คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสารสิทธิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 144 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2684/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปลอมเอกสารสิทธิหลอกกู้เงิน: กรรมเดียวผิดหลายบท ใช้กฎหมายโทษหนักสุด
จำเลยทั้งสองร่วมกันปลอมหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.)ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการโดยการเติมแก้ไขจำนวนเนื้อที่ 1 ไร่ 74 ตารางวา เป็น 50 ไร่ 74 ตารางวา แล้วร่วมกันหลอกลวงโจทก์ร่วมว่าจำเลยทั้งสองมีที่ดิน 50 ไร่ 74ตารางวา จะนำมาเป็นหลักประกันขอกู้เงินจากโจทก์ร่วม แล้วนำเอาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่จำเลยทั้งสองทำปลอมขึ้นมาแสดงต่อโจทก์ร่วม เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อจึงให้จำเลยทั้งสองกู้เงินจำนวน 40,000 บาท และจำเลยทั้งสองได้รับเงินไปในวันเวลาดังกล่าวนั่นเอง เห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองทำการปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม และฉ้อโกงในวันเดียวกัน จำเลยทั้งสองทำการปลอมเอกสาร ก็ด้วยเจตนาที่จะนำเอกสารไปหลอกลวงเพื่อกู้เงินจากโจทก์ร่วมนั่นเอง การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ใช้กฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยทั้งสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมและใช้เอกสารสิทธิหลายประเภทเป็นความผิดต่างกรรมกัน แม้กระทำในวันเดียวกัน
เดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลอมและใช้ใบสมัครกับใบเสร็จรับเงินปลอม 33 ฉบับ ต่อมาโจทก์ขอแก้ฟ้องโดยยกเลิกใบสมัครและใบเสร็จรับเงินที่หาว่าจำเลยปลอม 4 ฉบับ แล้วต่อมาโจทก์ขอแก้ฟ้องโดยขอเพิ่มใบเสร็จรับเงินที่หาว่าจำเลยปลอมและใช้อีก 4 ฉบับ จำนวนเอกสารที่โจทก์ฟ้องจึงคงมีเท่าเดิมคือ 33 ฉบับ ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยปลอมและใช้เอกสารปลอมรวม 33 ฉบับจึงมิได้เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง
แม้จำเลยจะปลอมและใช้ใบสมัครปลอมในวันเดียวกับใบเสร็จรับเงินก็ตาม แต่ก็เป็นการปลอมและใช้เอกสารปลอมคนละประเภท คือ ใบสมัครเป็นจำนวนเงินค่าสมัครสอบ ส่วนใบเสร็จรับเงินเป็นเงินชำระตามรายการอื่น ทั้งจำนวนเงินที่ชำระก็ต่างกัน จึงเป็นความผิดต่างกรรมหาใช่กรรมเดียวกันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2748/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารสิทธิเพื่อหลอกลวงสถานกงสุล ถือเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
สมุดคู่ฝากบัญชีออมทรัพย์มีข้อความแสดงว่าผู้ฝากได้ฝากเงินไว้กับธนาคารย่อมเป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งสิทธิแก่ผู้ฝากที่จะเรียกถอนเงินฝากคืน หาใช่เพียงแต่เป็นหลักฐานแสดงฐานะของผู้ฝากไม่ การที่มิได้ทำขึ้นเพื่อใช้ถอนเงินฝากนั้นก็ไม่ทำให้ลักษณะของเอกสารเปลี่ยนแปลงไปจึงเป็นเอกสารสิทธิ การที่จำเลยทำปลอมสมุดคู่ฝากให้แก่ ก. และหนังสือรับรองว่าผู้นั้นเป็นพนักงานของธนาคาร ด้วยเจตนาเดียวกันที่จะใช้เป็นหลักฐานหลอกลวงเจ้าหน้าที่สถานกงสุลฯให้ออกหนังสือผ่านแดนให้แก่ผู้มีชื่อคนนั้น ไม่ว่าจำเลยจะปลอมเอกสารนั้นพร้อมกันหรือคนละคราว ย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจไม่ใช่เอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9)
หนังสือมีข้อความว่า โจทก์มอบให้จำเลยเป็นผู้มีอำนาจจัดการให้กรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในฐานะตนเองและเป็นตัวแทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ เป็นเพียงเอกสารที่โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยมีอำนาจทำนิติกรรมแทนโจทก์เท่านั้น ไม่เป็นเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งสิทธิ จึงไม่เป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) แม้จำเลยกรอกข้อความในหนังสือมอบอำนาจที่มีลายมือชื่อโจทก์โดยโจทก์ไม่ ยินยอม ก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 265

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3708/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองร่วม การซื้อขายที่ดิน และการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ไม่ชอบ
โจทก์ร่วมเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาทร่วมกับจำเลยจึงมีสิทธิที่จะขายที่พิพาทส่วนที่โจทก์ร่วมมีสิทธิครอบครองให้โจทก์ได้ จำเลยไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการซื้อขายที่พิพาทระหว่างโจทก์กับโจทก์ร่วมเสียทั้งหมด
