พบผลลัพธ์ทั้งหมด 127 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3541/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินทดแทนกับการจ่ายค่าชดเชย: หลักเกณฑ์ที่แตกต่างกัน แม้เปลี่ยนชื่อเรียกก็ไม่ถือเป็นค่าชดเชย
เงินทดแทนที่จำเลยจ่ายแก่โจทก์เมื่อเลิกจ้างมีหลักเกณฑ์แตกต่างจากค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นเงินประเภทอื่นที่นายจ้างจ่ายแก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง แม้จำเลยจะแก้ไขระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายเงินนั้นจาก "เงินทดแทน" เป็น "ค่าชดเชย" แต่หลักเกณฑ์การจ่ายและการได้มาซึ่งสิทธิก็ยังเป็นไปตามเดิม จึงหาทำให้เงินดังกล่าวกลายเป็นค่าชดเชยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2673/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประสบอันตรายจากการเดินทางกลับหลังแข่งขันกีฬา ถือเป็นการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง มีสิทธิได้รับเงินทดแทน
งานประจำของโจทก์คือกิจการของธนาคารในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เมื่อธนาคารผู้เป็นนายจ้างมีคำสั่งให้โจทก์ไปแข่งขันกีฬาที่จังหวัดระยองระหว่างพนักงานธนาคารด้วยกัน ย่อมเป็นงานพิเศษตามครั้งคราวที่ธนาคารผู้เป็นนายจ้างจะมีคำสั่ง และเมื่อถึงวันปิดการแข่งขันโจทก์ก็ได้เดินทางกลับหน่วยงานประจำเช่นนี้ ตราบใดที่โจทก์ยังกลับไม่ถึงที่พักประจำในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคม ก็ยังได้ชื่อว่าโจทก์ปฏิบัติงานพิเศษกลับจากการ แข่งขันกีฬา เป็นการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง การที่โจทก์ได้รับอันตรายระหว่างเดินทางกลับจึงเป็นการประสบอันตรายขณะปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างและมีสิทธิได้รับเงินทดแทนตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2673/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประสบอันตรายจากการเดินทางกลับหลังแข่งขันกีฬา ถือเป็นการปฏิบัติงานและมีสิทธิได้รับเงินทดแทน
งานประจำของโจทก์คือกิจการของธนาคารในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคมจังหวัดลพบุรี เมื่อธนาคารผู้เป็นนายจ้างมีคำสั่งให้โจทก์ไปแข่งขันกีฬาที่จังหวัดระยองระหว่างพนักงานธนาคารด้วยกัน ย่อมเป็นงานพิเศษตามครั้งคราวที่ธนาคารผู้เป็นนายจ้างจะมีคำสั่งและเมื่อถึงวันปิดการแข่งขันโจทก์ก็ได้เดินทางกลับหน่วยงานประจำเช่นนี้ ตราบใดที่โจทก์ยังกลับไม่ถึงที่พักประจำในหน่วยงานอำเภอพัฒนานิคม ก็ยังได้ชื่อว่าโจทก์ปฏิบัติงานพิเศษกลับจากการแข่งขันกีฬา เป็นการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้าง การที่โจทก์ได้รับอันตรายระหว่างเดินทางกลับจึงเป็นการประสบอันตรายขณะปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างและมีสิทธิได้รับเงินทดแทนตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลังเลิกงาน: งานศพไม่ถือเป็นการทำงาน
แม้ผู้ตายเป็นผู้จัดการแผนกบุคคล มีหน้าที่ในการสงเคราะห์พนักงานหรือครอบครัว รวมทั้งให้สวัสดิการ เช่น งานบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจศพ และผู้ตายได้รับมอบหมายจากบริษัทนายจ้างให้เป็นตัวแทนไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพบิดาผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทนายจ้างก็ตาม แต่การไปร่วมงานดังกล่าวเป็นเรื่องประเพณีทางสังคม ไม่ใช่เรื่องความรับผิดชอบเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ดังนั้น เมื่อผู้ตายกลับจากงานสวดพระอภิธรรมศพแล้วประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตายจึงถือไม่ได้ว่าตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างอันจะเป็นผลให้มีสิทธิเรียกร้องเงินทดแทนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตหลังกลับจากร่วมงานศพ: ไม่ถือเป็นอันตรายจากการทำงาน
แม้ผู้ตายเป็นผู้จัดการแผนกบุคคล มีหน้าที่ในการสงเคราะห์พนักงานหรือครอบครัว รวมทั้งให้สวัสดิการ เช่นงานบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจศพ และผู้ตายได้รับมอบหมายจากบริษัทนายจ้างให้เป็นตัวแทนไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพบิดาผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทนายจ้างก็ตาม แต่การไปร่วมงานดังกล่าวเป็นเรื่องประเพณีทางสังคม ไม่ใช่เรื่องความรับผิดชอบเกี่ยวกับหน้าที่การงานดังนั้น เมื่อผู้ตายกลับจากงานสวดพระอภิธรรมศพแล้วประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตายจึงถือไม่ได้ว่าตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างอันจะเป็นผลให้มีสิทธิเรียกร้องเงินทดแทนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าเงินทดแทนจากอุบัติเหตุการทำงาน และการปฏิบัติตามขั้นตอนอุทธรณ์คำสั่งเงินทดแทน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้ให้ลูกจ้างขับรถให้จำเลยแล้วเกิดอุบัติเหตุลูกจ้างถึงแก่ความตาย ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเกี่ยวกับความประมาทจึงไม่จำต้องบรรยายว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท
การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทน มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ส่วนจำเลยถ้าไม่พอใจคำสั่งเงินทดแทนดังกล่าว ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่ออธิบดีกรมแรงงานภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง หากจำเลยมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย จำเลยจึงต้องจ่ายเงินทดแทนตามคำสั่งเงินทดแทน
การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทน มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ส่วนจำเลยถ้าไม่พอใจคำสั่งเงินทดแทนดังกล่าว ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่ออธิบดีกรมแรงงานภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง หากจำเลยมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย จำเลยจึงต้องจ่ายเงินทดแทนตามคำสั่งเงินทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องเงินทดแทน จำเลยไม่มีอำนาจสั่งให้ชดใช้
พนักงานเงินทดแทนมิได้สอบสวนหรือมีคำสั่งในกรณีที่ ป. ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนจากนายจ้างเกี่ยวกับโจทก์แต่อย่างใด เพราะไม่มีผู้ใดกล่าวอ้างว่าโจทก์ต้องรับผิดจ่ายเงินทดแทนรายนี้ด้วย โจทก์จึงเป็นบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จำเลยซึ่งเป็นผู้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทนจึงไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยและมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายหรือไม่จ่ายเงินทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกไม่ต้องรับผิดในเงินทดแทน หากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในชั้นพนักงานเงินทดแทน
พนักงานเงินทดแทนมิได้สอบสวนหรือมีคำสั่งในกรณีที่ ป.ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนจากนายจ้างเกี่ยวกับโจทก์แต่อย่างใด เพราะไม่มีผู้ใดกล่าวอ้างว่าโจทก์ต้องรับผิดจ่ายเงินทดแทนรายนี้ด้วย โจทก์จึงเป็นบุคคลภายนอก มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จำเลยซึ่งเป็นผู้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทนจึงไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยและมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายหรือไม่จ่ายเงินทดแทน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3620/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งสิทธิเรียกร้องเงินทดแทนด้วยวาจาไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และสิทธิได้รับเงินทดแทนเป็นสิทธิเฉพาะตัว
โจทก์แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทนด้วยวาจาขอรับเงินค่าทดแทนโดยมิได้ยื่นคำร้องตามแบบ เป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและวิธีการที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบ การจ่ายเงินทดแทน ฯ ข้อ 15 วรรคสอง กำหนดไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าทดแทน
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ 50 กำหนดตัวผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนไว้ว่าถ้าไม่มีผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่ง สิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนจึงจะได้แก่ผู้มีสิทธิตามวรรคสอง มิได้หมายความว่าเมื่อผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่งได้รับค่าทดแทนไปบางส่วนแล้วต่อมาผู้นั้นหมดสิทธิลง บุคคลตามวรรคสองเข้ารับเงินทดแทนส่วนที่เหลือต่อไปได้
สิทธิได้รับค่าทดแทนเป็นสิทธิเฉพาะตัว
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ 50 กำหนดตัวผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนไว้ว่าถ้าไม่มีผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่ง สิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนจึงจะได้แก่ผู้มีสิทธิตามวรรคสอง มิได้หมายความว่าเมื่อผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่งได้รับค่าทดแทนไปบางส่วนแล้วต่อมาผู้นั้นหมดสิทธิลง บุคคลตามวรรคสองเข้ารับเงินทดแทนส่วนที่เหลือต่อไปได้
สิทธิได้รับค่าทดแทนเป็นสิทธิเฉพาะตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3620/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับเงินทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิต สิทธิของภริยาและบุตรตามประกาศกระทรวงมหาดไทย
โจทก์แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทนด้วยวาจาขอรับเงินค่าทดแทนโดยมิได้ยื่นคำร้องตามแบบ เป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและวิธีการที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบ การจ่ายเงินทดแทน ฯข้อ 15 วรรคสอง กำหนดไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าทดแทน
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ50 กำหนดตัวผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนไว้ว่าถ้าไม่มีผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่ง สิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนจึงจะได้แก่ผู้มีสิทธิตามวรรคสอง มิได้หมายความว่าเมื่อผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่งได้รับค่าทดแทนไปบางส่วนแล้วต่อมาผู้นั้นหมดสิทธิลง บุคคลตามวรรคสองเข้ารับเงินทดแทนส่วนที่เหลือต่อไปได้
สิทธิได้รับค่าทดแทนเป็นสิทธิเฉพาะตัว
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ50 กำหนดตัวผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนไว้ว่าถ้าไม่มีผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่ง สิทธิที่จะได้รับค่าทดแทนจึงจะได้แก่ผู้มีสิทธิตามวรรคสอง มิได้หมายความว่าเมื่อผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่งได้รับค่าทดแทนไปบางส่วนแล้วต่อมาผู้นั้นหมดสิทธิลง บุคคลตามวรรคสองเข้ารับเงินทดแทนส่วนที่เหลือต่อไปได้
สิทธิได้รับค่าทดแทนเป็นสิทธิเฉพาะตัว