พบผลลัพธ์ทั้งหมด 139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานเนื่องจากจำเลยประวิงคดีและไม่แสดงเหตุผลอันสมควรในการขอเลื่อน
จำเลยยื่นคำร้องในวันนัดสืบพยานจำเลย ขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยโดยอ้างว่าพยานจำเลยป่วย ศาลชั้นต้นสั่งที่คำร้องว่าสำเนาให้โจทก์ สั่งในรายงานกระบวนพิจารณา แล้วสั่งในรายงานกระบวนพิจารณามีใจความสำคัญว่า โจทก์คัดค้านและขอให้ตัดพยานจำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยประวิงคดีจึงให้ถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบและให้งดสืบพยานจำเลย คำสั่งของศาลชั้นต้นเช่นนี้เข้าใจได้ว่า ศาลชั้นต้นได้สั่งคำร้องขอเลื่อนคดีของจำเลยแล้วโดยสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานจำเลยตามที่จำเลยขอเพราะคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยนั้นมีความหมายในตัวว่าไม่อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานจำเลย จำเลยมีเจตนาประวิงคดี ศาลชั้นต้นก็ได้ให้โอกาสจำเลยมากมายเป็นพิเศษในการนำพยานมาสืบแล้ว ไม่มีความจำเป็นและไม่มีกฎหมายบังคับว่าศาลจะต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าพยานจำเลยป่วยจริงหรือไม่ ทั้งคำร้องขอเลื่อนคดีของจำเลยในนัดสุดท้ายก็มิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่าถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปจะทำให้เสียความยุติธรรม ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานจำเลยจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งงดบังคับคดีเมื่อมีเหตุผลสมควรและเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 มิใช่เป็นบทบัญญัติที่ได้กำหนดหน้าที่ของเจ้าพนักงานงานบังคับคดีอย่างเดียว แต่ได้บัญญัติให้อำนาจศาลในอันที่จะมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้เมื่อเห็นสมควรไว้ด้วย ส่วนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 นั้นเป็นบทบัญญัติที่ให้อำนาจศาลสั่งงดการบังคับคดีได้ในเมื่อลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ยื่นฟ้องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งลูกหนี้ตามคำพิพากษาอาจจะชนะคดีและนำคดีนั้นมาหักกลบลบหนี้กันกับหนี้ตามคำพิพากษาที่กำลังบังคับคดีกันอยู่ แต่หากมีกรณีอื่นที่กฎหมายบัญญัติให้ศาลสั่งงดการบังคับคดีดังเช่นมาตรา 292(2)ศาลก็ย่อมมีอำนาจสั่งงดการบังคับคดีได้ และในการที่ศาลจะใช้ดุลพินิจสั่งให้งดการบังคับคดีหรือไม่นั้นศาลจะต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วยความเป็นธรรมโดยใช้วิจารณญาณประกอบด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขยายเวลายื่นฎีกา-สัญญากู้เงิน: ศาลใช้ดุลยพินิจ, พฤติการณ์พิเศษ, การกู้เงินจากโจทก์
การที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้หรือไม่นั้น อยู่ในดุลพินิจของศาลและโจทก์ยื่นคำร้องขอขยายก่อนครบกำหนดยื่นฎีกาทั้งเหตุที่ขอขยายเวลานั้นก็เพราะว่าโจทก์ได้ย้ายที่ทำการแห่งใหม่และได้แต่งตั้งทนายโจทก์คนใหม่แล้ว ทนายโจทก์คนใหม่ได้แจ้งให้ศาลทราบด้วยว่าการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ขอให้แจ้งไปที่ทำการแห่งใหม่ ปรากฏว่าเจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายนัดไปยังทนายโจทก์คนเดิม โจทก์จึงไม่ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อันถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษและมีเหตุสมควร คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาจึงชอบแล้ว การกู้ยืมเงิน แม้หนังสือสัญญากู้เงินจะมิได้ระบุว่าจำเลยกู้เงินไปจากใครก็ตาม แต่ก็มีข้อความระบุว่าจำเลยได้กู้เงินจำนวน500,000 บาทไป โจทก์ย่อมมีสิทธินำสืบได้ว่าจำเลยกู้เงินไปจากใคร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3228/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนผู้จัดการมรดก: ศาลมีอำนาจพิจารณาเหตุสมควร แม้ผู้จัดการมรดกผิดสัญญา
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลเพิกถอนผู้จัดการมรดกไว้ 2 ประการคือผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควร ดังนั้น หากจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกผิดสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ในฐานะทายาทของผู้ตาย ก็เป็นเหตุที่โจทก์จะร้องขอต่อศาลตามมาตราดังกล่าวได้ แต่การที่ศาลจะมีคำสั่งให้เพิกถอนตามคำร้องขอของโจทก์หรือไม่ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลที่จะพิจารณาว่ามีเหตุสมควรหรือไม่ หาใช่เมื่อจำเลยผิดสัญญาแล้วศาลจะต้องสั่งเพิกถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกเสมอไปไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2347/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่ส่งสำเนา, คำสั่งรับพยานเพิ่มเติม, และการเชื่อโดยสุจริตในข้อเท็จจริง
