คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลาภมิควรได้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 138 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลาภมิควรได้จากการชำระหนี้ตามคำพิพากษา: ไม่เป็นเหตุฟ้องระงับการบังคับคดี
การที่โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยตามคำพิพากษาเรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้มาซึ่งทรัพย์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย จึงไม่ใช่ลาภมิควรได้โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้จำเลยงดการบังคับคดีซึ่งจำเลยมีสิทธิบังคับคดีได้ในคดีก่อนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3983/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความลาภมิควรได้: เริ่มนับเมื่อทราบสัญญาเป็นโมฆะ
โจทก์เพิ่งทราบว่าสัญญาขายฝากเป็นโมฆะเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่ขายฝาก เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้เพื่อเรียกเงินคืนจากจำเลยในฐานลาภมิควรได้ภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3720/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดหลังได้รับค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยต่อ ไม่เป็นลาภมิควรได้
จำเลยฟ้องโจทก์ผู้ทำละเมิดเรียกค่าเสียหายในฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัย เงินที่จำเลยได้รับจากโจทก์ผู้ทำละเมิด คืนให้ผู้รับประกันภัยต่อแล้ว เป็นการชำระหนี้ที่มีมูลอันชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นลาภมิควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2839/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีบัญชีเดินสะพัด/ลาภมิควรได้ จำนวนทุนทรัพย์ไม่เกิน 5 หมื่น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาในข้อเท็จจริง
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยรับเงินจากโจทก์โดยไม่มีมูลจะกล่าวอ้างได้ตามกฎหมาย และถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับเงินไว้โดยสุจริต จำเลยจึงต้องคืนเงินให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันนำเงินเข้าบัญชีจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นเรื่องบัญชีเดินสะพัดมิใช่เรื่องลาภมิควรได้ โจทก์ชอบที่จะเพิกถอนรายการที่ช้าออกจากบัญชีของจำเลยได้ ข้อที่จำเลยอ้างว่าไม่ต้องคืนเงินจึงฟังไม่ขึ้น แต่ศาลชั้นต้นคิดดอกเบี้ยให้ไม่ถูกต้อง พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันหักทอนบัญชี ดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2839/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีบัญชีเดินสะพัด: การโอนเงินผิดพลาดไม่ใช่ลาภมิควรได้ ศาลอุทธรณ์แก้ไขดอกเบี้ย
คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยรับเงินจากโจทก์โดยไม่มีมูลจะกล่าวอ้างได้ตามกฎหมายและถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับเงินไว้โดยสุจริตจำเลยจึงต้องคืนเงินให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันนำเงินเข้าบัญชีจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นเรื่องบัญชีเดินสะพัดมิใช่เรื่องลาภมิควรได้ โจทก์ชอบที่จะเพิกถอนรายการที่ซ้ำออกจากบัญชีของจำเลยได้ ข้อที่จำเลยอ้างว่าไม่ต้องคืนเงินจึงฟังไม่ขึ้น แต่ศาลชั้นต้นคิดดอกเบี้ยให้ไม่ถูกต้องพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่วันหักทอนบัญชีดังนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกคืนเงินลาภมิควรได้จากนิติกรรมโมฆะ: การรู้และอยู่ในฐานะที่จะรู้
ในกรณีที่นิติกรรมเป็นโมฆะ สิทธิเรียกคืนทรัพย์ที่กระทำเพื่อชำระหนี้ของฝ่ายผู้เสียเปรียบย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้ทรัพย์มา โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้
เมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมเป็นโมฆะ ต้องถือว่าบุคคลทุกคนได้รู้ถึงบทบัญญัตินั้นแล้ว ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงให้เห็นพฤติการณ์เฉพาะตัวเป็นพิเศษ โดยแน่ชัดว่าตนไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้เช่นกัน
