คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาขายฝาก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 192 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการฟ้องขับไล่หลังสัญญาขายฝากพ้นกำหนด โดยจำเลยอ้างโจทก์บ่ายเบี่ยงการไถ่ถอน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและบ้านที่จำเลยขายฝากแก่โจทก์ และสัญญาขายฝากพ้นกำหนดไถ่ถอนแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยได้ใช้สิทธิขอไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากภายในกำหนดเวลาตามสัญญาแล้ว แต่โจทก์บ่ายเบี่ยงจนเลยกำหนดเวลาตามสัญญาโดยจำเลยไม่ได้ฟ้องแย้งขอให้สิทธิไถ่คืน ศาลย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาขับไล่จำเลยได้ เพราะแม้จะพิจารณาได้ความตามคำให้การจำเลย กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินก็ยังเป็นของโจทก์อยู่ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2573/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่หลังสัญญาขายฝากพ้นกำหนด แม้จำเลยอ้างโจทก์บ่ายเบี่ยง แต่ไม่ใช้สิทธิเรียกร้อง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและบ้านที่จำเลยขายฝากแก่โจทก์ และสัญญาขายฝากพ้นกำหนดไถ่ถอนแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยได้ใช้สิทธิขอไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากภายในกำหนดเวลาตามสัญญาแล้ว แต่โจทก์บ่ายเบี่ยงจนเลยกำหนดเวลาตามสัญญาโดยจำเลยไม่ได้ฟ้องแย้งขอใช้สิทธิไถ่คืน ศาลย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาขับไล่จำเลยได้ เพราะแม้จะพิจารณาได้ความตามคำให้การจำเลย กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินก็ยังเป็นของโจทก์อยู่ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝาก: หลักฐานการจดทะเบียนสำคัญกว่าสัญญา หากระบุระยะเวลาไม่ตรงกัน ให้ใช้ตามที่จดทะเบียน
หลักฐานการจดทะเบียนเป็นหลักฐานสำคัญเพราะสัญญาขายฝากจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเมื่อปรากฏตามเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและหน้าโฉนดว่า การขายฝากมีกำหนดเวลา 4 เดือน แม้ตัวสัญญาขายฝากจะมิได้กรอกกำหนดเวลาลงไป ก็ฟังได้ว่าการขายฝากมีกำหนดเวลา โจทก์ขอไถ่เมื่อพ้นกำหนดแล้วจึงไถ่ไม่ได้
เมื่อศาลรับฟังพยานเอกสารที่จำเลยอ้างคือเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโฉนดที่ดิน เชื่อว่าคู่สัญญากำหนดเวลาขายฝากไว้มีกำหนดเวลา 4 เดือน จึงมิใช่เป็นการนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมข้อความในเอกสารสัญญาขายฝาก และไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝาก: กำหนดเวลาไถ่คืนพิสูจน์ได้จากหลักฐานอื่น แม้ไม่ได้ระบุในช่องสัญญา
สัญญาขายฝากที่จดทะเบียนมิได้พิมพ์ข้อความไว้ในช่องกำหนดเวลา แต่มีบันทึกของเจ้าหน้าที่ว่าหลงลืม กับมีเอกสารอื่นและในสารบัญจดทะเบียนว่า กำหนดเวลาไถ่คืน 10 เดือน คู่ความสืบพยานอื่นประกอบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝากเป็นหลักฐานการกู้ ดอกเบี้ยเกินอัตรา
กู้เงิน 500,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อเดือน ทำเป็นสัญญาขายฝาก 400,000 บาท ทำเป็นสัญญากู้ 120,000บาท สัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพราง ต้องบังคับตามสัญญากู้โดยใช้สัญญาขายฝากเป็นหลักฐานการกู้ ผู้ซื้อฝากฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 120,000 บาท ผู้ขายฝากฟ้องแย้งเรียกที่ดินคืนได้ ดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี ต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 จึงเรียกได้แต่ดอกเบี้ยตั้งแต่วันผิดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: เจตนาจำนองแต่ทำสัญญาขายฝาก ไม่เป็นนิติกรรมอำพราง
จำเลยมีเจตนาจะจำนองที่ดินและบ้าน แต่โจทก์ให้ทำเป็นสัญญาขายฝาก เหตุที่จำเลยยอมทำสัญญาขายฝากตามความประสงค์ของโจทก์ก็เพื่อจะได้เงินตามที่ต้องการ สัญญาขายฝากจึงมิใช่นิติกรรมอำพราง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องบังคับตามสัญญาขายฝาก แม้ใช้ตราตำแหน่งที่ไม่จดทะเบียน แต่เป็นตราที่ใช้ทั่วไป
