พบผลลัพธ์ทั้งหมด 94 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องมีเจตนาระงับข้อพิพาท สัญญาให้ทรัพย์โดยไม่มีเจตนาดังกล่าว ไม่ถือเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญายกให้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่มีผลบังคับ
เมื่อข้อความในสัญญาที่โจทก์อ้าง มีข้อความแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยจะให้ที่ดินครั้งนี้เพราะโจทก์เป็นบุตรบุญธรรมของนางกีเจ้าของเดิม ซึ่งบอกว่าให้แก่โจทก์ตั้งแต่ก่อนที่นางกีโอนที่พิพาทให้แก่จำเลย ไม่มีข้อความตอนใดระบุว่า เป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยเลยสัญญาดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่จำเลยจะยกที่ดินให้โจทก์ตามที่นางกีได้เคยพูดไว้เท่านั้น ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.พ.พ.มาตรา 850
เมื่อข้อความในสัญญาที่โจทก์อ้าง มีข้อความแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยจะให้ที่ดินครั้งนี้เพราะโจทก์เป็นบุตรบุญธรรมของนางกีเจ้าของเดิม ซึ่งบอกว่าให้แก่โจทก์ตั้งแต่ก่อนที่นางกีโอนที่พิพาทให้แก่จำเลย ไม่มีข้อความตอนใดระบุว่า เป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยเลยสัญญาดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่จำเลยจะยกที่ดินให้โจทก์ตามที่นางกีได้เคยพูดไว้เท่านั้น ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.พ.พ.มาตรา 850
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ลักษณะสำคัญและการพิสูจน์ข้อตกลงระงับข้อพิพาท
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญายกให้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่มีผลบังคับ
เมื่อข้อความในสัญญาที่โจทก์อ้าง มีข้อความแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยจะให้ที่ดินครั้งนี้เพราะโจทก์เป็นบุตรบุญธรรมของนางกีเจ้าของเดิม ซึ่งบอกว่าให้แก่โจทก์ตั้งแต่ก่อนที่นางกีโอนที่พิพาทให้แก่จำเลย ไม่มีข้อความตอนใดระบุว่า เป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยเลยสัญญาดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่จำเลยจะยกที่ดินให้โจทก์ตามที่นางกีได้เคยพูดไว้เท่านั้น ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850
เมื่อข้อความในสัญญาที่โจทก์อ้าง มีข้อความแสดงให้เห็นว่าการที่จำเลยจะให้ที่ดินครั้งนี้เพราะโจทก์เป็นบุตรบุญธรรมของนางกีเจ้าของเดิม ซึ่งบอกว่าให้แก่โจทก์ตั้งแต่ก่อนที่นางกีโอนที่พิพาทให้แก่จำเลย ไม่มีข้อความตอนใดระบุว่า เป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยเลยสัญญาดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่จำเลยจะยกที่ดินให้โจทก์ตามที่นางกีได้เคยพูดไว้เท่านั้น ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระงับข้อพิพาทโดยใช้พยานคนกลางมีผลผูกพัน คู่กรณีไม่อาจโต้แย้งการให้การภายหลังได้
ข้อตกลงระงับข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินชั้นอำเภอเปรียบเทียบที่มีเงื่อนไขว่าให้ฟังคำให้การพยานคนกลางเป็นข้อชี้ขาด เมื่อพยานได้ให้การไปแล้ว ฝ่ายใดจะยกขึ้นมาโต้แย้งว่าพยานคนกลางให้การไม่ตรงต่อความเป็นจริงอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับข้อพิพาทด้วยการประนีประนอมยอมความและการสิ้นสุดคดีอาญา
อัยการโจทก์และผู้เสียหายโจทก์ร่วมฟ้องว่าจำเลยบุกรุกขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 327
ปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยตกลงยอมขยับรั้วเข้ามาตามแนวที่ศาลชี้ ทนายโจทก์ร่วมและผู้รับมอบฉันทะจากผู้เสียหาย(โจทก์ร่วม)ให้ทำการประนีประนอมยอมความได้ ได้ยอมรับข้อตกลงนี้และแถลงว่าจะได้ถอนฟ้องให้เสร็จไป ดังนี้ถือว่าทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน เข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850,851,852
เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามยอมแล้วคดีก็ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) การที่โจทก์ร่วมว่าจะถอนฟ้องเมื่อจำเลยปฏิบัติแล้วนั้น ก็มีความหมายเพียงเพื่อให้ศาลจำหน่ายคดีเสร็จไปตามวิธีปฏิบัติของศาล ทั้งจะถอนหรือไม่ถอนก็มีผลไม่ต่างกันและอัยการไม่มีสิทธิจะดำเนินคดีต่อไปได้
ปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยตกลงยอมขยับรั้วเข้ามาตามแนวที่ศาลชี้ ทนายโจทก์ร่วมและผู้รับมอบฉันทะจากผู้เสียหาย(โจทก์ร่วม)ให้ทำการประนีประนอมยอมความได้ ได้ยอมรับข้อตกลงนี้และแถลงว่าจะได้ถอนฟ้องให้เสร็จไป ดังนี้ถือว่าทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน เข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850,851,852
เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามยอมแล้วคดีก็ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) การที่โจทก์ร่วมว่าจะถอนฟ้องเมื่อจำเลยปฏิบัติแล้วนั้น ก็มีความหมายเพียงเพื่อให้ศาลจำหน่ายคดีเสร็จไปตามวิธีปฏิบัติของศาล ทั้งจะถอนหรือไม่ถอนก็มีผลไม่ต่างกันและอัยการไม่มีสิทธิจะดำเนินคดีต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมระงับข้อพิพาทมีผลผูกพันตามเจตนาของคู่สัญญา การแบ่งทรัพย์สินตามพินัยกรรมและสินสมรส
บุตรภริยาเจ้ามรดกทำสัญญาประนีประนอมให้แบ่งทรัพย์ไปตามพินัยกรรม (พินัยกรรมจะเป็นโมฆะหรือไม่ก็ดี) ส่วนทรัพย์นอกพินัยกรรมให้เป็นของภริยาเจ้ามรดกฝ่ายเดียวสัญญานี้บังคับได้ทุกข้อตลอดจนข้อที่ตกลงกันถึงทรัพย์นอกพินัยกรรมด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งแยกโฉนดและการระงับข้อพิพาท: สัญญาประนีประนอมยอมความต้องทำเป็นหนังสือ
เจ้าของร่วมตกลงแบ่งแยกโฉนดกัน ตกลงกำหนดลงไปว่าใครได้ตรงไหนแน่ เช่นนี้ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้เสร็จไปจึงเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา850
ข้อตกลงที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งยอมให้ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งผ่านที่ ที่ตนได้รับในการแบ่งแยกนั้น ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของการตกลงแบ่งแยกโฉนดดังกล่าวเมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะนำมาฟ้องร้องให้บังคับหาได้ไม่
ข้อตกลงที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งยอมให้ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งผ่านที่ ที่ตนได้รับในการแบ่งแยกนั้น ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของการตกลงแบ่งแยกโฉนดดังกล่าวเมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะนำมาฟ้องร้องให้บังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระงับข้อพิพาท (สัญญาประนีประนอมยอมความ) กรณีเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปี เช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่า ต่อมาผู้เช่าตกเป็น
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การระงับข้อพิพาทสัญญาสร้างบนที่เช่า และผลผูกพันตามสัญญา
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปีเช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่าต่อมาผู้เช่าตกเป็นบุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พระราชบัญญัติว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบคุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส.จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500 บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไปสิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส.แต่ขอร้องให้ก.ท.ส.ให้โอกาสรับซื้อก่อนคนอื่นเมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากันดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 แล้วถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมต้องมีข้อระงับข้อพิพาท การยื่นคำร้องถอนอุทธรณ์ไม่ใช่สัญญาประนีประนอม
คำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์มีข้อความกล่าวอ้างว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมายอมความเลิกความไม่ติดใจว่ากล่าวกันต่อไป แต่ไม่มีข้อความแสดงว่าได้มีการระงับข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาด้วยกันต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันอย่างใด นั้นเรียกไม่ได้ว่าเป็นหลักฐานสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 850 คงเป็นแต่เพียงคำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความต้องระงับข้อพิพาท ไม่ใช่แค่ยอมผ่อนผัน
คำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์มีข้อความกล่าวอ้างว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความเลิกความไม่ติดใจว่ากล่าวกันต่อไปแต่ไม่มีข้อความแสดงว่าได้มีการระงับข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาด้วยกันต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันอย่างใดนั้นเรียกไม่ได้ว่าเป็นหลักฐานสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 คงเป็นแต่เพียงคำร้องขอถอนฟ้องอุทธรณ์เท่านั้น