พบผลลัพธ์ทั้งหมด 106 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลือกตั้ง: คำร้องเคลือบคลุมหรือไม่เมื่อไม่ได้ระบุรายละเอียดความไม่ชอบมาพากล
คำร้องบรรยายว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนในจังหวัดเชียงรายซึ่งผู้ร้องมิได้รับเลือกตั้ง ได้มีการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายทั้งด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งและกรรมการเลือกตั้งทุกหน่วย และบรรยายการกระทำที่มิชอบว่ากรรมการตรวจนับคะแนนไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้อง โดยนับบัตรที่มีแต่เลขไทยอย่างเดียวของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสีย แต่ของผู้สมัครอื่นนับให้เป็นบัตรดี ย่อมหมายความว่าได้กระทำดังนี้ทุกหน่วย แม้จะมิได้บรรยายว่าการนับบัตรชนิดเดียวกันนี้ให้เป็นบัตรดีบัตรเสีย มีจำนวนโดยประมาณเท่าใด ก็เพราะได้กระทำทุกหน่วยตามที่ผู้ร้องอ้าง ซึ่งยากที่รู้จำนวนโดยประมาณได้จึงไม่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนตามบัญชีในแบบ ผท.18 ชุดที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง ทำให้ผลการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาด เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม เพราะมิได้บรรยายว่า คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนในบัญชีผท.18 ไม่ตรงกันอย่างไร การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริงอย่างไร และทำให้ผลการรวมคะแนนผิดพลาดอย่างไร ซึ่งอาจผิดพลาดในทางที่ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนมากขึ้นหรือน้อยลง คำร้องที่ไม่แสดงข้อเท็จจริงในทางเดียว ย่อมเคลือบคลุม (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14-15/2512)
คำร้องบรรยายว่า คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนตามบัญชีในแบบ ผท.18 ชุดที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง ทำให้ผลการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาด เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม เพราะมิได้บรรยายว่า คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนในบัญชีผท.18 ไม่ตรงกันอย่างไร การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริงอย่างไร และทำให้ผลการรวมคะแนนผิดพลาดอย่างไร ซึ่งอาจผิดพลาดในทางที่ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนมากขึ้นหรือน้อยลง คำร้องที่ไม่แสดงข้อเท็จจริงในทางเดียว ย่อมเคลือบคลุม (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14-15/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลือกตั้ง: การพิสูจน์ความไม่ชอบมาพากลของการนับคะแนนและข้อเท็จจริงที่เคลือบคลุม
คำร้องบรรยายว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนในจังหวัดเชียงรายซึ่งผู้ร้องมิได้รับเลือกตั้ง. ได้มีการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายทั้งด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งและกรรมการเลือกตั้งทุกหน่วย. และบรรยายการกระทำที่มิชอบว่ากรรมการตรวจนับคะแนนไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้อง. โดยนับบัตรที่มีแต่เลขไทยอย่างเดียวของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสีย. แต่ของผู้สมัครอื่นนับให้เป็นบัตรดี. ย่อมหมายความว่าได้กระทำดังนี้ทุกหน่วย. แม้จะมิได้บรรยายว่าการนับบัตรชนิดเดียวกันนี้ให้เป็นบัตรดีบัตรเสีย มีจำนวนโดยประมาณเท่าใด. ก็เพราะได้กระทำทุกหน่วยตามที่ผู้ร้องอ้าง. ซึ่งยากที่รู้จำนวนโดยประมาณได้จึงไม่เคลือบคลุม.
คำร้องบรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนตามบัญชีในแบบ ผท.18 ชุดที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง. ทำให้ผลการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาด. เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม. เพราะมิได้บรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนในบัญชีผท.18 ไม่ตรงกันอย่างไร. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริงอย่างไร. และทำให้ผลการรวมคะแนนผิดพลาดอย่างไร. ซึ่งอาจผิดพลาดในทางที่ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนมากขึ้นหรือน้อยลง. คำร้องที่ไม่แสดงข้อเท็จจริงในทางเดียว. ย่อมเคลือบคลุม. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14-15/2512).
