พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐยักยอกทรัพย์ของราชการ แม้ไม่มีระเบียบชัดเจน
ปลัดอำเภอซึ่งมีหน้าที่รักษาพัสดุของอำเภอเอาเงินการกุศลของอำเภอซื้อกระสุนปืนไว้ใช้ในราชการ แล้วจำเลยได้รับมอบหมายจากนายอำเภอให้เก็บรักษากระสุนปืนนั้นไว้แล้วยักยอกเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐไม่เป็นหมิ่นประมาท การรับสารภาพที่มีข้อต่อสู้
การที่จำเลยไปร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวนกล่าวโทษพลตำรวจว่ากระทำผิดต่อหน้าที่ราชการนั้น ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท. จำเลยให้การรับสารภาพแต่ได้แถลงรายละเอียดต่อไปอันเป็นข้อต่อสู้นั้น จะถือว่าจำเลยรับตามข้อหาไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ของเจ้าหน้าที่รัฐ: การพิจารณาความผิดฐานลักทรัพย์และข้อยกเว้นสำหรับทรัพย์สินของรัฐ
ตำรวจลักฝิ่นของกรมสรรพสามิตซึ่งเก็บไว้สถานีตำรวจไม่เป็นความผิดตาม ม.294 ข้อ 4 และ ข้อ 5.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกเงินซ่อมแซมของเจ้าหน้าที่รัฐ: การพิจารณาความผิดฐานใดที่ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามมาตรา 131 จำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 319(3)ให้จำคุกจำเลย 3 ปี เป็นการแก้ไขมาก,จำเลยเป็นสรรพากรจุงหวัดได้รับเงินค่าซ่อมแซมที่พักสรรพากรจังหวัดแล้วยักยอกเอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย เป็นผิดตามมาตรา 314 หาใช่มาตรา 131 หรือ มาตรา 319(3)ไม่,โจทก์มิได้อ้างบทมาตรา 314 แต่คำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวเป็นความผิดมาตรา 304 มาด้วยและอยู่ในข่ายที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่รัฐทุจริตต่อหน้าที่ ปลอมแปลงเอกสารเพื่อประโยชน์มิชอบ
จำเลยเป็นเสมียนอำเภอประจำแผนกสรรพากรแต่ยังมีข้อที่ช่วยราชการอื่นในเวลา+ได้พิมพ์ลายมือปลอมลง+ต้นขั้วใบอนุญาตให้คนด้าวกลับเข้าเมือง แล+ข้อความเท็จลงในบัญชี+ในครัว ดังนี้ถือว่าเป็น+ที่จำเลยกระทำใน+ต้องมีผิดตาม ม.229-230
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงโดยใช้เอกสารปลอมเพื่อหลอกลวงเจ้าหน้าที่รัฐ
ปลอมใบสำคัญไปหลอกลวงนายว่าได้ซื้อไม้ไผ่ไว้ใช้ในราชการเป็นราคา 52 บาทมีผิด 2 กะทง คือ ฐานฉ้อแลปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้แรงงานของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และการเบิกจ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง
นายตรวจทางรถไฟเอาคนงานที่ทำงานรัฐบาลไปทำงานส่วนตัวแล้วจดเบิกเงินรัฐบาลไม่มีผิดตามมาตราข้างบน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขรายงานทางการเงินโดยมิชอบ และความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารของเจ้าหน้าที่รัฐ
จำเลยแก้รายงานและบัญชีจำนวนเงินค่าปรับ จำนวนเงิน 6 บาท เปน 4 บาท เพื่อให้ตรงกับความจริง ต้องมีผิดฐานปลอมหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกงเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีประวัติรับราชการที่ดี
ทำหนังสือสำคัญปลอมไปเบิกเงินจากรัฐบาลมีผิด 2 กะทง คือ ฐานปลอมหนังสือกับฐานฉ้อโกง วิธีพิจารณาอาญาจำเลยเคยรับราชการมาตั้ง 26 ปี นับว่ามีคุณความดี ควรได้รับปราณีลดโทษ จำเลยได้รับอาญาจำคุกไม่ถึงปี ศาลอาจรอการลงอาญาไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8649/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ และการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ
เมื่อเกิดความเสียหายแก่โจทก์ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐและมีเหตุอันควรเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐแห่งนั้น ก็ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดขึ้นคณะหนึ่งโดยไม่ชักช้า ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ข้อ 8 จำเลยเป็นข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสำรวจและออกแบบ แม้เป็นเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ในสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลโจทก์ ก็อาจเป็นผู้กระทำละเมิดต่อโจทก์และต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ การที่โจทก์แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจึงเป็นการเหมาะสมและสอดคล้องตามระเบียบดังกล่าว ส่วนของอายุความในสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนก็ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติที่กำหนดขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 10 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองประการตามวรรคหนึ่ง ให้มีกำหนดอายุความสองปีนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวเจ้าหน้าที่ผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน และกรณีที่หน่วยงานของรัฐเห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นไม่ต้องรับผิด แต่กระทรวงการคลังตรวจสอบแล้วเห็นว่าต้องรับผิด ให้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนนั้นมีกำหนดอายุความหนึ่งปีนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐมีคำสั่งตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ซึ่งตามวรรคหนึ่งรวมประการที่มิใช่การกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย กรณีจะใช้อายุความตามหลักละเมิดทั่วไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 448 มาบังคับไม่ได้
หนังสือสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงลงวันที่ 15 มีนาคม 2544 ที่นายอำเภอบางพลีแจ้งให้ประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลโจทก์ทราบแต่เพียงว่าผู้ที่น่าจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายมีบุคคลใดบ้าง และยังมีเรื่องที่โจทก์จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 โดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับผู้ต้องรับผิดและจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่ผู้นั้นต้องชดใช้ต่อไป หนังสือดังกล่าวจึงยังไม่พอให้รับฟังว่าโจทก์ทราบและรู้ว่าจำเลยต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว และเนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งกรมบัญชีกลางประชุมพิจารณาเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 แล้วมีมติให้จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายและมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดให้โจทก์ทราบ โดยหนังสือลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2547 โจทก์ลงรับหนังสือเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2547 แสดงว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันดังกล่าว เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 จึงอยู่ภายในกำหนดเวลา 1 ปี สิทธิเรียกร้องตามคำฟ้องของโจทก์ไม่ขาดอายุความตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 10 วรรคสอง
หนังสือสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงลงวันที่ 15 มีนาคม 2544 ที่นายอำเภอบางพลีแจ้งให้ประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลโจทก์ทราบแต่เพียงว่าผู้ที่น่าจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายมีบุคคลใดบ้าง และยังมีเรื่องที่โจทก์จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 โดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับผู้ต้องรับผิดและจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่ผู้นั้นต้องชดใช้ต่อไป หนังสือดังกล่าวจึงยังไม่พอให้รับฟังว่าโจทก์ทราบและรู้ว่าจำเลยต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว และเนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งกรมบัญชีกลางประชุมพิจารณาเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 แล้วมีมติให้จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายและมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดให้โจทก์ทราบ โดยหนังสือลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2547 โจทก์ลงรับหนังสือเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2547 แสดงว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันดังกล่าว เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 จึงอยู่ภายในกำหนดเวลา 1 ปี สิทธิเรียกร้องตามคำฟ้องของโจทก์ไม่ขาดอายุความตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 10 วรรคสอง