คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 130 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยคดีอาญา: การพิจารณาความประมาทและเหตุแห่งการชน
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า จำเลยได้ขับรถยนต์ซึ่งห้ามล้อมือเสียใช้การไม่ได้ไปตามถนนหลวงด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังโดยหลีกรถในที่คับขัน เป็นเหตุให้รถที่จำเลยขับชนคนด้วย ดังนี้ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยได้หลีกรถในที่คับขันเป็นเหตุให้ชนคนตายโดยประมาท จึงหาเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการทำร้ายและการรวนลาม
ผู้เสียหายเมาสุราแล้วขึ้นไปรวนลามภรรยาจำเลยบนเรือน และทำร้ายจำเลย ๆ จึงต่อสู้ แล้วโดยหนี ผู้เสียหายกลับแสดงอาการจะทำร้ายอีก จำเลยจึงทำรายผู้เสียหายรวม 13 แห่ง ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: เหตุทำร้ายเกิดขึ้นก่อน, จำเลยตกอยู่ในภาวะอันตราย, และการใช้สิทธิป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนแต่ผู้ตายเข้าใจว่าจำเลยตีภริยาตนจึงเกิดโทสะชักมีดวิ่งมาทำร้ายจำเลย ถึงกับกระโดดจากสะพานน้ำไปหาจำเลยในเรือแล้วตกลงไปในน้ำด้วยกันผู้ตายโผกอดปล้ำเอามีดทำร้ายจำเลยมีบาดเจ็บถึง 4 แห่ง จนจมน้ำไปด้วยกัน เมื่อต่างโผล่ขึ้นมาแล้วจำเลยจะต้องนึกรู้ว่าตนจะถูกทำร้ายอีกและจำเลยกำลังอ่อนเพลียเพราะต้องจมน้ำ และน้ำตรงนั้นก็ลึกหยั่งไม่ถึงจะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นไม่ได้ จำเลยจึงยิงผู้ตายตาย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำของผู้ตายที่ยั่วยุจนจำเลยบันดาลโทสะและก่อเหตุฆ่า เป็นเหตุข่มเหงที่ไม่เป็นธรรมตามมาตรา 55
พฤติการณ์ที่ถือว่า เป็นการข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและกระทำให้บันดาลโทษะ ตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะและก่อเหตุฆ่า ได้รับการลดโทษตามมาตรา 55
พฤติการณ์ที่ถือว่า เป็นการข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและกระทำให้บันดาลโทสะ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาข้อเท็จจริง: การต่อสู้สมัครใจและการพิสูจน์ความตายจากเหตุใด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยและผู้ตายสมัครใจต่อสู้กัน ไม่ใช่เป็นการป้องกัน ฉะนั้นการ ที่จำเลยให้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันหรือไม่ จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงและที่จำเลย อ้างว่าความตายของผู้ตายไม่ใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรง แต่ตายเพราะเหตุอื่นนั้น ก็เป็นฎีกาเถียงข้อ เท็จจริงดุจกัน เพราะศาลทั้งสองฟังแล้ว ว่าผู้ตายตายเพราะการกระทำของจำเลย./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นเหตุให้หย่าได้
สามีใช้กำปั้นตีใช้เท้าเตะและใช้ไม้โตเท่าผลส้มเขียวหวานตีภรรยามีบาดแผลบวมช้ำเขียว รวม 23 แห่งด้วยกัน ต้องรักษาตัวอยู่รวม 20 กว่าวัน มีนายแพทย์มาเบิกความประกอบว่าภรรยาต้องรักษาตัวอยู่ที่สุขศาลา 17 วัน มีอาการเจ็บที่อก ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บและเป็นเหตุให้ภริยาฟ้องขอหย่าจากสามีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรมและการสันนิษฐานถึงความรู้เหตุ
การขอบอกล้างโมฆียะกรรมนั้น จะต้องกระทำภายในกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่จะอาจให้สัตยาบันได้
โจทก์รู้การโอน อันเป็นโมฆียะกรรมมากว่า 1 ปี แต่โจทก์ไม่กล่าวในฟ้องหรือนำสืบให้ชัดว่า โจทก์เพิ่งทราบเหตุการหลอกลวงภายหลังใน 1 ปีก่อนบอกล้าง ดังนี้สันนิษฐานว่าโจทก์รู้เหตุบอกล้างตั้งแต่วันที่ทราบถึงการโอนโจทก์บอกล้างไม่ได้เพราะเกิน 1 ปีแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้พ้นวิสัยต้องเกิดจากเหตุที่ทำให้ปฏิบัติการชำระหนี้ไม่ได้ การเจรจาตกลงกับบุคคลอื่นไม่ถือเป็นเหตุ
ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 219 ที่บัญญัติถึงการชำระหนี้ กลายเป็นพ้นวิสัยนั้น หมายถึงว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ปฏิบัติการชำระหนี้นั้นไม่ได้
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่โจทก์ เวลาเจ้าพนักงานไปรังวัด มีผู้ร้องคัดค้านว่าจำเลยนำเจ้าพนักงานรังวัดรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของเขา จำเลยจึงขอต่อเจ้าพนักงานให้งดรังวัดไว้ก่อน เพื่อทำความตกลงกับผู้ร้อง ดังนี้ ยังไม่เรียกว่าจะทำให้การรังวัดและโอนขายให้โจทก์ไม่ได้
ข้อความในรายงานพิจารณานั้น ศาลจดไว้ตามสมควรแก่รูปคดี ศาลไม่มีหน้าที่จดทุกอย่างที่คู่ความประสงค์ให้จด ศาลจะจดให้ฉะเพาะแต่ที่เป็นสาระแห่งคดีเท่านั้น
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความพอจะวินิจฉัยคดีแล้ว ศาลย่อมไม่จำต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นอันไม่สำคัญแก่รูปคดี และสั่งงดสืบพะยานเสียได้.
โจทก์เคยฟ้องจำเลยโดยอ้างสัญญาเดิมและอ้างว่าสัญญาใหม่ที่นำมาฟ้องในคดีนี้ใช้ไม่ได้ ต่อเมื่อศาลยกฟ้องแล้ว จึงหวนกลับเอาสัญญาใหม่มาฟ้องอีก ดังนี้ ย่อมฟ้องได้เพราะเป็นคนละประเด็น ไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 144.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุทำให้เกิดการเสียชีวิต
ผู้ตายกับจำเลย ซึ่งเป็นเด็กอายุไม่ถึง 16 ปี ได้โต้เถียงกันเรื่องโคของจำเลยเข้าไปกินถั่วในไร่ของบิดาผู้ตาย ผู้ตายจะจับจำเลยส่งผู้ใหญ่บ้าน จำเลยหนี ผู้ตายไล่ทันได้จิกผมจำเลยดึงจนหน้าหงาย จำเลยใช้มีดแทงไปทางหลัง 1 ทีถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยทำการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ เป็นผิดตามมาตรา 251, 53.
of 13