พบผลลัพธ์ทั้งหมด 87 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจการริบทรัพย์ของกลาง: ศาลมีอำนาจพิจารณาตามข้อเท็จจริง
การจะริบทรัพย์ของกลางหรือไม่นั้นเป็นดุลยพินิจของศาลซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงอ้างฎีกาที่ 810/2468
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย10บาทริบปืนของกลางศาลอุทธรณ์แก้ไม่ให้ริบปืนของกลางดังนี้ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ม.220
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย10บาทริบปืนของกลางศาลอุทธรณ์แก้ไม่ให้ริบปืนของกลางดังนี้ฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ม.220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจดุลยพินิจศาลในการริบทรัพย์: การที่ศาลอุทธรณ์ไม่ริบทรัพย์เป็นดุลยพินิจที่โจทก์ไม่อาจฎีกาได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย 400 บาท และให้ริบยางของกลาง ศาลอุทธรณ์แก้ให้คืนยางของกลางให้จำเลยไปส่วนโทษปรับคงพิพากษายืนดังนี้ โจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้
การจะให้ริบทรัพย์หรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาลซึ่งถือว่าเป็นข้อเท็จจริง
การจะให้ริบทรัพย์หรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาลซึ่งถือว่าเป็นข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1299/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกทรัพย์จากภริยาร้างกรณีชู้สาว ศาลไม่อนุญาตริบทรัพย์ตามกฎหมาย
ภรรยาร้างทำชู้ด้วยชายอื่น สามีจะฟ้องขอให้ศาลริบทรัพย์ของภรรยาให้แก่ตนมิได้ ฎีกาที่ 1051/2472 อุทธรณ์ฎีกา ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.249 ข้อที่มิได้ยกขึ้นมาเป็นข้อโต้เถียงในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องริบทรัพย์กรณีมีชู้ ต้องพิสูจน์การตั้งครรภ์กับชู้ หากพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ต้องวินิจฉัยเรื่องริบทรัพย์
ผัวเมีย ชายชู้ วิธีพิจารณาแพ่งฟ้องว่าเมียมีชู้ขอให้ริบทรัพย์ เมื่อทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าเมียมีชู้แล้ว ก็ไม่ต้องวินิจฉัยถึงเรื่องริบทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 189/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องชายชู้และการริบทรัพย์ เมื่อสิทธิฟ้องฐานชายชู้หมดไป สิทธิริบทรัพย์ก็สิ้นสุดตามไปด้วย
ลักษณผัวเมียชายชู้ ริบทรัพย์เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะฟ้องฐานชายชู้แล้วก็ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ริบทรัพย์ด้วย เทียบฎีกา 134/61
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภรรยาร้าง ชู้ ไม่ริบทรัพย์: กฎหมายสินสมรสและขอบเขตการคุ้มครอง
เมียร้างมีชู้ไม่ริบทรัพย์ แปลกฎหมายสินสมรสเมียร้างริบได้เพียงใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10492/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์จากการประมงผิดกฎหมาย แม้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างพิจารณาคดี กฎหมายเดิมยังใช้บังคับ
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 และศาลฎีกา มีพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ใช้บังคับ โดยให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2558 ซึ่งให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิด และให้ใช้บทบัญญัติใหม่แทน แต่กฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดไม่เป็นคุณแก่จำเลยทั้งสิบห้าในส่วนโทษปรับและการริบทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง (1), 82 และ 98 และ พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 69, 147 วรรคหนึ่ง และ 169 จึงต้องใช้กฎหมายเดิมบังคับแก่จำเลยทั้งสิบห้า ตาม ป.