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยในฐานลาภมิควรได้นั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะสืบแสดงว่าโจทก์ไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้ว่านิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยเป็นโมฆะ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่นำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้งดสืบพยาน โดยยังมิได้พิจารณาหรือวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานคู่ความในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 240 (3), 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกคืนเงินลาภมิควรได้จากนิติกรรมโมฆะ: การรู้สิทธิและพยานหลักฐาน
ในกรณีที่นิติกรรมเป็นโมฆะ สิทธิเรียกคืนทรัพย์ที่กระทำเพื่อชำระหนี้ของฝ่ายผู้เสียเปรียบย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้ทรัพย์มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้
เมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถ้ามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมเป็นโมฆะ ต้องถือว่าบุคคลทุกคนได้รู้ถึงบทบัญญัตินั้นแล้ว ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงให้เห็นพฤติการณ์เฉพาะตัวเป็นพิเศษโดยแน่ชัดว่าตนไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้เช่นนั้น
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยในฐานลาภมิควรได้นั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะสืบแสดงว่าโจทก์ไม่รู้และไม่อยู่ในฐานะที่อาจรู้ได้ว่านิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยเป็นโมฆะ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่นำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และเป็นสารสำคัญในประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้งดสืบพยาน โดยยังมิได้พิจารณาหรือวินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานคู่ความในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 240(3),247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความที่ศาลตัดสินให้ชำระตามคำพิพากษาแล้ว ไม่ถือเป็นลาภมิควรได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกคืน
ศาลพิพากษาให้โจทก์ใช้เงินค่าจ้างว่าความแก่จำเลยเป็นเงินได้โดยชอบตามกฎหมาย โจทก์อ้างว่าจำเลยว่าความให้โจทก์ในคดีนั้นโดยไม่ถูกต้องและหลอกลวงโจทก์ จำเลยไม่ควรได้ค่าจ้างทนายความ จึงฟ้องเรียกเงินคืน ดังนี้ กรณีไม่ใช่ลาภมิควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ, อายุความ, และการชำระหนี้โดยสำคัญผิด: สิทธิไล่เบี้ยตามลาภมิควรได้
คดีก่อนโจทก์ฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยโดยอาศัยเหตุที่โจทก์เป็นผู้ค้ำประกันและได้ใช้หนี้แทนจำเลยไป แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ชำระหนี้แทนจำเลยโดยสำคัญผิดว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องชำระแทนโดยอาศัยหลักลาภมิควรได้ ซึ่งเป็นการอาศัยเหตุต่างกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์เพิ่งจะรู้ว่าตนมีสิทธิเรียกเงินคืนจากจำเลยในฐานลาภมิควรได้ เมื่อศาลพิพากษาในคดีก่อนว่าสัญญาที่โจทก์ค้ำประกันจำเลยนั้นไม่ผูกพันโจทก์ อายุความ 1 ปีจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ศาลได้มีคำพิพากษาในคดีก่อน(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 466/2492)
การชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 407นั้น ต้องถือหลักว่ารู้หรือไม่รู้ตามความรู้เห็นของผู้ชำระเป็นประมาณ ไม่ถือเอาผลในกฎหมายว่ามีความผูกพันกันอยู่จริงหรือไม่เป็นเกณฑ์ เพียงแต่ผู้ชำระสำคัญผิดว่าตนมีความผูกพันที่จะต้องชำระหนี้นั้น แม้ตามกฎหมายผู้ชำระจะไม่ต้องผูกพันก็จะถือว่าผู้ชำระรู้อยู่แล้วไม่ได้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ชำระหนี้แทนจำเลยไปโดยสำคัญผิด โจทก์ก็ใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 409

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลาภมิควรได้จากการรับเงินค่าเสียหายคดีขับไล่ เมื่อกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปลี่ยนมือ
จำเลยชนะคดีที่ฟ้องขับไล่ ส. ได้รับเงินที่ ส. กับผู้รับมรดกความของ ส. อันเป็นค่าเสียหายระหว่างคดีเดือนละ 100 บาท ไปรวม 8,700 บาทโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีอีกเรื่องหนึ่งว่าที่ดินเป็นของโจทก์โดยครอบครองปรปักษ์เงินที่จำเลยรับไปจากศาลเป็นเงินที่รับไปโดยมีมูลตามกฎหมายไม่ใช่ลาภมิควรได้ที่จะต้องคืนให้โจทก์
of 14