คำร้องบรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนตามบัญชีในแบบ ผท.18 ชุดที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง. ทำให้ผลการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาด. เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม. เพราะมิได้บรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนในบัญชีผท.18 ไม่ตรงกันอย่างไร. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริงอย่างไร. และทำให้ผลการรวมคะแนนผิดพลาดอย่างไร. ซึ่งอาจผิดพลาดในทางที่ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนมากขึ้นหรือน้อยลง. คำร้องที่ไม่แสดงข้อเท็จจริงในทางเดียว. ย่อมเคลือบคลุม. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14-15/2512).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขรก.ใช้อำนาจข่มขู่ประชาชนเพื่อโน้มน้าวให้เลือกตั้งพรรคการเมืองเฉพาะ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นจ่านายสิบตำรวจมีหน้าที่เป็นรองหัวหน้าสถานีตรวจในท้องที่นั้น แม้จำเลยจะไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ราษฎรในท้องที่นั้นย่อมรู้จักดีว่าเป็นตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนจับกุม ฉะนั้น การที่จำเลยพูดว่า ถ้าราษฎรคนใดไม่เชื่อฟังจำเลยและเลือกพรรคฝ่ายค้าน (พรรคโจทก์) ไม่เลือกพรรคเสรีมนังคศิลาแล้ว ให้ผู้ใหญ่บ้านจดชื่อส่งอำเภอ อาจถูกจับหาว่าเป็นคอมมูนิสต์นั้น คำพูดเช่นนี้ย่อมเป็นการขู่ให้ราษฎรเกิดความเกรงกลัวได้ เป็นการอุปการะแก่การเลือกตั้งของผู้สมัครอีกฝ่ายโดยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2499 มาตรา 65.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2501)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ประชาชนเพื่อโน้มน้าวการเลือกตั้งโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นจ่านายสิบตำรวจมีหน้าที่เป็นรองหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่นั้น แม้จำเลยจะไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ราษฎรในท้องที่นั้นย่อมรู้จักดีว่าเป็นตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนจับกุมฉะนั้นการที่จำเลยพูดว่า ถ้าราษฎรคนใดไม่เชื่อฟังจำเลยและเลือกพรรคฝ่ายค้าน (พรรคโจทก์) ไม่เลือกพรรคเสรีมนังคศิลาแล้วให้ผู้ใหญ่บ้านจดชื่อส่งอำเภอ อาจถูกจับหาว่าเป็นคอมมูนิสต์นั้นคำพูดเช่นนี้ย่อมเป็นการขู่ให้ราษฎรเกิดความเกรงกลัวได้เป็นการอุปการะแก่การเลือกตั้งของผู้สมัครอีกฝ่ายโดยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2499 มาตรา 65
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2501)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเป็นโจทก์ร่วมของพรรคการเมืองในคดีเลือกตั้ง: พรรคการเมืองไม่มีสิทธิฟ้องเองได้
พรรคการเมืองสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรไม่ได้ จึงไม่ใช่ผู้เสียหายอันมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งไม่เปิดทำการ แต่ไม่มีเหตุอันสมควรให้มีการเลือกตั้งใหม่
การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดมหาสารคามเป็นไปโดยมิชอบเพราะหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน แต่ปรากฎว่าหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในจังหวัดนั้นมี 186 หน่วยใน 186หน่วยนี้ 185 หน่วยการเลือกตั้งเป็นไปโดยถูกต้อง แต่มีหน่วยเลือกตั้งอยู่ 1 หน่วยคือหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ดังกล่าวข้างต้นไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนน เนื่องจากเจ้าพนักงานผู้ได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งรับเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว ครั้นจวนเวลาเปิดการลงคะแนนตรวจดูปรากฎว่า เครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครเลข 6 ถึง 10มีอยู่เพียงแผ่นเดียว เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งได้พยายามพอสมควรแล้วที่จะให้ได้เครื่องหมายดังกล่าวมาเพื่อเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ก็ได้มาเมื่อจวนหมดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว จึงไม่ยอมเปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง ทั้งไม่ปรากฎว่าได้มีการทุจริตจงใจจะไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างใด และฝ่ายผู้ร้องก็มิได้นำสืบแสดงให้เห็นได้ว่า หากมีการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยที่เจ้าพนักงานไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าวนั้นแล้ว ผู้ร้องจะได้รับคะแนนนิยมเท่าหรือเหนือกว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้โดยพฤติการณ์ทั่ว ๆ ไป ประกอบด้วยเหตุผลที่ปรากฎในคดี ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลือกตั้งที่มีการระงับการลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้งเดียว ศาลฎีกาพิจารณาเหตุผลความชอบธรรมในการไม่ให้มีการเลือกตั้งใหม่
การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดมหาสารคามเป็นไปโดยมิชอบเพราะหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนแต่ปรากฏว่าหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในจังหวัดนั้นมี 186 หน่วยใน 186 หน่วยนี้ 185 หน่วยการเลือกตั้งเป็นไปโดยถูกต้อง แต่มีหน่วยเลือกตั้งอยู่ 1 หน่วยคือหน่วยเลือกตั้งที่ 4 ดังกล่าวข้างต้นไม่เปิดการเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเนื่องจากเจ้าพนักงานผู้ได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งรับเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว ครั้นจวนเวลาเปิดการลงคะแนนตรวจดูปรากฏว่าเครื่องหมายประจำตัวผู้สมัครเลข 6 ถึง10 มีอยู่เพียงแผ่นเดียวเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งได้พยายามพอสมควรแล้วที่จะให้ได้เครื่องหมายดังกล่าวมาเพื่อเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งแต่ก็ได้มาเมื่อจวนหมดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว จึงไม่ยอมเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งทั้งไม่ปรากฏว่าได้มีการทุจริตจงใจจะไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างใด และฝ่ายผู้ร้องก็มิได้นำสืบแสดงให้เห็นได้ว่าหากมีการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยที่เจ้าพนักงานไม่เปิดการลงคะแนนเลือกตั้งดังกล่าวนั้นแล้วผู้ร้องจะได้รับคะแนนนิยมเท่าหรือเหนือกว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้โดยพฤติการณ์ทั่วๆ ไป ประกอบด้วยเหตุผลที่ปรากฏในคดียังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบหรือไม่ แม้มีการสั่งงดคะแนนเสียงในบางหน่วย เหตุผลคือ บัตรผู้สมัครหาย และไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ได้รับเลือก
การที่กรรมการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยเลือกตั้งสั่งงดการส่งคะแนนเสียเฉพาะหน่วยนั้น เพราะบัตรเลขหมายประจำตัวผู้สมัครบางคนหายไป จะให้ฟังว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบหาได้ไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของกรรมการที่เกี่ยวข้อง จะต้องใช้ความระมัดระวังมิให้เกิดการบกพร่องดังกล่าว
แต่สำหรับหน่วยเลือกตั้งที่มิได้มีการลงคะแนนนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมดมีจำนวนเพียง 1,550 คน เท่านั้น ฉะนั้นถึงแม้ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดจะมาใช้สิทธิของตนก็ดี ก็จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่ได้รับเลือกตั้งดังที่ได้ประกาศผลไปแล้วเพราะในจำนวนผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือก 5 คนนั้น คนที่อยู่ในอันดับ 5 ได้คะแนนถึง 41,080 คะแนน สูงกว่าผู้ที่อยู่ในอันดับ 6 ถึง 11,568 คะแนน ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่.
แต่สำหรับหน่วยเลือกตั้งที่มิได้มีการลงคะแนนนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมดมีจำนวนเพียง 1,550 คน เท่านั้น ฉะนั้นถึงแม้ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดจะมาใช้สิทธิของตนก็ดี ก็จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่ได้รับเลือกตั้งดังที่ได้ประกาศผลไปแล้วเพราะในจำนวนผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือก 5 คนนั้น คนที่อยู่ในอันดับ 5 ได้คะแนนถึง 41,080 คะแนน สูงกว่าผู้ที่อยู่ในอันดับ 6 ถึง 11,568 คะแนน ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843-848/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลือกตั้ง ส.ส. จำนวนสมาชิกประเภท 1 และ 2 ต้องเท่ากันเฉพาะช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
สมาชิกประเภท 1 ต้องมีจำนวนเท่ากับประเภท 2 เฉพาะในระยะเวลาเริ่มแรกเท่านั้น ไม่ใช่ต้องเท่ากันไปทั้งสิบปีสมาชิกประเภท 2 จะตั้งเพิ่มจากจำนวนเริ่มแรกก็ไม่ได้ลดก็ไม่ได้เว้นแต่จะเข้าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา116ส่วนสมาชิกประเภทที่ 1 ย่อมต้องมีจำนวนเป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง
การร้องคัดค้านการเลือกตั้งนั้น ศาลมีอำนาจพิจารณาได้ตามพ.ร.บ.เลือกตั้ง มาตรา 60,61 รัฐธรรมนูญ มาตรา 99,113,114
ผู้เลือกตั้งย่อมมีสิทธิร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้เพราะเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายทางศาล
การร้องคัดค้านการเลือกตั้งนั้น ศาลมีอำนาจพิจารณาได้ตามพ.ร.บ.เลือกตั้ง มาตรา 60,61 รัฐธรรมนูญ มาตรา 99,113,114
ผู้เลือกตั้งย่อมมีสิทธิร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้เพราะเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายทางศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงคะแนนเลือกตั้งโดยใช้บัตรที่ไม่ใช่ของตนเอง ถือเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง
จำเลยแจ้งเท็จต่อกรรมการหน่วยเลือกตั้งว่าชื่อ น. ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กรรมการจ่ายบัตรนั้นให้ไปโดยจำเลยเจตนาทุจริตจะลงเครื่องหมายในบัตรและลงคะแนนเลือกตั้งนั้น เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งมาตรา 66 และกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 60