แม้จำเลยไม่ส่งสำเนาเอกสารที่อ้างเป็นพยานแก่โจทก์ก่อนวันสืบพยาน เป็นการฝ่าฝืนต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 90 แต่ ถ้า ศาลเห็นว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมทั้งไม่ทำให้โจทก์เสียเปรียบในการต่อสู้คดี ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลยพินิจ รับฟังเอกสารดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) ส่วนภาพถ่ายไม่เป็นพยานเอกสาร จำเลยไม่จำต้องส่งสำเนาให้แก่โจทก์ก่อนวันสืบพยาน โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้านคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยเพื่อให้ศาลปฏิเสธไม่ยอมรับคำร้องดังกล่าว ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งรับหรือปฏิเสธไม่ยอมรับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยคำแถลงดังกล่าวไม่ใช่คำร้องโต้แย้งคำสั่ง เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลย ซึ่ง เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อโจทก์ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว การที่จำเลยเชื่อ โดยสุจริตว่า ที่พิพาทเป็นทางสาธารณะ และเมื่อโจทก์มีชื่อ ใน น.ส. 3 ด้วย จำเลยจึงได้ มีคำสั่งให้โจทก์ออกจากทางสาธารณประโยชน์และนำประกาศคำสั่งไปปิดประกาศในที่ที่พิพาทและที่อื่น ๆ เพื่อให้โจทก์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทางสาธารณประโยชน์ จึงไม่เป็นละเมิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1803/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ถูกข่มขู่ไม่อาจใช้ลดโทษได้ ศาลพิจารณาเหตุแห่งการกระทำความผิดเพื่อกำหนดโทษ
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่าได้ฆ่าผู้ตายแต่ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ และนำสืบว่าได้ให้การรับสารภาพเนื่องจากถูกเจ้าพนักงานตำรวจข่มขู่ ซึ่งหมายความว่าจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจหรือตามความเป็นจริงกรณีจึงถือว่าไม่มีคำรับของจำเลยในชั้นจับกุมอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาที่จะเป็นเหตุบรรเทาโทษเพื่อยกขึ้นเป็นข้ออ้างสำหรับลดโทษให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดี: เหตุจำเป็นต้องเลื่อน, การแสดงเหตุผลให้พอใจศาล, และการประวิงคดี
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีโดยกำชับว่า นัดหน้าให้จำเลยเตรียมพยานมาให้พร้อม ทนายจำเลยแถลงว่าจะนำพยานจำเลยมาศาลทั้งหมด หากพยานจำเลยไม่มา จำเลยจะไม่ติดใจสืบพยาน หากพยานจำเลยมาจำนวนเท่าใดจำเลยขอสืบเพียงเท่านั้น ถึงวันนัดทนายโจทก์มาศาล จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล แต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาล อ้างว่าทนายจำเลยป่วยเป็นโรคคออักเสบไม่สามารถดำเนินคดีในศาลได้คำร้องขอเลื่อนคดีอีกของจำเลยเช่นนี้มิได้แสดงให้เป็นที่พอใจของศาลว่า ถ้าศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจะทำให้เสียความยุติธรรมตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40วรรคแรก ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ดังนี้ศาลจึงไม่อาจให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5125/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด - เหตุสมควรเชื่อว่าจำเลย/ทนายจำเลยไม่สามารถมาศาลได้ตามกำหนดนัด
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 ศาลได้สั่งยกคำร้องของจำเลยโดยเหตุว่าจำเลยได้มายื่นคำร้องเมื่อการพิจารณาคดีเสร็จแล้วกรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ มาตรา 205 ดังนี้ จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 207 อีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4726/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งจำหน่ายคดีเมื่อโจทก์ไม่ขอให้สั่งขาดนัด และเหตุผลที่ศาลอาจไม่สั่งจำหน่ายคดี
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 เป็นบทบัญญัติให้อำนาจศาลที่จะใช้ดุลพินิจมีคำสั่งจำหน่ายคดีในกรณีที่โจทก์ไม่ยื่นคำขอภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ซึ่งปกติศาลย่อมจะมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี แต่คดีนี้โจทก์เคยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยที่ 1 มีโอกาสยื่นคำให้การใหม่และเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ออกไป การที่โจทก์ไม่ได้มีคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การใหม่อีกครั้งหนึ่งอาจเพราะโจทก์เข้าใจว่าจำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การใหม่แล้ว ดังนั้น เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งจำหน่ายคดีศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และเมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การตามที่โจทก์มีคำขอนั้นจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพนันสลากกินรวบเป็นอบายมุข ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษเจ้ามือรายใหญ่ชอบแล้ว
การพนันสลากกินรวบเป็นการพนันที่มอมเมาประชาชน เป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมือง ต้องกำราบปราบปรามมิให้มีการเล่นหรือให้ลดน้อยลง จำเลยเป็นเจ้ามือรายใหญ่ตามสมุดจดสลากกินรวบของกลางปรากฏว่ามีการเล่นการพนันกันถึงหลายแสนบาท ที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำเลยนั้นชอบแล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)