พบผลลัพธ์ทั้งหมด 340 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7565/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาและหนังสือมอบอำนาจ: การปิดอากรแสตมป์และการใช้เป็นพยานหลักฐาน
สัญญาประกันเพื่อปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราวโดยมีหลักประการตามมาตรา112แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิใช่เป็นสัญญาค้ำประกันซึ่งผู้ค้ำประกันผูกพันตนต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา680และมิใช่ตราสารที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายประมวลรัษฎากรว่าต้องปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ตามประมวลรัษฎากรมาตรา104ไม่ตกอยู่ในบังคับตามมาตรา118แห่งประมวลรัษฎากรจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ หนังสือมอบอำนาจซึ่งจำเลยที่1มอบอำนาจให้จำเลยที่2ไปประกันตัวผู้ต้องหามีข้อความว่าจำเลยที่1ขอมอบอำนาจให้จำเลยที่2เป็นผู้มีอำนาจนำโฉนดที่ดินไปประกันตัวจ.ผู้ต้องหาไปจากความควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนแทนจำเลยที่1จนเสร็จการและจำเลยที่1ยอมรับผิดชอบในการที่ผู้รับมอบอำนาจได้ทำไปตามที่มอบอำนาจนี้ภายในวงเงินไม่เกินราคาที่ดินโฉนดข้อความดังกล่าวมีความหมายว่าจำเลยที่1มอบอำนาจให้จำเลยที่2มีอำนาจไปประกันตัวผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวนแทนจำเลยที่1จนเสร็จการจึงเป็นการมอบอำนาจให้กระทำการครั้งเดียวซึ่งต้องปิดอากรแสตมป์10บาทตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ7(ก) คำว่า"กระทำ"ในบทนิยามมาตรา103แห่งประมวลรัษฎากรเมื่อใช้เกี่ยวกับตราสารหมายความว่าการลงลายมือชื่อตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์การที่จำเลยที่2ผู้รับมอบอำนาจต้องลงลายมือชื่อตามที่พนักงานสอบสวนนัดให้ส่งตัวผู้ต้องหาหลายครั้งที่ด้านหลังสัญญาประกันจึงมิใช่เป็นกรณีที่จำเลยที่1มอบอำนาจให้จำเลยที่2กระทำการมากกว่าครั้งเดียวแต่เป็นกรณีที่จำเลยที่2ต้องปฎิบัติตามเงื่อนเวลาที่พนักงานสอบสวนกำหนดให้ผู้ประกันต้องปฎิบัติตามในการส่งตัวผู้ต้องหาเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7510/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์ การลงลายมือชื่อในฐานะผู้มอบ/รับมอบอำนาจไม่ขัดกฎหมาย
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความพิมพ์ไว้ชัด จำเลยที่ 1 มิได้นำสืบพิสูจน์หักล้างว่าหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้เพิ่งทำภายหลังที่มีการทำสัญญาซื้อขายแล้วลงวันที่ย้อนหลังไป แม้โจทก์ไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวไปแสดงต่อจำเลยในวันที่ทำสัญญาซื้อขายก็ไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือมีกฎหมายกำหนดว่าให้โจทก์ต้องแสดงต่อจำเลยในวันทำสัญญา จึงฟังได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ บ.ดำเนินการแทนโจทก์ตามที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจนั้น การที่ บ.ลงลายมือชื่อเป็นผู้ขายในสัญญาซื้อขายซึ่งมีตราของโจทก์ประทับก็เท่ากับ บ.เป็นตัวแทนของโจทก์ ส่วนที่ บ.ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยมี ท.กรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจก็หาใช่ว่ากรรมการของโจทก์ไม่ครบ 2 คนตามที่จดทะเบียนไว้ไม่ ส่วนการที่โจทก์มีกรรมการถึง 6 คน แล้วให้ บ.ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับเป็นผู้รับมอบอำนาจรวม 2 ตำแหน่ง ก็มิใช่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่ประการใด และพฤติการณ์ดังนี้ก็ไม่อาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7510/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์ตามกฎหมาย โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยได้ แม้กรรมการลงลายมือชื่อไม่ครบตามจดทะเบียน
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความพิมพ์ไว้ชัด จำเลยที่ 1 มิได้นำสืบพิสูจน์หักล้างว่าหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้เพิ่งทำภายหลังที่มีการทำสัญญาซื้อขายแล้วลงวันที่ย้อนหลังไปแม้โจทก์ไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวไปแสดงต่อจำเลยในวันที่ทำสัญญาซื้อขายก็ไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือมีกฎหมายกำหนดว่าให้โจทก์ต้องแสดงต่อจำเลยในวันทำสัญญา จึงฟังได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ บ. ดำเนินการแทนโจทก์ตามที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจนั้น การที่ บ.ลงลายมือชื่อเป็นผู้ขายในสัญญาซื้อขายซึ่งมีตราของโจทก์ประกันก็เท่ากับ บ.เป็นตัวแทนของโจทก์ ส่วนที่ บ.ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยมี ท.เป็นกรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจก็หาใช่ว่ากรรมการของโจทก์ไม่ครบ 2 คนตามที่จดทะเบียนไว้ไม่ ส่วนการที่โจทก์มีกรรมการถึง 6 คน แล้วให้บ.ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับเป็นผู้รับมอบอำนาจรวม 2 ตำแหน่ง ก็มิใช่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่ประการใด และพฤติการณ์ดังนี้ก็ไม่อาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7510/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์ การลงลายมือชื่อในสัญญาซื้อขายผูกพันโจทก์ จำเลยต้องชำระหนี้