อ. มาตรา 3 วรรคแรก ซึ่งมาตรา 69 (เดิม) บัญญัติว่า เครื่องมือทำการประมง เรือ สัตว์น้ำ และสิ่งอื่น ๆ ที่ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ศาลจะริบเสียก็ได้ แต่ถ้าเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 19 หรือมาตรา 20 ให้ศาลริบสิ่งเช่นว่านั้นเสียทั้งสิ้น และมาตรา 70 (เดิม) บัญญัติว่า เครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศตามความในมาตรา 32 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้โดยเด็ดขาดนั้น ถ้านำมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ให้ศาลริบเครื่องมือนั้นเสีย เมื่อจำเลยทั้งสิบห้าใช้เรือยนต์ประมงในการกระทำความผิดและนำเครื่องมืออวนล้อมจับอันเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ได้มีประกาศห้ามใช้โดยเด็ดขาดมาใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้ริบจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16137/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ในคดียาเสพติด ต้องพิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่างทรัพย์สินกับการกระทำความผิดโดยตรง
การจะริบทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 30 วรรคหนึ่ง นั้น ผู้ร้องมีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาไต่สวนให้ได้ความว่าทรัพย์สินดังกล่าวเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นคนละส่วนกับคดีที่ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดถูกฟ้องอันเป็นคดีหลัก แม้ในคดีหลักจำเลยจะให้การรับสารภาพ แต่เมื่อทางนำสืบของผู้ร้องได้ความเพียงว่าเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลางได้ที่ตัวจำเลย โดยซุกซ่อนไว้ที่ขอบกางเกงที่จำเลยสวมอยู่ และผู้ร้องไม่นำสืบให้เห็นว่า จำเลยใช้รถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะสำหรับการมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอย่างไร หรือจำเลยมีเจตนาที่จะใช้รถจักรยานยนต์ของกลางเป็นประโยชน์ในการกระทำความผิดคดีนี้อย่างไร ดังนั้น รถจักรยานยนต์ของกลางเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยใช้เดินทางมายังสถานที่เกิดเหตุ มิใช่เป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันจะพึงริบได้ตามมาตรา 30 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6850/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสมควรยื่นคำร้องริบทรัพย์หลังศาลตัดสิน: ความล่าช้าในการตรวจสอบทรัพย์สินเป็นเหตุสมควรได้
เหตุอันสมควรที่แสดงได้ว่าผู้ร้องไม่สามารถยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 27 นั้น มิใช่เหตุที่เกิดจากผู้ร้องฝ่ายเดียว หากมีเหตุอันสมควรเกิดจากความยุ่งยากและความซับซ้อนในการตรวจสอบทรัพย์สินของพนักงานเจ้าหน้าที่ก็นับว่ามีเหตุอันสมควรเช่นกัน การที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดทรัพย์สินของผู้คัดค้านทั้งสี่ไว้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2546 เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้มีคำสั่งมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ 1 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2546 แต่เพิ่งมีหนังสือถึงผู้ร้องให้ยื่นคำร้องขอริบทรัพย์สินของผู้คัดค้านทั้งสี่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2548 ทั้ง ๆ ที่ทรัพย์สินของผู้คัดค้านทั้งสี่ที่ถูกตรวจสอบมีจำนวนไม่มาก ส่วนมากเป็นสังหาริมทรัพย์มีรูปร่างมูลค่าไม่สูงมากหรือมีความซับซ้อนยากแก่การตรวจสอบและอยู่ในราชอาณาจักรสามารถตรวจสอบได้โดยง่าย กระบวนการตรวจสอบนับตั้งแต่ที่มีการยึดทรัพย์จนถึงวันที่แจ้งให้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลใช้เวลากว่าสองปี นับว่าเป็นเวลานานเกินสมควร จึงไม่ใช่กรณีมีเหตุอันสมควรที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องภายหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาได้ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3805/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์จากความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด: การครอบครองเพื่อขายเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามยาเสพติด
การที่ผู้จะถูกริบทรัพย์ ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (อีเฟดรีน และ เพโมลีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขาย ซึ่งเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ดังนี้ การมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย จึงอยู่ในความหมายของความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3