คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิ่มโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 491 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5925/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยคดียาเสพติดซ้ำ และอำนาจศาลในการริบเงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
ผู้ที่จะได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนม์พรรษา 60 พรรษา พ.ศ. 2530 มาตรา 4 คือ ผู้ได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ แต่จำเลยยังไม่พ้นโทษในวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ จึงไม่ได้รับผลจากพระราชบัญญัติดังกล่าว เมื่อจำเลยพ้นโทษฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองมายังไม่เกินห้าปี กลับมากระทำผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนอีกจึงต้องเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522มาตรา 97 โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมิได้ฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายเฮโรอีน เงินสดของกลางไม่ใช่ทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้ จึงมิใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดในคดีนี้ ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งริบเงินสดของกลางที่ศาลล่างทั้งสองสั่งริบเงินสดของกลางด้วยจึงไม่ชอบ แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาปัญหานี้แต่เนื่องจากเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2254/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบวกโทษคดีอาญา: โจทก์ไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่อาจเพิ่มโทษจำเลยได้
คดีนี้ซึ่งเป็นคดีหลัง ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกและบวกโทษจำเลยที่ 4 ตามคำขอท้ายฟ้อง แต่บวกโทษผิดพลาด โดยนำโทษจำคุก3 เดือน ของจำเลยอื่นในคดีก่อนมาบวกโทษแทน แต่เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ ก็ต้องถือว่าโจทก์พอใจในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้น ศาลฎีกาไม่อาจนำโทษจำคุก 1 ปี 5 เดือน ของจำเลยที่ 4ในคดีก่อนที่ถูกต้องมาบวกได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องและคำขอท้ายฟ้องต้องสอดคล้องกัน หากไม่สอดคล้องกัน ศาลต้องยกฟ้องข้อหาที่โจทก์มิได้ขอให้ลงโทษ และศาลฎีกาไม่สามารถเพิ่มโทษเกินกว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาได้หากไม่อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีไม้ยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง ปรากฏว่าโจทก์บรรยายการกระทำผิดในข้อหานี้มาในคำฟ้อง แต่ในคำขอท้ายฟ้องโจทก์มิได้อ้างบทมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด ฉะนั้นจะถือว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษในข้อหามีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองแล้วหาได้ไม่กรณีจึงต้องยกฟ้องข้อหานี้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 เดือน ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48, 73 วรรคสอง มีอัตราโทษจำคุกขั้นต่ำ 1 ปีที่ศาลชั้นต้นพิพากษามาจึงเป็นการลงโทษจำคุกจำเลยต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดแต่โจทก์มิได้อุทธรณ์และฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยเพิ่มขึ้น ศาลฎีกาลงโทษจำคุกจำเลยเพิ่มขึ้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4673/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์และการเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ
จำเลยทั้งสี่ชักชวนกันด้วยความคึกคะนองเนื่องจากมึนเมาสุราว่าจะดักทำร้ายผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา เมื่อผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาจำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายแล้วนำเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปทิ้งในคลอง โดยที่ไม่ได้มีการพูดจาหรือตกลงกันว่าจะมาเอาในภายหลัง แสดงว่าจำเลยทั้งสี่มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายโดยมิได้ประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะมิได้มีการกระทำที่ส่อให้เห็นว่าจำเลยทั้งสี่มีเจตนาจะเอาไปเป็นของตนเองอันเป็นการแสดงเจตนาทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์ที่เอาไป จำเลยทั้งสี่จึงไม่มีเจตนาลักทรัพย์การกระทำของจำเลยทั้งสี่จึงไม่เป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยที่ 1 เคยต้องโทษจำคุกฐานรับของโจร และภายในเวลา3 ปี นับแต่วันพ้นโทษ จำเลยที่ 1 มากระทำผิดคดีนี้ฐานทำร้ายร่างกายจึงเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 93 ไม่ได้ แต่เพิ่มโทษได้ตามมาตรา 92 แม้โจทก์จะขอเพิ่มโทษตามมาตรา 93 โดยไม่ได้ขอมาตรา 92 มาด้วย ก็ชอบที่จะเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 92 ซึ่งเป็นบทที่เบากว่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนและการเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 ตรี
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดขอให้ลงโทษหนักขึ้น ปรากฏว่าขณะจำเลยกระทำผิดมิได้ใช้ยานพาหนะเจ้าพนักงานจับจำเลยได้ภายหลังความผิดสำเร็จแล้วขณะจำเลยใช้ยานพาหนะ ศาลอุทธรณ์มิได้ลงโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 ตรี ด้วยเหตุดังกล่าวจึงชอบแล้ว แต่การที่จำเลยกระทำผิดโดยมีอาวุธปืน กรณีจึงต้องลงโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1410/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน: การเพิ่มโทษตามมาตรา 340 ตรี
จำเลยขอเงินผู้เสียหาย 1,000 บาท ผู้เสียหายว่าไม่มี จำเลยจึงชี้ไปที่สร้อยคอของผู้เสียหายพร้อมกับเปิดชายเสื้อให้ดูอาวุธปืนสั้นที่เหน็บอยู่ที่เอวจำเลย จากนั้นจำเลยก็กระชากสร้อยคอผู้เสียหายหลุดติดมือไป ผู้เสียหายแย่งคืนได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง โดยมีอาวุธปืน กรณีจึงต้องระวางโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 ตรี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษโดยศาลอุทธรณ์เป็นการเพิ่มโทษหรือไม่: ข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๓ มีกำหนด ๑ เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำคุกจำเลยที่ ๓ มีกำหนด ๑ เดือน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี เป็นการแก้ไขมาก แต่ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษปรับ ๒,๐๐๐ บาท และ รอการลงโทษจำคุกไว้นั้น ไม่เป็นการเพิ่มเติมโทษ จึงต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๙

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5591/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษ พ.ร.บ.การพนัน: ต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ใน พ.ร.บ.เอง ไม่ใช้ประมวลกฎหมายอาญา
พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ (2) เป็นบทบัญญัติในการเพิ่มโทษเกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. การพนันที่กำหนดไว้เป็นพิเศษต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตราดังกล่าว จะนำหลักเกณฑ์ในเรื่องการเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาใช้หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษ ลดโทษ และการบวกโทษในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวมถึงผลของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 5 ปี ฐานจำหน่ายเฮโรอีน 5 ปีรวมลงโทษจำคุก 10 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 97 คงจำคุกจำเลย 15 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุก 10 ปี บวกโทษจำคุก 2 เดือนที่รอการลงโทษไว้ในคดีอื่นของศาลชั้นต้นเข้าด้วยรวมลงโทษ 10 ปี 2 เดือน ศาลชั้นต้นได้คำนวณการเพิ่มและลดโทษถูกต้องตาม ป.อ. มาตรา 54 และได้นำโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีอื่นมาบวกกับโทษในคดีหลังถูกต้องตาม ป.อ. มาตรา 58 วรรคหนึ่งแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5874/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษปรับเพื่อเพิ่มโทษทางอาญา: เมื่อใดถือว่าพ้นโทษปรับแล้ว
วันพ้นโทษปรับนับแต่วันที่จำเลยชำระค่าปรับครบถ้วน
จำเลยเคยต้องโทษปรับตามพระราชบัญญัติการพนัน พ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบ 3 ปี มากระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนันอีก ศาลวางโทษทั้งจำทั้งปรับในคดีหลังได้ ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ
of 50