทรัพย์สินหรือใช้ราคาแทนผู้เสียหายด้วย แม้ผู้เสียหายจะเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการก็ตามเมื่อจำเลยถึงแก่ความตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์และโจทก์ร่วมย่อมระงับไป และคำขอให้คืนทรัพย์สินหรือใช้ราคาย่อมตกไปด้วย จึงต้องจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายสินสมรสระงับด้วยสัญญาประนีประนอม การจัดการสินสมรสต้องผูกพันสินสมรสโดยตรง
ส. ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและบ้านอันเป็นสินสมรสของโจทก์และ ส. ให้กับจำเลยแล้วผิดสัญญา จำเลยจึงฟ้องเรียกเบี้ยปรับและมัดจำคืน ส. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลยอมชำระเบี้ยปรับและคืนเงินมัดจำให้จำเลย ดังนี้ สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและบ้านได้ระงับไปแล้วด้วยผลแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852โจทก์ซึ่งเป็นสามี จะฟ้องขอให้เพิกถอนมิได้ ส่วนสัญญาประนีประนอมยอมความก็เป็นนิติกรรมเกี่ยวกับหนี้เงิน มิได้ทำขึ้นเพื่อผูกพันสินสมรสโดยเฉพาะ จึงมิใช่เป็นการจัดการสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476, 1477 และ 1480 โจทก์ซึ่งเป็นสามีจะฟ้องขอให้เพิกถอนมิได้เช่นเดียวกัน.