มูลคดีที่จำเลยฟ้องแย้งโจทก์เป็นคดีละเมิด โจทก์ไม่มีหน้าที่ตามนิติกรรมที่จะต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่พิพาทให้จำเลย การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของโจทก์จึงเป็นการไม่ถูกต้อง
โจทก์ร่วมขอออก น.ส.3 สำหรับที่พิพาทแล้วโอนขายให้แก่โจทก์ จำเลยฟ้องแย้งขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่พิพาทระหว่างโจทก์กับโจทก์ร่วม และพิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ให้โจทก์หรือโจทก์ร่วมโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้จำเลย ถ้าไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา ตามคำขอของจำเลยดังกล่าวแปลได้ว่าจำเลยขอให้ศาลเพิกถอน น.ส.3 ที่โจทก์ร่วมขอออกทับที่พิพาทส่วนของจำเลยอยู่ในตัวดังนั้นเมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองที่พิพาทร่วมกับโจทก์ร่วมและการออก น.ส.3 ให้โจทก์ร่วมเป็นการไม่ชอบทั้งโจทก์รับโอนที่พิพาทมาโดยไม่สุจริต ศาลก็พิพากษาให้เพิกถอน น.ส.3 ดังกล่าวเพื่อให้โจทก์จำเลยต่าง ไปดำเนินการขอเอกสารสิทธิเกี่ยวกับที่ดินของตนตามสิทธิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารสิทธิ ต้องแสดงรายละเอียดสิทธิที่เกี่ยวข้อง มิฉะนั้นเป็นเพียงความผิดฐานปลอมเอกสารธรรมดา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยปลอมใบส่งของอันเป็นเอกสารสิทธิ โดยกล่าวถึงรายละเอียดในการปลอม แต่มิได้บรรยายว่าใบส่งของนั้นเป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลงโอน สงวน หรือระงับ ซึ่งสิทธิระหว่างผู้ส่งของกับผู้รับของอย่างไรบ้าง ดังนี้ การกระทำของจำเลยตามที่บรรยายมาไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารต้องแสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ หากไม่ระบุรายละเอียดถือเป็นเอกสารธรรมดา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยปลอมใบส่งของอันเป็นเอกสารสิทธิ โดยกล่าวถึงรายละเอียดในการปลอม แต่มิได้บรรยายว่าใบส่งของนั้นเป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับ ซึ่งสิทธิระหว่างผู้ส่งของกับผู้รับของอย่างไรบ้าง ดังนี้ การกระทำของจำเลยตามที่บรรยายมาไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734-1735/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิ, เบิกความเท็จในคดีแพ่ง โดยจำเลยรู้อยู่ว่าข้อความเท็จ
โจทก์ได้ลงชื่อในแบบฟอร์มสัญญากู้ให้จำเลยที่ 1 ไป โดยยังไม่ได้กรอกข้อความ จำเลยทั้งสองร่วมกันกรอกข้อความลงไปในสัญญากู้ว่าโจทก์กู้เงินจำเลยที่ 1 จำนวนเงิน92,000 บาท เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2514 ซึ่งเป็นสัญญาปลอม จำเลยทั้งสอง จึงมีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ
จำเลยที่ 1 ได้นำเอกสารสัญญากู้ปลอมมาใช้ทวงถามและ ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง จึงมีความผิดฐานใช้เอกสารสิทธิปลอมอีกกระทงหนึ่งด้วยลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
ฟ้องในข้อหาเบิกความเท็จบรรยายว่า จำเลยทั้งสองเบิกความในคดีแพ่งว่า โจทก์กู้เงินจำเลยที่ 1 ตามสัญญากู้ปลอมที่กล่าวมา ข้างต้น อันเป็นความเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดี โดยมิได้บรรยายว่า จำเลยทั้งสองรู้อยู่ว่าข้อความที่เบิกความนั้นเป็นความเท็จ แต่เมื่อ อ่านฟ้องโดยตลอดแล้ว ย่อมเป็นที่เข้าใจอยู่ในตัวแล้วว่าข้อความ ที่จำเลยทั้งสองเบิกความนั้นจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จ ฟ้องได้ บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรเท่าที่ จะให้จำเลยทั้งสองเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารมอบอำนาจไม่เป็นเอกสารสิทธิ การปลอมแปลงจึงไม่อยู่ในข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ใบมอบอำนาจให้ไถ่ถอนจำนองและจำนองใหม่เป็นแต่มอบอำนาจให้จัดการอย่างใดอย่างหนึ่งแทนไม่ใช่เอกสารสิทธิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3287/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลไม่ใช่เอกสารสิทธิ การลงโทษจำเลยหลายกระทง ศาลมีดุลพินิจ
ใบรับรองของผู้ขอรับเงินช่วยค่ารักษาพยาบาลเป็นคำชี้แจงของผู้ขอเบิกเงิน บันทึกของเจ้าหน้าที่ว่าตรวจถูกต้อง อนุมัติให้จ่ายเงิน เป็นคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ บัญชีหน้างบสมุดคู่มือวางฎีกา เป็นแต่เอกสารราชการ มิใช่หลักฐานแห่งสิทธิ ไม่เป็นเอกสารสิทธิ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 226
มาตรา 91 ก่อนแก้ไขโดย คณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ฯ ความผิดหลายกระทงซึ่งมีอัตราโทษเท่ากัน ศาลลงโทษเพียงกระทงเดียวก็ได้
of 15