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความพิมพ์ไว้ชัดจำเลยที่1มิได้นำสืบพิสูจน์หักล้างว่าหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้เพิ่งทำภายหลังที่มีการทำสัญญาซื้อขายแล้วลงวันที่ย้อนหลังไปแม้โจทก์ไม่ได้นำเอกสารดังกล่าวไปแสดงต่อจำเลยในวันที่ทำสัญญาซื้อขายก็ไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือมีกฎหมายกำหนดว่าให้โจทก์ต้องแสดงต่อจำเลยในวันทำสัญญาจึงฟังได้ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้บ. ดำเนินการแทนโจทก์ตามที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจนั้นการที่บ.ลงลายมือชื่อเป็นผู้ขายในสัญญาซื้อขายซึ่งมีตราของโจทก์ประกันก็เท่ากับบ.เป็นตัวแทนของโจทก์ส่วนที่บ.ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยมีท.เป็นกรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้มอบอำนาจในหนังสือมอบอำนาจก็หาใช่ว่ากรรมการของโจทก์ไม่ครบ2คนตามที่จดทะเบียนไว้ไม่ส่วนการที่โจทก์มีกรรมการถึง6คนแล้วให้บ.ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจในฐานะเป็นผู้มอบอำนาจกับเป็นผู้รับมอบอำนาจรวม2ตำแหน่งก็มิใช่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายแต่ประการใดและพฤติการณ์ดังนี้ก็ไม่อาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7268/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจ, อากรแสตมป์, การส่งสำเนาเอกสาร, การคัดค้าน, เหตุฟ้องไม่ชอบ
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความว่า "ฯลฯ ข้าพเจ้า อ.ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตึกแถวเลขที่ 1/11 ซอยวัฒนโยธินถนนราชวิถีแขวงถนนพญาไทเขตราชเทวี กรุงเทพมหานครขอมอบอำนาจให้ ม. ฯลฯ เป็นผู้รับมอบอำนาจให้มีอำนาจกระทำการแทนข้าพเจ้าในกิจการดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ให้มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้อง ว. ผู้เช่าตึกแถวดังกล่าวเป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง รวมทั้งมีอำนาจแก้ฟ้องแย้งของจำเลย และให้มีอำนาจดำเนินคดีแทนข้าพเจ้าได้ทุกประการ" การมอบอำนาจตามข้อความที่ระบุไว้ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่โจทก์มอบอำนาจให้กระทำการครั้งเดียว มิใช่มอบอำนาจทั่วไปให้แก่ ม.จึงต้องปิดอากรแสตมป์เพียง 10 บาท ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 104 และบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ข้อ 7(ก) ดังนั้นเมื่อปรากฏว่าหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้ ได้ปิดอากรแสตมป์ 10 บาทครบถ้วนแล้วในวันยื่นฟ้อง ศาลจึงรับฟังหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในคดีได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และแม้ภายหลังโจทก์นำหนังสือมอบอำนาจนั้นไปติดอากรแสตมป์เพิ่มอีก20 บาท โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือขออนุญาตปิดอากรแสตมป์จากศาลก็หามีผลทำให้หนังสือมอบอำนาจนั้นกลับเป็นหนังสือมอบอำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใดไม่ โจทก์ได้ระบุอ้างหนังสือให้ความยินยอมเป็นพยานและได้นำต้นฉบับเอกสารดังกล่าวมาสืบเป็นพยานหลักฐานของโจทก์ในวันสืบพยาน การที่โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 วรรคหนึ่งอันเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น หากจำเลยเห็นว่าโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันเป็นผิดระเบียบจำเลยจะต้องยื่นคัดค้านเสียภายใน 8 วัน ตามมาตรา 27 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อจำเลยทราบตั้งแต่ขณะที่โจทก์นำต้นฉบับเอกสารดังกล่าวมาสืบแล้วว่าเป็นการผิดระเบียบ แต่จำเลยก็มิได้คัดค้านเสียภายใน 8 วันนับแต่วันที่จำเลยได้ทราบเช่นนั้น จำเลยจึงไม่อาจยกเหตุดังกล่าวขึ้นมาอุทธรณ์ฎีกาคัดค้านในภายหลังได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจ: การฟ้องคดีล้มละลายเกินขอบเขต