แม้ว่าข้อบังคับของบริษัทโจทก์ที่จดทะเบียนไว้มีว่ากรรมการคนใดคนหนึ่งลำพังคนเดียวมีอำนาจลงชื่อผูกพันบริษัท แต่ต้องประทับตราสำคัญของบริษัท เมื่อสัญญาขายฝากที่บริษัทโจทก์ทำกับจำเลยกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ลงชื่อ ประทับตราตำแหน่งผู้จัดการแม้ตราที่ประทับนี้จะมิได้เป็นตราที่บริษัทโจทก์จดทะเบียนไว้ แต่เป็นตราที่มีตัวอักษรชื่อบริษัทโจทก์ และเป็นตราที่บริษัทโจทก์ใช้กับลูกค้าทั่วไปแล้ว ก็มีผลผูกพันบริษัทโจทก์ บริษัทโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องบังคับตามสัญญานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องบังคับตามสัญญาขายฝาก แม้ใช้ตราตำแหน่งแทนตราจดทะเบียน หากเป็นตราที่บริษัทใช้ทั่วไป
แม้ว่าข้อบังคับของบริษัทโจทก์ที่จดทะเบียนไว้มีว่ากรรมการคนใดคนหนึ่งลำพังคนเดียวมีอำนาจลงชื่อผูกพันบริษัท แต่ต้องประทับตราสำคัญของบริษัท เมื่อสัญญาขายฝากที่บริษัทโจทก์ทำกับจำเลยกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ลงชื่อประทับตราตำแหน่งผู้จัดการแม้ตราที่ประทับนี้จะมิได้เป็นตราที่บริษัทโจทก์จดทะเบียนไว้ แต่เป็นตราที่มีตัวอักษรชื่อบริษัทโจทก์ และเป็นตราที่บริษัทโจทก์ใช้กับลูกค้าทั่วไปแล้วก็มีผลผูกพันบริษัทโจทก์ บริษัทโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องบังคับตามสัญญานั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยประเด็นโมฆะของสัญญาขายฝาก: ศาลวินิจฉัยตามประเด็นที่ท้ากัน
โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลชี้ขาดว่าสัญญาขายฝากที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นโมฆะหรือไม่ คำว่าสัญญาขายฝากย่อมหมายความรวมถึงข้อความทั้งหลายในสัญญานั้น เมื่อในสัญญาดังกล่าวมีข้อความว่าจะนำสัญญาไปจดทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอ ศาลจึงวินิจฉัยชี้ขาดว่าสัญญานั้นเป็นสัญญาจะขายฝาก ไม่เป็นโมฆะ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยตามประเด็นที่ท้ากันแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: สัญญาขายฝากที่แท้จริงเป็นการจำนอง แม้ไม่ได้จดทะเบียน ศาลสั่งให้จำเลยรับเงินไถ่ถอน
การที่โจทก์จำเลยจดทะเบียนสัญญาขายฝากที่ดินพิพาทถ้าโจทก์จำเลยไม่มีเจตนาจะผูกพันกันตามสัญญาขายฝากสัญญานั้นก็เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 118 วรรคแรก
ก่อนทำสัญญาขายฝากก็ดี ขณะทำสัญญาขายฝากก็ดีภายหลังทำสัญญาขายฝากก็ดีโจทก์จำเลยมิได้ตั้งใจจะผูกพันกันตามสัญญาขายฝาก เป็นเรื่องที่จำเลยต้องการดอกเบี้ยเท่านั้นโดยจำเลยสัญญาจะไม่เอาที่ดินหลุดเป็นสิทธิ ถือได้ว่าโจทก์ทำสัญญาขายฝากอำพรางการจำนอง
การที่นิติกรรมอันหนึ่งทำขึ้นเพื่ออำพรางนิติกรรมอีกอันหนึ่งนิติกรรมอันแรกคือสัญญาขายฝากย่อมเป็นการแสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กันระหว่างคู่กรณี ที่จะไม่ผูกพันตามเจตนาที่แสดงออกมานั้น นิติกรรมอันแรกที่ปรากฏออกมานั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา118 วรรคแรก ส่วนนิติกรรมอันหลังคือสัญญาจำนองที่ถูกอำพรางไว้โดยนิติกรรมอันแรกต้องบังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยนิติกรรมที่ถูกอำพรางไว้ตามมาตรา 118 วรรค 2 เมื่อโจทก์จำเลยมีเจตนาทำสัญญาจำนองแล้วแต่การจำนองไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเรียกไม่ได้ว่าเป็นการจำนอง เป็นเพียงการที่โจทก์กู้เงินจากจำเลย และให้ที่ดินแก่จำเลยยึดถือไว้เป็นประกัน และย่อมถือได้ว่าเอกสารการขายฝากที่โจทก์จำเลยทำไว้ ณสำนักงานที่ดิน เป็นนิติกรรมสัญญากู้เงินที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างโจทก์จำเลยนั้น ฉะนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องขอนำเงินมาไถ่ถอนที่พิพาท ก็เท่ากับโจทก์ขอชำระหนี้เงินกู้จำเลยมีหน้าที่รับชำระและคืนที่พิพาทที่เป็นประกันนั้นให้โจทก์ไป
of 20