ข้อความในหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุให้มีอำนาจเรียกร้องทวงถามให้ชำระหนี้ ดำเนินคดี ฟ้องร้อง แก้ต่างทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีและขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย แต่ไม่มีข้อความใดที่จะแสดงให้เห็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายและการฟ้องคดีล้มละลายก็ไม่ใช่การฟ้องเรียกหนี้ที่ค้างชำระกันอยู่ แต่เป็นการขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ต้องตกเป็นผู้ไร้ความสามารถในบางประการโดยเป็นบุคคลล้มละลายซึ่งเป็นการนอกเหนือหนังสือมอบอำนาจดังกล่าว ผู้รับมอบอำนาจของโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจฟ้องคดีล้มละลายตามหนังสือมอบอำนาจ: การตีความอำนาจในการติดตามหนี้และการฟ้องคดี
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความว่าให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจเรียกร้องทวงถามให้ชำระหนี้แจ้งบังคับจำนองหรือจำนำดำเนินคดีฟ้องร้องแก้ต่างทั้งคดีแพ่งและคดีอาญารวมตลอดถึงการร้องทุกข์กล่าวโทษและมอบคดีอาญาหรือคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในนามของธนาคารต่อพนักงานสอบสวนตลอดทั้งการเข้าเป็นโจทก์ร่วมหรือจำเลยร่วมในคดีแพ่งคดีอาญาดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีขอรับชำระหนี้คดีล้มละลายฯลฯเป็นการมอบอำนาจให้มีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับการติดตามทวงถามและฟ้องร้องในคดีแพ่งสามัญโดยตรงเพื่อให้ผู้มอบอำนาจได้รับชำระหนี้เท่านั้นทั้งการฟ้องคดีล้มละลายก็เป็นการขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ต้องตกเป็นผู้ไร้ความสามารถในบางประการโดยเป็นบุคคลล้มละลายไม่ใช่เป็นการฟ้องเรียกหนี้ที่ค้างชำระกันอยู่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีล้มละลายต้องมีข้อความมอบอำนาจชัดเจน การฟ้องล้มละลายไม่ใช่การเรียกหนี้ธรรมดา
หนังสือมอบอำนาจมีข้อความว่าเรียกร้องทวงถามให้ชำระหนี้แจ้งบังคับจำนองหรือจำนำดำเนินคดีฟ้องร้องแก้ต่างทั้งคดีแพ่งและคดีอาญารวมตลอดถึงการร้องทุกข์กล่าวโทษและมอบคดีอาญาหรือคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในนามของธนาคารต่อพนักงานสอบสวนตลอดทั้งการเข้าเป็นโจทก์ร่วมหรือจำเลยร่วมในคดีแพ่งคดีอาญาดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีและขอรับชำระหนี้คดีล้มละลายเป็นการมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับการติดตามทวงถามและฟ้องร้องเกี่ยวกับคดีแพ่งสามัญโดยตรงเพื่อให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้มอบอำนาจได้รับชำระหนี้เท่านั้นไม่มีข้อความใดที่ว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายและการฟ้องคดีล้มละลายก็ไม่ใช่การฟ้องเรียกหนี้ที่ค้างชำระกันอยู่แต่เป็นการขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ต้องตกเป็นผู้ไร้ความสามารถในบางประการโดยเป็นบุคคลล้มละลายซึ่งเป็นการนอกเหนือข้อความในหนังสือมอบอำนาจโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจฟ้องคดีล้มละลายตามหนังสือมอบอำนาจ การฟ้องขอให้ล้มละลายไม่ใช่การติดตามหนี้
ข้อความในหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุให้มีอำนาจเรียกร้องทวงถามให้ชำระหนี้ดำเนินคดีฟ้องร้องแก้ต่างทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีและขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายแต่ไม่มีข้อความใดที่จะแสดงให้เห็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายและการฟ้องคดีล้มละลายก็ไม่ใช่การฟ้องเรียกหนี้ที่ค้างชำระกันอยู่แต่เป็นการขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ต้องตกเป็นผู้ไร้ความสามารถในบางประการโดยเป็นบุคคลล้มละลายซึ่งเป็นการนอกเหนือหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวผู้รับมอบอำนาจของโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7065/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีไม่สมบูรณ์ แก้ไขได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
สำเนาหนังสือมอบอำนาจโจทก์เอกสารท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง มิได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ ซึ่งไม่ถูกต้องตามที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการจดทะเบียนของโจทก์ แสดงว่าการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่สมบูรณ์ โจทก์ได้กล่าวอ้างมาในอุทธรณ์และฎีกาว่า ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจมีการประทับตราสำคัญของโจทก์ถูกต้อง แสดงถึงเจตนาจะทำการแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจโจทก์ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาอาศัยอำนาจตาม ป.วิ.พ. มาตรา 66 สั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจเสียให้สมบูรณ์ โดยให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเสียให้สมบูรณ์